ผู้เขียน หัวข้อ: พระสังฆนายก นิกายวัชรยาน มองโกเลีย ละสังขาร มาแล้ว 200 ปี แต่ ร่างไม่เน่าเปื่อย  (อ่าน 1707 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



ท่าน ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ สมัยยังมีชีวิต

<a href="https://www.youtube.com/v/rah7DQUfVqw" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/rah7DQUfVqw</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/CRAiFAQ8E4w" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/CRAiFAQ8E4w</a>

ในปี 1927 "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ" พระสังฆนายกนิกายวัชรยานในแคว้นบูเรียต และประธานพุทธศาสนิกชนแห่งรัสเซีย ได้ถึงแก่มรณภาพ หนึ่งปีก่อนที่ท่านจะละสังขารได้เตือนให้สานุศิษย์เดินทางออกจากรัสเซียเสีย เพราะ "ลัทธิแดง" กำลังรุกมาทางตะวันออกถึงแคว้นบูเรียต ซึ่งหมายถึงพรรคบอลเชวิก หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์ใกล้มายังไซเบียแล้ว หลังโค่นล้มพระเจ้าซาร์ และพวกเมนเชวิก

แต่ท่านไม่ได้อยู่เป็นพยานการทำลายล้างศาสนาในรัสเซีย ในปีต่อมาท่านมีญาณเล็งเห็นว่าจะถึงกาลมรณะแล้ว จึงสั่งให้สานุศิษย์สวดมนต์ภาวนาพร้อมประกอบพิธีศพ ส่วนท่านนั่งสมาธิแล้วหมดลมไปในท่านั้น

ร่างของท่านถูกฝังไว้ในสุสานลามะ ซึ่งรอดพ้นจากการทำลายของคอมมิวนิสต์มาได้ จนกระทั่งถึงปี 1955 รัสเซียผ่อนปรนเรื่องศาสนามากขึ้น บรรดาลามะจึงเปิดหีบศพออกดู พบว่า ร่างไม่เพียงไม่เน่าเปื่อยแต่ยังดูใกล้เคียงกับตอนที่ยังมีชีวิต แต่ลามะมิได้รายงานเรื่องนี้ักับรัฐบาล เรื่องจากเห็นว่าพรรคฯ ยังไม่ใส่ใจกิจการด้านศาสนานัก และมีการเปิดโลงศพท่านอีกครั้งในปี 1973 แตก็มิได้แพร่งพรายเช่นกัน

จนกระทั่งในปี 2002 จึงได้มีการนำร่างของท่านดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ มาประดิษฐานไว้ในวิหารใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกับมีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งระบุว่า สภาพร่างสังขารของท่านคล้ายกับผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตมาได้เพียง 36 ชั่วโมงเท่านั้น ขณะที่ผู้ดูแลเปิดเผยว่า ต้องคอยเช็ดร่างท่านทุกวัน เพราะมีของเหลวคล้ายเหงื่อซึมออกมาตลอด



นับแต่นั้น ร่างของดาชิ ดอร์โฌิ อิติกิลอฟ ก็กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธรัสเซียทั่วประเทศ แม้แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ยังเดินทางมา "สนทนา" กับร่างสังขารของดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟถึง 2 ครั้ง 2 ครา

แต่จะสนทนากันในเรื่องใดนั้น ไม่เป็นที่ทราบเแน่ชัด

จาก http://www.madchima.org/forum/index.php?PHPSESSID=6io3vv0jtuk60j20buei5lsb36&topic=14837.msg53334#msg53334





<a href="https://www.youtube.com/v/ggxLFYVAlYE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/ggxLFYVAlYE</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/3K6E23ZPGWk" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/3K6E23ZPGWk</a>

คณะนักวิทยาศาสตร์จากมองโกเลียตรวจสอบร่างพระภิกษุรูปหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วกว่า 200 ปีแต่ยังมีสภาพร่างกายค่อนข้างสมบูรณ์ที่กำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิและมีหนังสัตว์ปกคลุมตัว โดยเจ้าหน้าที่สามารถนำร่างของลามะรูปนี้กลับมาเก็บรักษาเอาไว้ได้หลังรอดจากการถูกขโมยลงมาจากถ้ำแห่งหนึ่งในกรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของประเทศ เพื่อนำไปขายในตลาดมืดได้ ตั้งแต่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าลามะรูปนี้น่าจะเสียชีวิตลงในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งนับจนถึงตอนนี้ยังไม่พบรายงานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของพระสงฆ์รูปนี้แต่อย่างใด ภายหลังจากที่ร่างได้ถูกส่งไปยังศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุว่าเพราะเหตุใดร่างของพระรูปนี้จึงยังไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาของมองโกเลียให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ของสำนักข่าวไซบีเรีย ไทม์ โดยระบุว่า ลามะรูปนี้นั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ มือซ้ายทรงวัชระ ส่วนมือขวาทำสัญลักษณ์เป็นการเทศนาพระสูตร ซึ่งบางส่วนเชื่อว่าพระสงฆ์รูปนี้ยังไม่มรณะภาพแต่ยังคงอยู่ระหว่างการนั่งฌาณลึกทำสมาธิตามประเพณีโบราณ

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานการละสังขารของพระสังฆนายกนิกายวัชรยานในแคว้นบูเรียตของรัสเซียที่มีชื่อว่า “ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ” ซึ่งละสังขารเมื่อปีพ.ศ. 2470 ด้วยการให้ศิษยานุศิษย์ฝังร่างของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ ก่อนที่จะมีการเปิดหีบศพของพระสงฆ์รูปนี้เมื่อ 13 ปีก่อน ซึ่งพบว่าร่างกายของลามะรัสเซียก็ยังมีสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน

ติดตามเราได้ที่ www.thairath.tv
Facebook : ThairathTV
Twitter : Thairath_TV
Instagram : ThairathTV


ที่มา:  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423070700





ผู้เชี่ยวชาญมหายานชี้ "พระมองโกเลีย" ร่างมัมมี่ อาจยังไม่มรณภาพ แต่กำลังเข้าสมาธิลึก

ร่างของพระสงฆ์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่ ด้วยท่านั่งขัดสมาธิเพชร ซึ่งถูกค้นพบทางตอนเหนือของประเทศมองโกเลีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นซึ่งตกอยู่ความสนใจใคร่รู้ของผู้คนจำนวนมาก

กระบวนการชันสูตรร่างของพระสงฆ์รูปนี้ที่ถูกห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ยังคงดำเนินไป อย่างไรก็ตาม พระอาวุโสหลายรายต่างระบุว่า ภิกษุรูปนี้ยังไม่ได้มรณภาพ ทว่าท่านกำลังอยู่ในสภาวะของการทำสมาธิระดับลึก



นักวิทยาศาสตร์หลายคน ยังไม่แน่ใจว่า เหตุใด ร่างของพระภิกษุรายนี้จึงยังไม่เน่าเปื่อย โดยผู้เชี่ยวชาญบางส่วนสันนิษฐานว่า อากาศหนาวเย็นของมองโกเลีย อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยรักษาร่างกายของพระรูปดังกล่าวเอาไว้ จนมีสภาพสมบูรณ์

อย่างไรก็ดี ด็อกเตอร์แบร์รี่ เคอร์ซิน แพทย์ประจำตัวขององค์ดาไล ลามะ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ ไซบีเรียน ไทม์ส ว่า พระรูปนี้อยู่ในสภาวะการเข้าสมาธิในระดับอันยากจะพบเจอ ซึ่งเรียกว่า "ทัคดัม"

"ถ้าผู้เข้าสมาธิสามารถเพ่งจิตอยู่ในการทำสมาธิขั้นนี้ได้ต่อไป เขาก็จะเข้าถึงสภาวะแห่งพุทธะ"
ด็อกเตอร์เคอร์ซิน กล่าว

ร่างของพระภิกษุรูปนี้ ถูกค้นพบ หลังจากมีหัวขโมยรายหนึ่งนำร่างดังกล่าวไปขายในตลาดมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตีนแมวรายนั้น และนำร่างพระภิกษุไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ



ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพระภิกษุรูปนี้เป็นใคร แม้จะมีบางข้อสันนิษฐานที่ระบุว่า ท่านอาจเป็นอาจารย์ของลามะดาชิ-ดอร์โซ อิทิกิลอฟ ซึ่งศพของลามะรูปดังกล่าวก็ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่เช่นกัน

เมื่อปี ค.ศ.1927 ลามะอิทิกิลอฟ ซึ่งขณะนั้น อาศัยอยู่ในเขตแดนที่เป็นประเทศสหภาพโซเวียต ได้แจ้งกับศิษยานุศิษย์ว่า ท่านกำลังจะมรณภาพ และขอให้พวกเขาขุดร่างท่านขึ้นมาจากหลุมฝังศพ หลังเวลาผ่านพ้นไป 30 ปี

จากนั้น ลามะรูปดังกล่าวก็นั่งขัดสมาธิเพชร เพื่อเข้าสมาธิ ก่อนจะมรณภาพ อีก 3 ทศวรรษต่อมา เมื่อมีผู้ขุดศพของท่านขึ้นมา พวกเขาก็พบว่าร่างกายของลามะยังอยู่ในสภาพไม่เน่าเปื่อย

แต่เนื่องจากหวาดกลัวการเข้ามาแทรกแซงของทางการโซเวียต ลูกศิษย์ของลามะอิทิกิลอฟจึงฝังร่างของท่านเป็นครั้งที่สอง กระทั่งในปี ค.ศ.2002 จึงมีการขุดร่างของท่านขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ ร่างของท่านก็ยังอยู่สภาพสมบูรณ์เช่นเคย กระทั่งตกเป็นข่าวคราวในความสนใจของสาธารณชน

ส่งผลให้มีการนำร่างของลามะท่านนี้มายังวัดแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปสักการะบูชาความเป็นอมตะของท่าน

ที่มา บีบีซี:  http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-31125338

<a href="https://www.youtube.com/v/wPoc3cnL0cE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/wPoc3cnL0cE</a>






อนุสนธิ์ ว่าด้วยของเหลวจากร่างของ "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ"

ในบทความว่าด้วยร่างสังขารไม่เน่าเปื่อยของท่าน "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ" ผู้นำชาวพุทธนิกายวัชรยานในรัสเซีย เมื่อราวต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งในบทความระบุถึงผู้ดูแลร่างของท่าน ที่เปิดเผยว่า ต้องคอยเช็ดร่างท่านทุกวัน เพราะมีของเหลวคล้ายเหงื่อซึมออกมาตลอด

หลังจากทำการศึกษาพบว่า ของเหลวดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเหงื่อ แต่น่าจะเป็นน้ำมันพิเศษ

ที่พิเศษเพราะน้ำมันที่ว่านี้จะออกมาจากร่างสังขารของผู้บรรลุอภิญญา หรือภูมิธรรมชั้นสูงเท่านั้น ในพุทธศาสนิกายวัชรยานเรียกของร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของพระอริยะเจ้าว่า "วัชรกาย" และหากสามารถควบคุมธาตุให้คงร่างได้ตามต้องการ เรียกว่าบรรลุ "วัชรจิต"

ส่วนเหลวจากร่างวัชระถือกันว่าเป็น "ธาตุศักดิ์สิทธิ์" แม้ในเมืองไทยก็มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับร่างสังขารของ "พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร" หรือนพระโพธิ์แจ้งมหาเถระ อดีตเจ้าคณะใหญ่ สงฆ์จีนนิกาย รูปที่ 6

พระโพธิ์แจ้งมหาเถระมีภูมิธรรมสูงส่งมาก และมีสถานะยิ่งใหญ่ เพราะเป็นผู้สืบทอดนิกายวินัยของมหายานฝ่ายจีน และผู้สืบทอดวิชาของนิกายวัชรยานสายท่านนอร่าริมโปเชแห่งทิเบต (เรื่องนี้มีรายละเอียดยืดยาว จะขยายความต่อไป)


