แสงธรรมนำใจ > หยาดฝนแห่งธรรม
พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
ฐิตา:
ภาพวาดปฐมเทศนาในวัดเจดีย์เหลี่ยม จ.เชียงใหม่
พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
รายงานโดย :แม่ชีศันสนีย์:
วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553
เมื่อเกือบ 2,600 ปีที่ผ่านมา บุรุษหนึ่ง...
ได้ประกาศชัยชนะต่อกิเลสแทนมวลมนุษยชาติ โดยมหาบุรุษนั้นมีพระนามว่า
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเมื่อเกือบ 2,600 ปีให้หลัง จากการบวชเรียนเป็นเวลา 30 พรรษา
หนึ่งในรางวัลชีวิต บนเส้นทางธรรมที่ข้าพเจ้าได้รับก็คือ
การได้รับเชิญให้ไปร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรก
ในประวัติศาสตร์ ของนักบวชหญิงชาวพุทธ
ที่ได้มีโอกาสแสดงธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้แห่งการตรัสรู้
ณ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย
ในค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชาวพุทธจากนานาชาติมาร่วมฟังการแสดงธรรม
ของพุทธสาวิกาแห่งพระพุทธองค์
ปรากฏความรื่นรมย์ยิ่งภายในใจ ด้วยว่าบรรดางานที่พระพุทธองค์ทรงนับเป็นพุทธประสงค์ที่สุด
คือการช่วยเหลือให้สรรพชีวิตทั้งหลายรอดพ้นจากความทุกข์ และในฐานะธิดาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ข้าพเจ้าจึงทำงานตามที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานไว้ว่า
การปฏิบัติบูชา...ถือเป็นการบูชาอันสูงสุด
และการช่วยคนให้รอดพ้นจากความทุกข์...ถือเป็นธรรมทายาท
จากวันแรกบวชถึงปัจจุบัน...ทุกงานของทุกวันได้บ่มเพาะให้ 30 พรรษานี้แตกหน่อและต่อยอด
เป็น สาวิกาสิกขาลัย และทำให้ข้าพเจ้าหมดสงสัย
ในการใช้ชีวิตที่เป็น ธิดา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เช่นที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
“ธิดาของเราเป็นผู้มีปัญญามาก ฉลาดในทาง
และมิใช่ทาง”
การเดินทางอยู่บนหนทางที่ประกอบด้วยปัญญา ศีล สมาธิ หรืออริยมรรคมีองค์ 8 นั้น ทำให้ข้าพเจ้าอาจหาญโดยธรรม และสามารถพิสูจน์ได้ว่า ธรรมศักดิ์สิทธิ์จริงและเห็นผลจริง เมื่อเราใช้จริง...พร้อมทั้งประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า ชีวิตที่สงบเย็นนั้นปฏิเสธซึ่งการเป็นประโยชน์มิได้ ขอขอบคุณประโยชน์อันมหาศาลที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ชัดว่า เมื่อใดพุทธสาวิกา หรือธิดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทำตามคำสอนแล้ว เมื่อนั้นย่อมหมดสงสัยอย่างสิ้นเชิง
และเมื่อชีวิตที่เหลือนี้ปราศจากความสงสัย ด้วยว่าประจักษ์แจ้งแก่ใจ...จึงไม่แสวงหาสิ่งที่ไม่ใช่ทาง เพราะรู้แล้วว่าอะไรคือหนทาง และจะเดินอยู่บนหนทางนี้อย่างสม่ำเสมอด้วยลมหายใจเข้าที่สงบเย็น และมีลมหายใจออกที่เป็นประโยชน์ ข้าพเจ้ามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมคนให้เป็น “อริยชน” ผ่านการสนับสนุนการศึกษา สร้างให้รู้จักใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต เพื่อเปลี่ยนจาก “การเป็นทุกข์” สู่ “การเห็นทุกข์” และดำเนินชีวิตอย่างรู้ ตื่น และเบิกบาน ดังอริยสัจจากพระโอษฐ์ที่ว่า “การเป็นพระอริยเจ้าไม่ใช่สิ่งสุดวิสัย” อันเป็นพุทธประสงค์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2552 ทุกสิ่งที่ได้กล่าวไว้ ยังคงกระจ่างชัดขึ้นในความทรงจำ “ทางนั้นเป็นทางสายตรง ทิศนั้นไม่มีภัย รถที่ไร้เสียงประกอบด้วยล้อคือธรรม ความละอาย คือ หิริ เป็นฝาประทุน ความรู้สึกตัว คือ สติ เป็นเกราะของรถ สัมมาทิฏฐิ เป็นตัวนำดังสารถี ยานนี้มีแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เขาย่อมถึงนิพพานได้ด้วยยานนี้”
และท่ามกลางสังฆสมาคมในวันนั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศว่า
ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราจะมาร่วมกันเฉลิมฉลอง
พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเพื่อเป็นการเตรียมการเฉลิมฉลอง 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ เสถียรธรรมสถานจึงใช้เวลาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2555 เตรียมการทำงานโดยใช้งานเป็นฐานแห่งการภาวนา พวกเรามองว่าเป้าหมายของงานก็คือการประสบสุขจากการทำงานที่ได้ลดตัวตน และเพราะตัวตนเล็ก งานจึงใหญ่ สมดังที่ “พ่อ” สอนไว้ว่า ศักยภาพของมนุษย์ที่จะต้องไปให้ถึงก็คือ การใช้โอกาสในการเกิดนี้เป็นการเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์ การเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์คือการเกิดที่ทำลายตัวตนลง
หลังจากนั้นครูบาอาจารย์และกัลยาณธรรมที่มาเยี่ยมเยียนชุมชนเสถียรธรรมสถานก็ได้มีการปรึกษาหารือถึงเรื่องนี้กันอย่างต่อเนื่อง โดยอาคันตุกะที่เข้ามาเยียมเยือนล่าสุด คือ พระอาจารย์ปานขาว (Panekhao Chasane Sakhone) พระภิกษุชาวลาว เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณาราม เมืองตุดนง ประเทศฝรั่งเศส พระอาจารย์ทำงานร่วมกับพุทธสมาคมฝรั่งเศส หรือ UBF (Union Buddhist in France) ท่านเมตตาเล่าว่าเมื่อปีที่แล้วได้จัดงานวิสาขบูชาร่วมกับนักบวชพุทธนิกายต่างๆ ที่กรุงปารีส โดยการสนับสนุนของรัฐบาล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
และยังเมตตาถ่ายทอดให้ฟังว่า หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ ได้เคยกล่าวกับพระอาจารย์ไว้ว่า เมื่อหมดภาระในการออกมาช่วยโลกแล้ว ต่อไปก็ควรจะช่วยให้สตรีที่เป็นผู้นำทางศาสนาของนานาชาติ อาทิ เกาหลี ทิเบต จีน ญี่ปุ่น และไทย ไปรวมตัวกันที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเป็นการบอกว่าพุทธศาสนามิได้มีการกีดกั้นสตรีเพศ และสามารถร่วมงานกันได้ และขอให้ช่วยแม่ชีศันสนีย์และสตรีเท่าที่จะมีกำลังช่วยได้ เมื่อได้มาเยือนประเทศไทย พระอาจารย์จึงมาเยี่ยมเยียนเพื่อจะได้มีโอกาสร่วมงานกัน
และเมื่อพระอาจารย์ปานขาวได้ฟังเรื่องของการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เมตตากล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอให้ปี 2012 (พ.ศ. 2555) นี้ เป็นปีแห่งการฉลองปีของผู้หญิงในพุทธศาสนา และดำริกับข้าพเจ้าว่า เราควรเชิญผู้หญิงในศาสนาอื่นมาร่วมแสดงความยินดีด้วย โดยพุทธสมาคมฝรั่งเศสและยุโรปจะร่วมกันจัดงานฉลองวิสาขบูชาอีกครั้ง ในเดือนวิสาขะปี 2012 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ไม่มีการจัดสรรใดศักดิ์สิทธิ์เท่าการจัดสรรของธรรมะอีกแล้ว
และก็ไม่มีอะไรจะรื่นรมย์เท่าการที่เหล่าพระสงฆ์ หรือเพื่อนผู้ร่วมเดินทางบนเส้นทางธรรม จะให้โอกาสผู้หญิงทำงานอย่างเต็มที่เช่นนี้
:http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=84944
Pics by : Google
สุขใจดอทคอม * อกาลิโกโฮม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:13: อนุโมทนาครับพี่แป๋ม
ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ:
:07: ขอบคุณ :19: และ อนุโมทนาด้วยค่ะ พี่แป๋มจ๋า ^^ .. :13:
ดอกโศก:
อนุโมทนาค่ะ พี่แป๋ม
บัวเพิ่งเคยได้ยินคำว่า "พุทธชยันตี"
:13:
ฐิตา:
--- อ้างจาก: คัมภีs๎ไร้อักษs~ ที่ สิงหาคม 15, 2010, 11:44:55 am ---
:07: ขอบคุณ :19: และ อนุโมทนาด้วยค่ะ พี่แป๋มจ๋า ^^ .. :13:
--- End quote ---
--- อ้างจาก: ดอกโศก ที่ สิงหาคม 15, 2010, 08:05:42 pm ---อนุโมทนาค่ะ พี่แป๋ม
บัวเพิ่งเคยได้ยินคำว่า "พุทธชยันตี"
:13:
--- End quote ---
ในการใช้ชีวิตที่เป็นธิดา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เช่นที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
“ธิดาของเราเป็นผู้มีปัญญามาก ฉลาดในทาง
และมิใช่ทาง”
อนุโมทนาสาธุ กับนู๋นิและน้องบัวเช่นกันนะคะ...
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version