บทความนี้ไม่ใช่บทความทางการแพทย์ แต่เป็นบทความที่เขียนขึ้นจากการวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ และพฤติกรรมของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า เพื่อเป็นแนวทางป้องกันและรักษาสภาพจิตใจของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าให้หายขาดได้ด้วยตนเอง หากผู้ป่วยไม่คิดจะรักษาด้วยตนเองแล้ว แม้จะใช้ยาไปจนตลอดชีวิตก็ไม่สามารถหายจากการเป็นโรคซึมเศร้าได้
และเป็นแนวทางป้องกันสำหรับคนที่ยังไม่เป็นโรคซึมเศร้า จะไม่ปล่อยให้ตนเองเป็นโรคนี้
ข้อมูลทางการแพทย์บางส่วนบอกว่าโรคซึมเศร้ามีสาเหตุมาจากยีนส์ในพันธุกรรม หรือจากระดับสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีสาเหตุจากความคิดและจิตใจของผู้ป่วยเองโดยตรง ถ้าคิดดี คิดถูกต้อง จะไม่มีวันเป็นโรคซึมเศร้าได้อย่างแน่นอน
โรคซึมเศร้า หรือ โรครักตัวเองไม่ลง เป็นความเจ็บป่วยทางจิตใจของคนขี้ใจน้อย ขี้เหงา ยอมรับความจริงไม่ได้ ชอบคิดอะไรในทางลบ จิตใจคับแคบ ใจไม่กว้างพอที่จะยอมรับความแตกต่าง ไม่ค่อยชื่นชมคนอื่น ไม่ค่อยคิดอย่างมีเหตุผล มักจมปลักอยู่กับอารมณ์ตนเองคนที่มีลักษณะดังที่กล่าวมานี้ มักจะเจ็บป่วยด้วยโรคซึมเศร้าได้ง่าย มักจะมีความคิดว่าไม่มีใครต้องการตนเอง เข้าสังคมกับใครไม่ค่อยได้ รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความสนใจ รู้สึกว่าตนเองผิด รู้สึกว่าตนเองโง่ รู้สึกว่าตนเองเลว รู้สึกว่าตนเองเป็นตัวถ่วง เห็นอะไรก็คิดผิดไปจากความจริง มีตรรกะที่ผิดแปลกแหวกแนวไปจากคนปกติ รู้สึกหมดหวัง เกลียดตัวเอง
ซึ่งส่งผลต่อสภาวะทางกาย ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดเพราะเบื่ออาหาร หรือน้ำหนักเพิ่มเพราะเอาแต่กิน มีบุคลิกร้อนรนไม่อยู่นิ่ง หรือมีบุคลิกเฉื่อยชาเชื่องช้า มีอาการหงุดหงิด โกรธง่าย หรือร้องไห้ง่าย มักเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคกรดไหลย้อน หากปล่อยให้ซึมเศร้าไปนาน ๆ อาจจะพยายามฆ่าตัวตาย
อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยการรู้จักรักตัวเองให้เป็น คนที่รักตัวเองเป็น ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว เพราะคนเห็นแก่ตัวนั้นรักตัวเองไม่เป็น เขาจึงรักคนอื่นก็ไม่เป็นด้วยเช่นกัน คนเห็นแก่ตัวนั้นใจแคบ ไม่ชอบแบ่งปัน มักขี้อิจฉาและชอบดูถูกคนอื่น มักเอาแต่ความต้องการของตนเองเป็นหลัก ขาดความใส่ใจในผู้อื่น
คนที่รักตัวเอง จะไม่ทำร้ายจิตใจตนเอง ไม่คิดอะไรในทางลบ ไม่มองโลกในแง่ร้าย ไม่ดูถูกตนเอง ไม่อิจฉาใคร มักเป็นคนมีเหตุผล ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ดื้อรั้น ไม่โกรธตัวเอง ไม่ลงโทษตัวเอง และมักมีสติอยู่เสมอเพราะรักและดูแลตัวเองให้มีความสุขกายสุขใจอยู่เสมอ คนที่รักตัวเองเป็น ก็มักจะรักคนอื่นเป็นด้วยเช่นกันถ้าเมื่อไรรู้สึกว่าไม่มีใครต้องการเรา เราก็จงรักตัวเองให้มากขึ้นด้วยการหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำ เช่น เขียนหนังสือ วาดภาพ ทำงานอาสาสมัคร ฯลฯ
ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่า ตนเองผิด ก็จงทบทวนความผิดของตัวเองว่า ผิดอะไร เพราะอะไร ต่อไปจะป้องกันและแก้ไขอย่างไร คิดอย่างแก้ปัญหา ไม่ใช่คิดอย่างซ้ำเติมตัวเอง
ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่า ตัวเองโง่ ก็จงทบทวนดูว่า โง่ในเรื่องใด โง่เพราะอะไร แล้วควรจะทำอย่างไรจึงจะไม่โง่ ต่อไปจะป้องกันการกระทำโง่ ๆ ได้อย่างไร หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่เรายังโง่อยู่
ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่าตัวเองเลว ก็จงทบทวนดูว่า เราได้ทำอะไรลงไปที่เป็นความเลว ทำไปเพราะอะไร ที่ถูกแล้วควรจะทำอย่างไรจึงจะไม่เลว ต่อไปก็อย่าทำความเลวอีก ส่วนสิ่งเลว ๆ ที่ทำไปแล้ว ย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยให้ผ่านไปเป็นบทเรียนที่เราจะไม่ทำซ้ำอีก
หากรู้จักคิดหาเหตุผล รู้จักคิดอย่างแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เอาแต่จมปลักอยู่กับอารมณ์หดหู่ของตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ซ้ำเติมตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง แต่รู้จักสงสารและเห็นใจคนรอบข้าง เพิ่มความเมตตาให้เกิดขึ้นในใจ รู้จักยินดีในความสุขและความสำเร็จของผู้อื่นแทนที่จะไปอิจฉาเขา หรือน้อยอกน้อยใจในโชควาสนาของตัวเอง หากมีวิธีคิดอย่างสร้างสรรค์เช่นนี้ เราก็จะไม่มีวันเป็นโรคซึมเศร้าได้เลยปัญหา ต้องแก้ด้วย ปัญญาเสมอ อย่าจมปลักอยู่กับอารมณ์หดหู่ เศร้าโศกเสียใจ
Pimahn Panyadee :บ้านนักเขียน พิมาน ปัญญาดีhttps://www.facebook.com/Pimahn