" ว่าด้วยผู้มีอุปการะมาก ๓ จำพวก "
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้
เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์)
บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้คือใคร
คือ บุคคล (ศิษย์) อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใด
จึงได้ถึงพระพุทธเจ้า ... พระธรรม ...พระสงฆ์
เป็นสรณะ บุคคล (อาจารย์) นี้
เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล(ศิษย์) นี้
อนึ่งอีก ภิกษุทั้งหลาย บุคคล (ศิษย์)
อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใดจึงรู้ตามจริงว่า
นี่ทุกข์ ... นี่เหตุเกิดทุกข์ ... นี่ความดับทุกข์ ...
นี่ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
บุคคล (อาจารย์) นี่
เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล(ศิษย์) นี้
อนึ่งอีก ภิกษุทั้งหลาย บุคคล (ศิษย์)
อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใด
จึงกระทำให้แจ้งเข้าถึงพร้อมซึ่งเจโตวิมุตติ
ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ เพราะ
สิ้นอาสวะทั้งหลาย ด้วยความรู้ยิ่งด้วยตนเอง
อยู่ในปัจจุบันนี่ บุคคล (อาจารย์)
นี่เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าบุคคลอื่น
จะมีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้
ยิ่งกว่าบุคคล ๓ นี่ไม่มี
อนึ่ง เรากล่าวว่า บุคคล (ศิษย์) นี้
จะทำการสนองคุณแก่บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้
ไม่ได้ง่ายเลย แต่เพียงด้วยการ กราบ ลุกรับ
ทำอัญชลี สามีจิกรรม และคอยให้จีวร
บิณฑบาต เสนาสนะและยาแก้ไข้.
พหุการสูตร (เล่ม ๓๔ หน้า ๗๘)
..
..
อรรถกถาพหุการสูตร
บทว่า ตโยเม ภิกฺขเว ปุคฺคลา
ได้แก่บุคคลผู้เป็นอาจารย์ ๓ จำพวก.
บทว่า ปุคฺคลสฺส พพุการา ได้แก่
ผู้มีอุปการะมากแก่คนผู้เป็นอันเตวาสิก
บทว่า พุทฺธ ได้แก่ พระสัพพัญญูพุทธเจ้า.
บทว่า สรณคโต โหติ ความว่า
ถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่ง.
บทว่า ธมฺม ได้แก่ นวโลกุตรธรรม
พร้อมทั้งแบบแผน (พระปริยัติธรรม).
บทว่า สฆ ได้แก่ ชุมนุมพระอริยบุคคล ๘ จำพวก.
ก็การถึงสรณะนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
ด้วยสามารถแห่งบุคคลผู้ไม่เคยถึงสรณะ
คือผู้ไม่เคยทำความเชื่อมั่น.
เป็นอันว่า อาจารย์ ๓ จำพวก คือ
ผู้ให้สรณะ ๑. ผู้ให้ถึงโสดาปัตติมรรค ๑.
ผู้ให้ถึงพระอรหัตมรรค ๑.
มาแล้วในพระสูตรนี้ ว่ามีอุปการะมาก.
สาวก ภูมิ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100004721327843