ผู้เขียน หัวข้อ: ไขปริศนาพระเจ้าตาก รู้แล้วต้องทึ่ง.! ใครกันแน่คือครูสอนกรรมฐานพระเจ้าตาก.?  (อ่าน 1041 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
ข้อมูลที่นักประวัติศาสตร์ มิอาจล่วงรู้ ครูกรรมฐานคนแรกของพระเจ้าตาก เป็นใคร !



ไขปริศนาพระเจ้าตาก รู้แล้วต้องทึ่ง.! ใครกันแน่คือครูสอนกรรมฐานพระเจ้าตาก.?

ข้อมูลที่นักประวัติศาสตร์ มิอาจล่วงรู้ ครูกรรมฐานคนแรกของพระเจ้าตาก เป็นใคร.? เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ลี้ลับมาก ถูกกล่าวไว้ว่าจากคำบอกเล่าของหลวงพ่อจรัญ โดยเปิดเผยว่าอาจารย์ผู้สอนกรรมฐานให้พระเจ้าตากคือ พระในดง ผู้ทรงอภิญญา ส่วนหลักฐานทางประวัติศาสตร์พระอาจารย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินนั้นเท่าที่ทราบในปัจจุบันคือ หลวงปู่ทองดีจากวัด โกษาวาศน์ จ.พระนครศรีอยุธยา (เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินเรียนหนังสือและออกบวชครั้งแรก 3 พรรษา) ส่วนอีกท่านเป็นพระภิกษุ ผู้ทรงอภิญญาลึกลับ เรียกกันว่า “พระในดง” หรือ บ้างก็เรียกว่า “หลวงตาดำ” แต่ที่รู้จักกันดีในแวดวงนักกรรมฐานคือ “หลวงปู่เทพโลกอุดร”

หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นพระอภิญญาที่หลวงปู่โง่นเองก็ยืนยันว่ามีจริง และหลวงปู่โง่นเองก็ยังเคยได้รับการสั่งสอนกรรมฐานจากหลวงปู่โลกอุดรด้วย หลวงพ่อจรัญก็เช่นกัน ท่านเองก็ได้พบกับหลวงปู่โลกอุดรหรือหลวงตาดำ เป็นพระรูปร่างสูงใหญ่ผิดมนุษย์ หลวงตาดำหรือหลวงปู่โลกอุดรนี้ มาสอนสติปัฏฐานให้หลวงพ่อจรัญ สอนการเดินจงกรมและการภาวนาหลายอย่าง ส่วนหลวงปู่โง่นกล่าวว่า หลวงปู่โลกอุดรนั้นท่านมาสอนเรื่องการใช้กายแฝงหรือกายทิพย์


หลวงปู่โลกอุดร

การพบกันของหลวงปู่โลกอุดรและพระเจ้าตากสินนั้น หลวงพ่อจรัญท่านเล่าไว้ว่า เมื่อครั้งที่พระเจ้าตากสินตั้งค่ายอยู่ในป่า ครั้นตกดึกเข้า ก็มีพระภิกษุลึกลับรูปหนึ่งเดินเข้ามาหาถึงในที่ประทับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเดินฝ่าทหารคุ้มกันมาเช่นนี้

    สมเด็จพระเจ้าตากสินถามพระลึกลับรูปนั้นว่า “ท่านเข้ามาได้อย่างไร”
    พระลึกลับตอบว่า “เดินเข้ามา”
    พระเจ้าตากถามว่า “แล้วทหารไม่เห็นท่านดอกหรือ”
    พระลึกลับรูปนั้นตอบว่า “ไม่ทราบ”

พระเจ้าตากคิดในใจว่าจะสั่งลงโทษทหารยาม พระลึกลับรูปนั้นก็กล่าวดักใจขึ้นมาทันทีว่า “อย่ามองความผิดผู้อื่น ให้มองความผิดตัวเองดีกว่า”



พระบรมสาทิสลักษณ์พระเจ้าตากสินขณะผนวชเป็นพระภิกษุ

คำพูดของพระลึกลับรูปนั้น ทำให้พระเจ้าตากแปลกใจ เพราะสามารถล่วงรู้ความคิดในใจของพระองค์ได้ จากนั้นพระลึกลับรูปดังกล่าวก็แสดง “อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์” คือ เทศนาโปรดใจความว่า

    “มหาบพิตรทำลายชีวิตคนมานักต่อนัก ฆ่าคนมามากต่อมาก มือทั้งสอนเปื้อนเลือด การกระทำเหล่านี้เป็นบาปหนัก แม้ว่าจะลาจากโลกนี้ไปแล้วย่อมมีนรกที่ไปเป็นแน่แท้”

พระเจ้าตากจึงตอบว่า “ที่กระผมทำไปเพราะเป็นหน้าที่ ในการปกป้องแผ่นดิน”
พระลึกลับรูปนั้นท่านก็ตอบกลับมาว่า “มาบัดนี้มหาบพิตร ก็ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วมหาบพิตรเกิดมาเพื่อกู้ชาติ หน้าที่นี้ก็ลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ส่วนการปกป้องชาตินั้นเป็นหน้าที่ของผู้อื่น สมควรให้เขามาทำแทน ขอมหาบพิตรอย่าจับดาบอีกเลย อาตมาขอบิณฑบาตดาบจากมหาบพิตร”

      “แล้วเหตุใดกระผมจึงต้องทำเช่นนั้น”
      “ทำไปเพื่อเป็นการตัดความหลงในวัฏสงสาร เพราะหากพระองค์ต้องรับภาระในการปกครองบ้านเมืองก็รังแต่จะสร้างกรรมน้อยใหญ่ผูกมัดให้เกิดชาติภพ หลงวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารอย่างไม่รู้จักจบยาวนานจะบังเกิดแต่ความทุกข์มีชาติ ชรา มรณะเป็นต้น
      อาตมาทราบดีว่ามหาบพิตรได้ทำบุญมานับชาติไม่ถ้วน มีวาสนาจะบรรลุธรรมชั้นสูงในบวร พระพุทธศาสนา ในครั้งนี้จึงได้มาโปรดให้รู้แนวทางมรรคผลเพื่อตัดทางสังสารวัฏอันยืดยาว”



หลวงปู่โง่น

ด้วยการสนทนาเพียงเท่านี้ สมเด็จพระเจ้าตากสินก็เกิดสติปัญญาขึ้นมา ล่วงรู้ว่าพระภิกษุลึกลับที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหาใช่พระภิกษุธรรมสามัญไม่ แต่ต้องเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวิเศษจึงสามารถล่วงรู้วาระจิตทายทักดักใจได้ เพียงการเทศนาแต่เพียงน้อยก็ทำให้เกิดศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง

พระลึกลับรูปนั้นได้เมตตาสอนสติปัฏฐาน 4 แก่สมเด็จพระเจ้าตากสิน และหลังจากที่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วยหลักพุทธานุสติ และอาณาปนสติประกอบด้วยสติปัฏฐาน 4 นั้น จิตของพระองค์ลุล่วงเข้าสู่สมาธิชั้นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เห็นเป็นเพราะผู้มีบุญวาสนามาแต่ปางก่อน ซึ่งพระลึกลับรูปนั้นล่วงรู้เรื่องนี้ดี เป็นไปตามความเป็นจริง

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินปฏิบัติทางมรรคผลนี้แล้ว ภูมิจิตภูมิธรรมเดิมก็บังเกิดเลิกการจับดาบถือดาบ เปลี่ยนแปลงไปเหมือนคนละคน ไม่นิยมสุงสิงกับใคร วันๆ ตั้งหน้าปฏิบัติดูจิตดูกายเท่านั้น คนทั่วไปทางโลกวิสัยก็เข้าใจว่าพระองค์บ้า

การปฏิบัติกรรมฐานตามแนวทางพระในดงรูปนั้น เชื่อกันว่าทำให้พระเจ้าตากบรรลุมรรคผลเบื้องต้นโดยสะดวกคือได้ “พระโสดาบัน” ตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส นับเนื่องเป็นบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์โดยแท้จริง


จาก ที่มา : หนังสือญาณพระอริยะ ไขปริศนาพระเจ้าตาก
ขอบคุณภาพและบทความจาก : http://www.partiharn.com/contents/147769/

" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...