..... เป็นอิสระจากจิต คือพุทธะ .....
หลักการพุทธศาสนานิกายเซน
ของ ปรมาจารย์โพธิธรรม (ตั๊กม้อ)
เมื่อครั้งท่านเข้าไปสู่แผ่นดินมังกร ยุคราชวงค์เหลียง
ซึ่งการศึกษาพุทธศาสตร์ตามพระคัมภีร์ กำลังรุ่งเรือง
แม้องค์พระมหากษัตริย์ ก็ทรงบำเพ็ญบุญ สร้างบารมี
ทะนุบำรุงวัดวาอาราม ตลอดทั้งถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์
แต่ด้วยเจตจำนงที่หวังจะถ่ายทอด แนวทางบรรลุธรรม
จึงยังเป็นการยาก สำหรับผู้ที่ยึดความรู้ธรรมะตามตำรา !
ต่อมาท่านจึงไปภาวนาอยู่หลังวัดเส้าหลิน นานกว่า 9 ปี
กระทั่งมีผู้พร้อมที่จะบรรลุธรรมจาริกมา คือ ภิกษุฮุ้ยเข่อ
指直人心 จื๋อ จื่อ เหลิน ซิน : ถ่ายทอดโดยชี้ตรงไปสู่จิต
ภิกษุฮุ้ยเข่อ ผู้สับสนกระวนกระวาย ไม่เป็นอันกินอันนอน
ร้อนใจด้วยกรรมหนักในอดีต ปรารถนาจะพบทางหลุดพ้น
จึงดั้นด้นซมซานมาสู่ภูเขาซงซาน ที่หลีกเร้นของผู้รู้แจ้ง !
แต่แล้วก็ต้องทนหนาวเหน็บ เมื่อปรมาจารย์ยังอยู่ในฌาน
เวลาผ่านไปไฟแห่งโมหะยังแผดเผา ผู้ที่ยึดมั่นถือมั่นใจตน
ความคิดจากอดีตไม่เหือดหาย ความคิดพะวงอนาคตรุมเร้า
ความคิดปัจจุบันก็มีแต่รอยแผลเก่า น่าเศร้าโศกเสียนี่กระไร !
โอ ภิกษุเอ๋ย ! แม้จะพากเพียรเรียนธรรม กดข่มกิเลสตัณหา
ปวารณาตนต่อรัตนะ ก็ใช่จะขจัดอาสวะดับทุกข์ได้โดยพลัน
เหมือนเศษก้างปลากำลังติดคอ ใครกันหนอที่จะช่วยเจ้าได้ !
เมื่อถึงกาลอันควร ครูผู้รู้แจ้งจึงถอยออกจากฌานการพักผ่อน
ปรากฏเห็นผู้มาเยือนคุกเข่าสงบนิ่ง ท่ามกลางหิมะโปรยปราย !
ตั๊กม้อ : อากาศเย็นยะเยือก ไยท่านจึงได้ทรมานตนอยู่เช่นนั้น ?
ฮุ้ยเข่อ : ท่านผู้สงบเอ๋ย ! ที่ข้าน้อยเร่ร่อนมาก็หวังให้ท่านเมตตา
ชี้ทางหลุดพ้นแก่คนยากไร้, ใจของข้าฯ เป็นทุกข์เหลือประมาณ !
ตั๊กม้อ : จงเอาใจของเจ้านั้น รีบส่งมา ข้าฯ จะช่วยให้สมปรารถนา !
ทันใด เมื่อฮุ้ยเข่อย้อนกลับเข้าไปมองหาใจที่กำลังสับสน นั่นเอง
พลันก็พบแต่ความว่างเปล่า, ดุจฟ้าสีคราม ปราศจากเมฆหมอก !
ฮุ้ยเข่อ : ท่านผู้สงบเอ๋ย ! เมื่อข้าฯ มองหาใจแต่ก็ไม่อาจพบมันได้ !
ตั๊กม้อ : นั่นแหละ, ข้าฯ ได้ช่วยเจ้าให้สงบลง จากใจของตนแล้ว !
ฮุ้ยเข่อ ผู้มีอุปาทานยึดมั่นถือมั่นว่าใจเป็นตัวเป็นตน ก็สว่างไสว
พบอมตะธรรม เป็นอิสระจากใจตน ในบัดดล ณ ขณะนั้น นั่นเอง.
ดังนั้น เพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่ผู้มีบุญสัมพันธ์ ตั๊กม้อจึงให้หลัก
เพื่อการพบอมตะธรรมไว้ และได้สืบทอดลงมายาวนาน กว่าพันปี !
不利文字 ปู้ ลี่ เหวิน จื้อ : ไม่ยึดติดกับตัวอักขระ
教外别傳 เจี้ยว ไหว้ เปี๋ย ฉวน : ถ่ายทอดพิเศษนอกคัมภีร์
指直人心 จื๋อ จื่อ เหลิน ซิน : ชี้ตรงไปสู่จิตที่แท้
見性成佛 เจี้ยน ซิ่ง เฉิง ฝอ : พบสภาวะสำเร็จพุทธะ
นี่เป็นการจุดประกายแห่งจิตวิญญาณเซนยุคเริ่มต้น ในแผ่นดินจีน.
