ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนคิด - ชวนคุย Vol .4  (อ่าน 1047 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
ชวนคิด - ชวนคุย Vol .4
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2016, 05:57:58 pm »




เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร

เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ

เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป

เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ

เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ

เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา

เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา

เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน

เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ

เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ

เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส

อย่างนี้เป็นความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้




จาก.....ส่วนหนึ่งของ พระสุตตันตปิฎก เล่ม๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ข้อ ๒๔๔ หน้า ๑๖๔

ปัญหามีอยู่ว่าเราไปงานศพแล้วได้อะไรจากงานศพ แล้วพระสงฆ์ได้อะไรจากงานศพ ในครั้งพุทธกาล ไม่มีการสวดศพ ถ้าได้ดูคลิปนี้จบคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเลย ท่าน พุทธทาส อินธปัญโญ ก็ได้ใช้สังขาร ของท่านสั่งสอนคนแล้ว ชวนคิด - ชวนคุย ได้นำเนื้อหาสาระอันเป็นประโยชน์มาพูดคุยวิเคราะห์เจาะลึกเพื่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ขอสำคัญอย่ายึดติดในผู้ที่เทศน์ให้ฟังให้ค้นคว้าจากพระไตรปิฎกเอาเอง

พระปัจฉิมวาจา

๑๔๓ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต

ขโณ โว มา อุปจฺจคา ขณะอย่าได้ล่วงท่านทั้งหลายไปเสีย

สถานการณ์ Covid 19 เริ่มรุนแรงขึ้น ทั่วโลก ถึงแม้นว่าประเทศไทย จะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการควบคุม โควิด ก็ตาม ประชาชนก็ยังมีความหวาดระแวงกับการติดโรค และ จากสถานการณ์อยู่ดีเราจะต่อสู้กับสถานการณ์นี้ ได้ ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจ อยู่บ้าน กักตัวเอง ดูแลป้องกันตนเอง และ พบปะกับคนอื่นๆให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพราะ เราไม่รู้ว่าเราติดเชื้อ หรือ ผู้ใดติดเชื้อ ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันไม่ให้เราแพร่เชื้อให้ใคร และ ไม่ให้ใครแพร้เชื้อให้เราทุก ปัญหา มีทางแก้ไข ทุกวิกฤติ มีโอกาส จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกท่าน คิดในเชิงบวกกับเหตุการณ์วิกฤติ Covid 19 ในครั้งนี้ ซึ่งผมขอแชร์มุมมองของผมดังนี้....
1. การที่เราต้องอยู่กับบ้าน ทำงานที่บ้าน Work from Home WFH เป็นเรื่ืองที่ดีที่จะทำให้สายสัมพันธ์ในครอบครัวมีมากขึ้น ทั้งนี้ บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบ อันเนื่องจากพฤติกรรมของคู่ครองหรือสมาชิกในครอบครัว ถึงอย่างไรแล้ว นี่ก็เป็นโอกาสในการอยู่ร่วมกัน ศึกษาลักษณะนิสัยร่วมกัน ผลที่ได้อาจจะมีความอบอุ่นของครอบครัวมากขึ้น เมื่อทุกคนปรับตัวและเข้าใจซึ่งกันและกัน หรือ ผลที่ได้อาจจะเกิดการแตกหัก อันเนื่องจากแต่ละคนเห็นประโยชน์ของตนเองมากเกินไป ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร มันขึ้นกับตัวของเราเองว่า จะปรับตัวเอง ยอม หรือ แม้นกระทั่ง ปรึกษาหารือกันมากน้อยเพีงใด
