ผู้เขียน หัวข้อ: สถาบันพลังจิตตานุภาพจัดสอบภาคสนาม(ธุดงค์) สำหรับ ครูสมาธิรุ่น 37 ณ ดอยอินทนนท์  (อ่าน 1976 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานไตรสรณะสุจิปุลิ
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


     ศูนย์ข่าวศรีราชา - สถาบันพลังจิตตานุภาพจัดสอบภาคสนาม (ธุดงค์) สำหรับศึกษาครูสมาธิรุ่นที่ 37 ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 59
       
       สถาบันพลังจิตตานุภาพจัดสอบภาคสนาม (ธุดงค์) สำหรับศึกษาครูสมาธิรุ่นที่ 37 (สัตตัตติงสโม) วิริยะพล ณ ดอบอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 59 โดยพระธรรมมงคลญาณ พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ผู้ก่อตั้งสถาบันจิตตานุภาพได้เมตตานำธุดงค์ในครั้งนี้ ซึ่งการศึกษาในหลักสูตรครูสมาธินั้นต้องใช้เวลาการศึกษาภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน ใช้เวลาเรียนตามหลักสูตร 200 ชั่วโมง จึงจะมีสิทธิสอบ และในขั้นสุดท้ายต้องผ่านการสอบภาคสนาม 4 วัน 3 คืน ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ จึงสามารถจบหลักสูตรครูสมาธิได้อย่างสมบูรณ์
       
       โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา นักศึกษาครูสมาธิรุ่นที่ 37 (สัตตัตติงสโม) วิริยะพล สถาบันพลังจิตตานุภาพ พร้อมคณะทำงานทุกสาขาทั่วประเทศ เดินทางไปสอบภาคสนามเดินธุดงค์ ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เริ่มออกเดินทางจากแต่ละสาขาทั่วประเทศพร้อมกันในวันที่ 9 มี.ค. พ.ศ.2559 เพื่อเดินทางไปสอบปฏิบัติภาคสนาม เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 10-13 มี.ค. พ.ศ.2559 การสอบภาคสนามครั้งนี มีนักศึกษาและ คณะทำงาน ที่ฐานวัดเทพเจติยาจารย์ และที่ฐานดอยอินทนนท์ โดยมีนักศึกษาที่ผ่านการสอบทั้งภาค ทฤษฎี และภาคปฏิบัติร่วมเดินทางไปเดินธุดงค์ในครั้งนี้หลายพันคน
       
       พระธรรมมงคลญาณ พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ผู้ก่อตั้งสถาบันจิตตานุภาพ ได้เคยกล่าวไว้ว่า จุดประสงค์ของการก่อตั้งสถาบันจิตตานุภาพ เป็นเพราะหลวงพ่อต้องการถ่ายทอดให้บุคคลทั่วไปรู้จักสมาธิ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราสามารถรู้จักฝึกอบรมสมาธิก็จะทำให้เกิดปัญญา เกิดจิตนิยม Mentalism อันจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
       
       เนื่องจากสมาธิจะก่อให้เกิดสิ่งสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ความรับผิดชอบ 2.ความมีเหตุผล ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้จะนำไปสู่ 3.ความมีเมตตา อันเป็นสิ่งที่ยังขาดแคลนในโลกยุคปัจจุบันที่เน้นไปทางด้านวัตถุนิยม (Materialism) และมีจิตนิยมน้อยเกินไป เพราะฉะนั้น หลวงพ่อจึงมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดให้ความรู้ในศาสตร์แห่งสมาธิ เพิ่มพูนพลังแห่งจิต ไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงผู้คนจากทุกชาติศาสนา ไม่ว่าจะมีพื้นเพเช่นใด หลวงพ่อจะต้อนรับให้มาฝึกสมาธิ
       
       หลวงพ่อยังเคยเล่าให้ฟังอีกว่า ในสมัยที่ท่านอายุ 13 ปี หลวงพ่อเริ่มรู้จักกับสมาธิเป็นครั้งแรก ซึ่งได้สร้างความปีติสุขแก่จิตใจของท่านมาก จึงมีความตั้งใจที่จะศึกษาสมาธิเพื่อเผยแพร่ และแบ่งปันสิ่งอัศจรรย์นี้ให้แก่คนทั้งหลายในโลก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็ล้มป่วยเป็นอัมพาต บิดาพาไปรักษาก็ไม่มีหมอคนใดรักษาได้ ทั้งยังบอกว่า หมดหวังแล้ว หลวงพ่อจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้ามีผู้รักษาท่านให้พ้นจากโรคร้ายนี้ได้ท่านจะอุทิศตนให้แก่การสอนสมาธิแก่ชาวโลก ไม่นานก็มีชีปะขาวเดินทางมาพบท่าน และถามว่าท่านได้อธิษฐานดังที่ว่าจริงหรือไม่ จากนั้นก็เป่าลมใส่ตัวท่าน 3 ครั้ง เพียงแค่นั้นท่านก็หายจากความเจ็บป่วย ต่อจากนั้นท่านจึงตั้งใจมุ่งมั่นอุทิศชีวิตให้แก่การสอนสมาธิตามที่ได้อธิษฐานไว้
       
       หลวงพ่อได้มีโอกาสฝึกสมาธิจากพระอาจารย์กงมา และหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นพระอริยเจ้าที่มีผู้ให้ความเคารพเลื่อมใสเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น หลวงพ่อจึงได้เริ่มสอนสมาธิในประเทศไทย ต่อมาเห็นควรให้ขยายไปต่างประเทศเพื่อให้ชนทุกชาติทุกภาษาได้มีโอกาสรู้จักกับคุณประโยชน์แห่งสมาธินี้ เช่น ในแคนาดา ก็มีสถาบันสอนสมาธิถึง 6 สาขา ได้แก่ ริชมอนด์ฮิลล์ ไนแอการาฟอลส์ เอดมันตัน คัลการี แวนคูเวอร์ และออตตาวา ปัจจุบัน สถาบันพลังจิตตานุภาพมีสาขามากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศไทย และอีก 9 สาขาในต่างประเทศ
       
       นอกจากนี้ หลวงพ่อต้องการให้การฝึกสมาธิเป็นศาสตร์ จึงได้เขียนตำราสอนสมาธิขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้ จนเป็นที่นิยม และปรารถนาที่จะเผยแพร่ความรู้ให้ชาวต่างชาติได้รับทราบ จึงได้มีการแปลหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งท่านได้เริ่มศึกษาภาษาอังกฤษด้วยวัย 76 ปี เพราะเห็นว่าจะเอื้ออำนวยต่อการสอนสมาธิ จนสามารถสื่อสาร และสอนชาวต่างชาติได้
       
       สำหรับบุคคลผู้สำเร็จหลักสูตรครูสมาธิที่ผ่านการสอบทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ รวมทั้งการสอบภาคสนาม จะเป็นผู้ที่มีหลักวิชาการเต็มภาคภูมิ สามารถดำเนินงานให้มีประโยชน์ และเป็นหลักการแนวเดียวกันอันจะเป็นเอกภาพทีมีความมั่นคงสืบต่อไป





















จาก http://astv.mobi/AYyS3zx

http://202.44.33.100/samathi/branch/109/activity_read.php?id=457
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...