ท่านเจ้าคุณอาจารย์โพธิ์แจ้ง สมัยยัง มีชีวิต

หลังจากมรณภาพแล้วปรากฎว่า พระโพธิ์แจ้งมหาเถรบรรลุ วัชรกาย วัชรจิต ไม่เพียงไม่เน่าเปื่อย แต่ยังมีของเหลวซึมออกมาจากร่าง ซึ่งเว็บไซต์ ก่งฮุก (http://www.gonghoog.com/) ได้ให้รายละเอียดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ว่า

"ในครั้งนี้มีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นจากการเชิญสรีระของท่านออกมาแล้ว เพื่อรอการปิดทองตามเจตนารมณ์ของท่านเจ้าคณะใหญ่จีนนิกายองค์ปัจจุบัน

"ในขณะที่รอก็มีน้ำมันไหลออกมาจากสรีระของท่านทุกวัน ผ้าเหลืองที่พับไว้ให้สรีระท่านรองนั่งเปียกชุ่มโชกทุกวัน และกลุ่มผู้ดูแลและผู้รู้เรื่องทั้งหมดไม่มีใครทราบความสำคัญของกรณีนี้เลย (ในทิเบต ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและมหาศักดิ์สิทธิ์ พระอาจารย์ผู้บรรลุธรรมถ้าให้น้ำมันออกจากสีรระร่างในลักษณะนี้ ถือว่าพระอาจารย์มอบพระธาตุไว้ให้บรรดาศิษย์เป็นที่ระลึกไว้บูชา น้อยมากที่จะมีกรณีนี้เกิดขึ้น)"

"เหตุการณ์นี้ดำเนินอยู่สองปีกว่าเกือบสามปี และผู้ดูแลก็นำผ้าซึ่งเปียกชุ่มน้ำมันจากสรีระของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งไปเผาทิ้งหมด ด้วยความไม่รู้ จนเมื่อพระมหาวัชราจารย์โซนัมริมโปเช พระลามะผู้มีความสัมพันธ์กับท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง ท่านเป็นหลานของท่านนอร่าริมโปเชผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง ผู้ซึ่งกลุ่มศิษย์ผู้ดูแลสรีระของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งเชิญมาและกราบท่านเป็นพระอาจารย์มาหลายปีแล้ว ท่านมาประเทศไทยประจำทุกปี แต่ครั้งนี้มีกิจทำให้ท่านมาเมืองไทยเมื่อเกิดเหตุนี้แล้วเกือบสามปี"

"ท่านได้รู้เหตุการณ์นี้และได้บอกว่าการให้น้ำมันเช่นนี้ เป็นที่มหายินดีแก่บรรดาลูกศิษย์ของชาวพระอาจารย์ชาวทิเบต เพราะว่าพระอาจารย์ท่านได้มอบพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้หมู่ศิษย์ไว้เป็นที่ระลึก กรณีให้น้ำมันนี้จะไม่หยุดจนกว่าหมู่ศิษย์จะรู้เรื่องและเก็บน้ำมันนี้ไว้เป็นที่ระลึก และเมื่อรู้เรื่องแล้ว การให้น้ำมันก็จะหยุดลง และทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น"

"หลังจากที่ท่านวัชราจารย์โซนัมริมโปเช ท่านบอกกล่าวให้รู้ ในวันถัดมาน้ำมันก็ไม่ออกมาอีกเลย ผมได้เก็บน้ำมันพระธาตุนั้นไว้ และได้นำมาสร้างพระเครื่อง และบรรจุไว้ในพระบูชาที่ได้สร้างขึ้น นี่เป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์หนึ่งในหลายเรื่องที่ได้เกิดขึ้นซึ่งได้ประสบมากันตนเอง"

การควบคุมร่างสังขาร จึงมิใช่เพื่อคงร่างให้เป็นนิรันดร์ แต่เพื่อมอบให้สานุศิษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายได้สักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล ในฐานะพระธาตุอย่างหนึ่งนั่นเอง

และที่สำคัญ เพื่อเป็นมรณานุสติ และอสุภกรรมฐาน ให้เกิดญานเล็งเห็นว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง

จาก http://www.sookjai.com/index.php?topic=177446.0
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...