2. เมื่อลูกๆต้องเรียนผ่าน Internet ทำให้เห็นว่า ลูกๆเรียนอย่างไร เข้าใจหรือไม่เข้าใจสิ่งที่เรียนมากน้อยเพียงใด และ เห็นว่า อาจารย์สอนอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเห็น ลักษณะพฤติกรรม การเรียนของลูก ๆ ได้ดีขึ้น จะได้ส่งเสริม สนับสนุนการเรียน ของลูกๆได้ อีกทั้ง อาจารย์ บางท่าน จะเริ่มเข้าใจวิธีการเรียนการสอนทางไกล บางคนชอบ บางคนอาจจะลำบากใจ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้การเรียนการสอนในอนาคต มีการปรับเปลี่ยน และใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน มากขึ้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น
3. ลูกที่มีอายุน้อย โรงเรียนไม่ได้จัดการเรียนการสอนผ่าน อินเทอร์เน็ต ก็ทำให้รู้ว่า ลูกๆมีนิสัยอย่างไร ชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไรมากขึ้น เพราะได้ใช้เวลาอยู่กับลูกมากขึ้น ผู้ปกครองบางคนก็ไม่ชอบเพราะปวดหัวกับพฤติกรรมของลูกๆ ที่ซนเหลือเกิน นั่นก็เป็นเรื่องที่ทำให้ ผู้ปกครองจะได้ฝึกการควบคุมอารมณ์ของตนเอง และ มองความเป็นจริงของลูกๆ แต่ถ้า ผู้ปกครองฝึกตนเองไม่ได้ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องปวดหัวของผู้ปกครอง คิดมาก วุ่นวาย เป็นโอกาสของผู้ปกครองที่จะฝึกฝนตนเองให้มีความ กรุณา ปราณี ต่อเด็กๆมากขึ้นด้วย
4. สถานศึกษาที่ไม่สามารถสอนผ่านทางไกล อาจจะมองเห็นถึงปัญหาของสถานศึกษา ซึ่ง ผู้บริหารฯ อาจจะลงทุน เพิ่ม เทคโนโลยี เข้าไปยังโรงเรียน มหาวิทยาลัย มากขึ้น เพื่อสร้างให้เกิด การเรียนการสอนผ่าน ดิจิทัล ให้กลายเป็น สถานศึกษา 4.0 ต่อไป
5. บางบ้านที่ไม่มี อินเตอร์เนต จะเห็นความสำคัญ ความจำเป็นในอนาคต ทำให้ การผลักดัน Digital 4.0 ของภาครัฐ หลังจบ วิกฤติโคโรน่า มีการตอบสนองมากขึ้น
6. เราได้เรียนรู้ คน ได้มากขึ้น ว่า คนรอบข้างเรา ใครมองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ หรือ ใครเป็นกัลยาณมิตร ให้กับคนทั่วไปมากน้อยเพียงใด จากการช่วยเหลือ แบ่งปัน ให้กับสังคม
7. เราได้เรียนรู้ว่า หัวหน้างาน ผู้บริหาร และ เจ้าของกิจการ มีลักษณะนิสัยในการบริหารอย่างไร เขามองเรื่อง ความสำคัญของพนักงาน สุขภาพอนามัยของพนักงาน คนงาน มากน้อยเพียงใด หรือ เขาเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองมากน้อยเพียงใด ทำให้เราเข้าใจและปรับตัวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีขึ้น
8. ประเทศไทย คนไทย ที่มี พูทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ มีคนพุทธ มากที่สุดในประเทศ จะนำเอาหลักธรรมของศาสนา มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้มากน้อยเพียงใด คนที่ฝึกฝนตนเอง ก็จะเป็นโอกาสให้นำเอาหลักธรรมมาฝึกฝนจิตใจ ได้มากยิ่งขึ้นด้วย
9. คนไทยจะตื่นตัวเรื่อง สุขภาพอนามัย มากขึ้น
ทั้งหมดทั้งมวล ผมมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผม เป็นมุมมองส่วนบุคคล ที่ผมได้รับ และ หวังว่า ทุกคน จะมองในมุมบวกของตนเอง จะได้ไม่เครียดกับข่าวสาร ในยุคดิจิทัล นะครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2020, 03:33:19 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน