“The wise ones always find their ways to happiness no matter how much suffering they have endured.”
Ven. Phra Paisal Visalo
“ผู้มีปัญญา แม้ประสบทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ”
ที่มา:คมธรรมะ
โดย พระไพศาล วิสาโล
กายป่วย ใจไม่ป่วย -พระไพศาล วิสาโล
คราวหนึ่งหลวงปู่บุดดา ถาวโร ได้รับนิมนต์ไปฉันที่บ้าน ของโยมผู้หนึ่งมีพระหลายรูปไปร่วมฉันด้วย พอฉันเสร็จไม่นานพระทุกรูปก็อาเจียนอย่างหนัก เนื่องจากอาหารเป็นพิษ อาเจียนเสร็จก็หมดแรง ส่วนเจ้าบ้านตกใจมากที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
เช้าวันนั้นพระทุกรูปล้มนอนเพราะหมดแรง คงเหลือแต่หลวงปู่บุดดาองค์เดียวที่ยังนั่งพูดคุยกับเจ้าของบ้านและญาติโยม ทั้ง ๆ ที่ท่านเองก็อาเจียนไม่น้อยกว่าพระรูปอื่น เวลาจะอาเจียนท่านก็ลากกระโถนจากใต้ที่นั่งออกมา พออาเจียนเสร็จท่านก็คุยต่อ ไม่ได้แสดงอาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด
ภายหลังได้มีผู้ถามหลวงปู่บุดดาว่า หลวงพ่อไม่เป็นอะไรหรือ จึงนั่งคุยกับญาติโยมเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลวงปู่บุดดาตอบว่า เจ้าภาพเขามีความทุกข์ใจที่นำอาหารเป็นพิษมาถวายพระ ท่านเลยนั่งคุยให้เขาคลายทุกข์ใจ ท่านยังกล่าวต่อว่า
“ร่างกายเรานี้มันสักแต่ว่าเท่านั้น ธาตุ ๔ มันถูกยาเมา ยาเบื่อ มันก็แสดงอาการต่างๆ นานา ส่วนจิตใจมันไม่ได้ถูก ก็เลยไม่เป็นอะไร เหตุเพราะกายกับใจมันคนละเรื่อง รวมกันไม่ได้”
อีกคราวหนึ่งท่านต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดนิ่ว หลังจากผ่าตัดเสร็จ หลวงปู่ก็พูดว่า “ค่อยยังชั่วแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”
แพทย์และพยาบาลพากันแปลกใจ ถามหลวงปู่ว่าท่านไม่รู้สึกเจ็บเลยหรือ คนอื่นผ่าตัดน้อยกว่าหลวงปู่ ยังแสดงอาการเจ็บปวดมากกว่า หลวงปู่ทำอย่างไรถึงไม่เจ็บ
หลวงปู่ตอบว่า “ร่างกายของหลวงปู่ก็เหมือนกันทำไมมันจะไม่เจ็บ แต่จิตใจต่างหากที่ไม่ได้เจ็บป่วยไปกับร่างกายด้วยเท่านั้น”
ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องของกาย แต่แทนที่จะเห็นว่ากายป่วยหรือกายเจ็บ เรามักจะทึกทักหรือสำคัญมั่นหมายว่า “กูป่วย”หรือ “กูเจ็บ” ความป่วยจึงลามไปถึงใจ หาไม่ก็ไปยึดติดถือมั่นกับความเจ็ปวด ใจจึง ปวดไปด้วย หลวงปู่บุดดาเป็นผู้มีปัญญา
ท่านเห็นว่าความเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ใจจึงไม่ทุกข์ร้อนไปด้วย แม้จะมีทุกขเวทนาเกิดขึ้น ก็เพียงแต่รู้เฉยๆ ไม่ยึดติดถือมั่นกับทุกขเวทนานั้น ใจจึงโปร่งเบาสุขสบาย
F/B พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo