There is always the price for power” (Master Vampire)
“พลังพิเศษมีราคาของมันเสมอ” (นายใหญ่แวมไพร์)
หลายคนคงคุ้นเคยกับ “พลังพิเศษ” ของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ต่างต้องแลกมาด้วย “โศกนาฏกรรม” หรือความ “เจ็บปวด” แสนสาหัส หลายตัวละครต้องสูญเสียครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่ของรักหลายอย่างในชีวิต “แดร็กคูล่า” หรือที่เรารู้จักกันดีว่าเป็น “ผีดูดเลือด” ก็ต้องสูญเสียอะไรหลายอย่าง เพื่อแลกมากับพลังพิเศษที่ยากจะต่อกร
https://www.youtube.com/v/jBA4S-AsCwAตัวอย่างภาพยนตร์ "Dracula Untold" (2014)
“Dracula Untold” เป็นเรื่องราวตำนานของ “แดร็กคูล่า” ซึ่งได้รับการกล่าวขานกันมา ว่าแท้จริงเขาคือกษัตริย์ “วลาดที่ 3” (Vlad, นำแสดงโดย Luke Evans) แห่งอาณาจักรวัลลาเซีย ในทรานซิลวาเนีย ใครจะรู้ว่าภายใต้โฉมหน้าหล่อเหลาแต่แสนจะเย็นชาของ “แดร็กคูล่า” ซึ่งปรากฏโฉมเป็น “วายร้าย” ในภาพยนตร์หลายเรื่อง แท้จริงแล้วเขาจะต้องผ่านช่วงเวลาเลวร้ายอะไรมาบ้าง และ “Dracula Untold” ก็น่าจะมีคำตอบให้ค่ะ
วลาด" (Luke Evans) ในมาด "แดร็กคูล่า" หรือ "บุตรของมังกร" (ในภาษาโรมาเนีย)
“I have been waiting an eternity for a man
of your strength to arrive. But what kind of man
crawls into his own grave in search of hope?” (Master Vampire)
“ข้ารอชายผู้มีความแข็งแกร่งเฉกเช่นเจ้ามานานแสนนาน
แต่คนแบบไหนกันที่คลานมาหาหลุมศพตัวเอง
เพื่อตามหาความหวัง? (นายใหญ่แวมไพร์)
“A Desperate one” (Vlad)
“คนที่สิ้นหวัง” (วลาด)
“วลาด” ถูกส่งตัวไปเป็น “ทหารเด็ก” แห่งอาณาจักรเติร์ก (Turks) ได้รับการฝึกปรือทุกกระบวนท่าในการทำสงครามจนถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ้าชายจอมเสียบ” เพราะเขาเก่งกาจจนแทบจะไร้คนต่อกร ที่สำคัญ...เขาชอบทรมานข้าศึกด้วยการเสียบร่างประจานให้ทุกข์ทรมานไปอีกหลายวันก่อนจะสิ้นใจตาย
"วลาด" กับ "อีเกรัส" ลูกชายสุดที่รัก
แต่ “ความโหดร้าย” ก็อยู่กับเขาไม่นาน เมื่อเขาเลือกจบตำนานและกลับไปเป็นกษัตริย์แห่งวัลลาเซียอย่างสงบ ที่บ้านเกิด “ทรานซิลวาเนีย” และทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดีถึง 10 ปีเต็ม “วลาด” พรั่งพร้อมด้วยความสุขและครอบครัวอบอุ่น มีภรรยา “มีเรน่า” (Mirena, นำแสดงโดย Sarah Gadon) และลูกชาย “อีเกรัส” (Ingeras, นำแสดงโดย Art Parkinson)
"มีเรน่า" (Sarah Gadon) ภรรยาคนสวยของวลาด (Luke Evans)
จนกระทั่ง “เมห์เหม็ด” (Mehmed, นำแสดงโดย Dominic Cooper) กษัตริย์ผู้กระหายสงครามแห่งเติร์ก อดีตมิตรที่นับถือกันอย่างพี่น้องของวลาด ส่งสารมาขอเด็กชายจำนวน 1,000 คนไปรบ วลาดเกือบตัดใจส่งลูกชายคนเดียวไปแล้ว แต่เพราะสำนึกความเป็นพ่อ รวมทั้งคำอ้อนวอนกรีดร้องขอชีวิตลูกชายของภรรยา เลยทำให้เขาเปลี่ยนใจสังหารทหารเติร์กตาย ถือเป็นการประกาศสงครามกับเมห์เหม็ดอย่างเป็นทางการ
มื่อร่างมนุษย์สูญสลายกลายเป็นอสุรกายเพียงชั่วข้ามคืน
“What is it that you are seeing?” (Master Vampire)
“เจ้ามองหาอะไร?” (นายใหญ่แวมไพร์)
“I want the power to destroy my enemies and save my family.” (Vlad)
“ข้าต้องการพลังเพื่อทำลายล้างศัตรูและคุ้มครองครอบครัว” (วลาด)
และนี่คือจุดเริ่มต้น "โศกนาฏกรรม" ของแดร็กคูล่า "วลาด" จะรักษาครอบครัวและอาณาจักรของตัวเองไว้ได้หรือไม่ คุณผู้อ่านคงต้องไปติดตามในโรงภาพยนตร์ แต่ที่แน่ๆ เรื่องราวของผีดูดเลือดในตำนานคนนี้ ทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ หรือ "วีรบุรุษ" หลายคนก่อนหน้านี้ ที่ไม่ใช่แค่ "สูญเสีย" แต่ต้อง "เสียสละ" อะไรหลายๆ อย่าง
"วลาด" (Luke Evans) หรือฉายาที่ทุกคนขนานนาม "เจ้าชายจอมเสียบ"
“My father was a great man, a hero, so they say.
But sometimes the world doesn’t need another hero,
sometimes what it needs is a monster.” (Ingeras)
"ว่ากันว่า...บิดาของข้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ วีรบุรุษ
แต่บางทีโลกก็ไม่ต้องการยอดมนุษย์
แต่ต้องการอสุรกายต่างหาก" (อีเกรัส)
มนุษย์เราเป็นสัตว์โลกที่แปลกประหลาด ซับซ้อนและเข้าใจยากค่ะ หลายครั้งเราร่ำร้องขอให้มี "วีรบุรุษ" ช่วยให้เราพ้นจากภยันตราย แต่วิธีการสร้างสันติและความสงบสุขนั้น ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอ โลกแห่งความจริงก็มักโหดร้ายจนบางที...เราอาจต้องยืมมือ "อสุรกาย" ให้เห็นผลเร็วขึ้น
ถ้าใครเป็นคอหนังผีดูดเลือด ก็ไม่ควรพลาดนะคะ การดำเนินเรื่องถือว่าดีทีเดียว รวมทั้งการแสดงของ "Luke Evans" ที่โชว์ฝีมือได้น่าสะเทือนใจมาก อย่างน้อยๆ ภาพสุดโหดและสุดโฉดของแดร็กคูล่าที่เราคุ้นเคยก็ดูจะเลือนหาย เหลือแต่ภาพคนเป็น "พ่อ" และ "กษัตริย์" ที่ยอม "เสียสละ" ทุกอย่างให้ทุกคนมีความสุขและปลอดภัยที่สุด ที่สำคัญ...หนังมีทิ้งท้ายเหมือนจะมีภาคต่อ ก็ต้องรอลุ้นกันค่ะ ว่าเราจะได้เห็น "แดร็กคูล่า" ในภาคต่อไปไหม?
http://www.thairath.co.th/content/458559