เมื่อถึงยุคปรมาจารย์เจ้าโจ 趙州 เซนได้เริ่มเป็นที่แพร่หลายไปทั่ว
เคยมีผู้ถามท่านว่า "ตามคัมภีร์ว่า "สรรพสัตว์ล้วนมีธรรมชาติพุทธะ,
แล้วในสุนัขตัวนั้นเล่า มีธรรมชาติพุทธะหรือไม่" !? ,
เจ้าโจ : 無 ไม่มี ! นี่จึงได้กลายเป็น 公安 กงอัน ปริศนาธรรม สืบมา
"กงอัน" อันลือเลื่องบทนี้ มีคำตอบจากปรมาจารย์เซนว่า 無 อู๋ ไม่มี !!!
ได้กลับแปรเป็น "องค์กรรมฐาน" ของสาวกเซนในกาลต่อมา. แทนที่
จะช่วยขจัดปัดเป่าความวิตกวิจารณ์ออกไปในทันที ตามจุดประสงค์
ที่แท้ แต่แล้วกลับมีบางสายนำมันไปใช้เป็น "องค์บริกรรม" ดั่งควาย
"เคี้ยวเอื้อง" จนน้ำลายฟูมปาก ! ซึ่งไม่ต่างจากการฝึกสมถะแบบอื่นๆ !
และด้วยความยึดมั่นถือมั่นแบบใสซื่อ เถรตรงนี่เอง เซนจึงได้ตายลง
เหมือนซากศพไร้วิญญาณ กลายเป็นแค่เรื่องเล่าขานตราบทุกวันนี้
การนำเอาคำตอบอันเปล่งปลั่งด้วยพลังชีวิตของเซน ไปใช้ผิดลู่ทาง
จึงทำให้การบรรลุธรรมฉับพลันอย่างเซน ต้องลดคุณค่าลงเป็นเพียง
การนั่งข่มใจให้จดจ่อที่คำบริกรรม เหมือนหมาที่ขยันแทะเลียกระดูก !
"เซน" ไม่ใช่จิตบำบัด ที่ให้ยิ้มน้อยๆ คลอเคลียกับลมหายใจ เข้า-ออก !
หากการเล่นเกมส์สมาธิภาวนาข้างถนนเป็นเซน ก็ขอให้เป็นแค่การเริ่ม
และการสลัดคราบของความเป็นนักภาวนาอาสาออกไป ถือเป็นภารกิจ
ที่ใครเป็นสาวกเซน ล้วนต้องตระหนัก !
無 อู๋ ไม่มี คำนี้, เป็นสิ่งที่ปราจารย์เซนเจ้าโจ ชี้ตรงไปสู่พุทธภาวะทันที
ก่อนที่ความคิดเรื่อง "มี" หรือ "ไม่มี" จะปรากฏตัวเป็นรูปความคิดขึ้นมา !
"เซน" ไม่ใช่ลัทธิปฏิเสธโลก แล้วเข้าไปจมอยู่กับกรอบจำกัดของข้อวัตร
และไม่ใช่พวกที่ดิ้นรนแสวงหาอีโก้ ความเป็นตัวตนของตนแต่อย่างใด !
"เซน" เคารพและศรัทธายิ่ง ในธรรมชาติอันบริสุทธิ์ดั้งเดิมของสรรพสัตว์
ดังนั้น สิ่งที่ต้องขจัดออกไป คือ บทบาทอันจอมปลอมของอัตตาต่างหาก !
ไม่ว่าจะมาในคราบเซน หรือรูปแบบดั้งเดิม ก็อย่าให้มันกลายเป็นสิ่งบดบัง
เพราะมีเพียงการสลายตัวตนลงเท่านั้น ธรรมชาติแท้จึงอาจเปล่งประกาย !
以假為真 อี เจี่ย เหวย เจิน : หลงยึดเอาสิ่งปลอมว่าเป็นจริงจัง
以少為足 อี ซ่าว เหวย จู๋ : หลงยึดเอาสิ่งเล็กน้อยว่าเป็นที่สุด !
นี่คือคำเตือนจากปรมาจารย์เซนครั้งบุราณกาล ที่ลูกหลานเซนพึงตระหนัก.
無 อู๋ : ไม่มี
無心 อู๋ ซิน : ไม่มีจิต
無可得 อู๋ เข่อ เต๋อ : ไม่อาจได้รับ
無不可得 อู๋ ปู้ เข่อ เต๋อ : ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้รับ
無所不在 อู๋ เสว่อ ปู้ ไจ้ : ไม่มีแห่งใดที่ไม่มีอยู่
無量無遍 อู๋ เลี่ยง อู๋ เปียน : ไม่มีประมาณ ไม่มีจำกัด
無路可行 อู๋ ลู่ เข่อ สิง : ไม่มีทางไป
無自無他 อู๋ จื้อ อู๋ ทา : ไม่มีตนเอง ไม่มีผู้อื่น
無來無去 อู๋ ไหล อู๋ ชวี่ ไม่มีการมา ไม่มีการไป
無攀缘心 อู๋ พาน เหยี่ยน ซิน : ไม่มีจิตไปเกาะเกี่ยว
無行無相 อู๋ สิง อู๋ เซี่ยง : ไร้รูป ไร้ลักษณะ
應無所住 อิง อู๋ สว่อ จู้ : อย่าให้จิตตั้งอยู่ที่ใด
16/1/2015 บารมี ศรีอริยทรัพย์
รินไซเซน RINZAIZEN
:
https://www.facebook.com/RINZAIZENTHAILAND?fref=nf