ผู้เขียน หัวข้อ: บทความเพื่อชีวิตเพื่อสร้างสรรชีวิตใหม่+  (อ่าน 921 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
1905-Bkk by arnocha2002, on Flickr

IMG_007739 by arnocha2002, on Flickr


ภาพด้านบนเป็นยุคสมัยที่มีความสุขผู้คนก็ไม่มีจำนวนมากซึ่งในยุคปัจจุบันต่างกันเยอะ

http://youtu.be/W9D3y5uMka4




สวัสดีครับทุก ๆ ท่านก็พบกันอีกเช่นเคยแต่ไม่รู้ว่าจะพบกันได้นานแค่ไหนน่ะเกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง

ทุก ๆ คนมีกิเลส(มีความอยาก)อยากได้ อยากมี อยาก เป็นอันความอยาก ความต้องการนั้นเป็นโลภมูลจิต เมื่อต้องการ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสที่ดี จึงเสาะแสวงหา เมื่อแสวงหาได้มาแล้ว ขณะจิตที่รู้ รูป เสียง กลิ่น ฯลฯ ดี ๆ นั้น มิใช่ผล มาจากความอยากความต้องการนั้น เพราะโลภมูลจิตเป็นเหตุที่ไม่ดี จะให้ผลที่ดีไม่ได้ ขณะจิตที่รู้อารมณ์ที่ดี ทาง ตา หู จมูก ฯลฯ เป็นกุศลวิบากจิต ต้องเป็นผล มาจากกุศลกรรม มิใช่ผลมาจากความอยากความต้องการ ที่เป็นโลภมูลจิต วิปัสสนาญาณขั้นแรกมิใช่ให้ละความอยาก ความต้องการในชีวิตประจำวัน แต่เป็นปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะที่ต่างกันของนามธรรม รูปธรรม ในชีวิตประจำวันนี่เอง ซึงก็ไม่ใช่จะประจักษ์แจ้งได้ทันที  ต้องอบรมเจริญวิปัสสนา รู้ลักษณะของนาม - รูปเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับไม่ถ้วน



อรรถคาถา.....ผู้มีปัญญา อยู่ครองเรือน เพื่อประโยชน์แก่หมู่ชน พหูนํ วต อตฺถาย สปฺปญฺโญ ฆรมาวสํ(สัปปุริสสูตร ๒๓/๒๑๙)

หัวข้อธรรม....ขอให้ใช้ทุกโอกาสที่เป็นไปได้

พบปะกับผู้อื่น

ขอให้พยายามพูดคุยและ เสวนา

กับเพื่อนของเรา

เมื่อเรากระทำอย่างกล้าหาญและทรงพลัง

เราสามารถช่วยคนจำนวนมากขึ้น

ให้สร้างความสัมพันธ์กับ พุทธธรรม

ในขณะเดียวกัน

เราจะยกระดับสภาพชีวิตของเราเองได้โดย ธรรมชาติ

ดังนั้น....ขอให้ท้าทายเอาชนะข้อจำกัด

จงสนับสนุนอย่างอบอุ่นและส่งเสริมกำลังใจอย่างหมดหัวใจ

ไม่ว่าพวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่


สิ่งสำคัญคือผู้นำจะต้องอธิบายอย่างชัดเจน

ถึงอะไรเป็นจุดสำคัญของสิ่งที่ตัวเองพูด

ด้วยการพูดคุยหรือสนทนา ฯลฯ

ซึ่งปลุกเร้า มีความหมาย และมีประโยชน์ต่อทุกคน

จงเร่งความก้าวหน้าของเรามุ่งสู่ชัยชนะสูงสุด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2020, 12:36:30 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน