ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมาภิรมย์ : ธรรมะทำไม ทำไมธรรมะ (อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา )  (อ่าน 1706 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




คุยกับดาว : ปอกเปลือกผู้ชายหัวใจหล่อ ‘หนิง - นิรุตติ์ ศิริจรรยา’

   มนุษย์เราตีความคำว่า ‘หล่อ’ ในมุมที่ผิดแผกแตกต่างกันออกไป อย่างในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ที่ผ่านมา ได้ให้นิยามคำว่า ‘หล่อ’ เอาไว้เป็นภาษาปาก หมายถึง ความงาม เช่น รูปหล่อ เป็นต้น ซึ่งบางคนก็ชอบที่จะมองความหล่อเพียงแค่รูปลักษณ์หรือหน้าตาจริง ๆ อย่างที่พจนานุกรมให้นิยามไว้ แต่ ออล แม็กกาซีน ในฉบับนี้ขอมองต่างไปจากนั้น โดยขอเลือกมองความหล่อที่หัวใจของใครคนใดคนหนึ่ง

           ‘หนิง - นิรุตติ์ ศิริจรรยา’ คือเป้าหมายที่เราค้นพบ นอกจากความหล่อที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุแล้ว ความคิดและความอ่านของผู้ชายคนนี้ก็หล่อไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมืออาชีพทางการแสดงที่เขายึดถือ การให้ความ สำคัญกับธรรมชาติรอบตัว รวมไปถึงรักในความสงบและ    พอเพียงกับชีวิตที่เป็นอยู่ จากข้อมูลที่ได้รับ ทำให้เราอยากที่จะรู้จักชีวิตของเขาให้มากขึ้นไปอีก โดยไม่ใช่แค่มองหน้าตาและท่าทางเพียงอย่างเดียว แต่การนั่งพูดคุยน่าจะทำให้เราเห็นถึงความหล่อของเขาชัดมากขึ้น

วงการบันเทิงมีส่วนช่วยสร้างตัวตนของนิรุตติ์อย่างที่เห็นในปัจจุบันหรือไม่

          มันไม่ได้ช่วยเหลือหรือว่าหล่อหลอมอะไรในตัวของผมเลย วงการบันเทิงเป็นการบังคับให้เราอยู่ในวินัย ขอบเขต และกฎระเบียบมากกว่า เราไม่สามารถแสดงอะไรที่เกินควรในที่สาธารณะ หรือที่ที่มีผู้คนมากได้ เพราะแต่ละสถานที่ย่อมมีกาลเทศะ   แตกต่างกันออกไป อาชีพนักแสดงเลยถูกคุมประพฤติให้     เป็นแบบนั้น ถ้าคุณอยากที่จะสบายหรือเป็นตัวของคุณเอง คุณควรนอนอยู่บ้านดีกว่า เพราะเมื่อนักแสดงออกมาข้างนอก เลี่ยงไม่ได้หรอกที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา สายตาของใครต่อใครก็มองมาที่เรา คล้ายกับเป็นสายตาที่จ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นแล้ววงการบันเทิงบังคับให้ผมเป็นแบบนั้น และถูกคุมประพฤติโดยประชาชนทั้งหมด ยกตัวอย่าง เวลาเราขับรถยนต์ไปตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง มันจอดรถลงมาแล้วด่าเรา เราจะทำอย่างไร ก็ต้องค่อยพูดค่อยจากันไป แต่ถ้าเป็นคนทั่วไป หรือประชาชนคนอื่น อาจจะมีเรื่องกันแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องระวังกันทุกฝีก้าวเมื่อจะออกมาบนท้องถนน หรือแม้แต่อยู่บ้านก็ไม่ค่อยปลอดภัยเหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะถ้าเกิดไปทำเสียงอะไรรบกวนข้างบ้านเข้า เขาก็จะคิดว่า ไม่มีการศึกษา หรือไร้มารยาทเอามาก ๆ ฉะนั้นแล้วจะต้องระวังตัวเองทุกฝีก้าว และทำตัวให้อยู่ในร้อยเปอร์เซ็นต์ของความดีที่เราควรจะต้องทำ

วงการบันเทิงได้มอบอะไรให้กับชีวิตของนิรุตติ์บ้าง

          พูดถึงการทำงานมันก็มีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ซึ่งเงินทองเป็นของที่ประจักษ์ในสังคมสำหรับอาชีพนี้ แต่สิ่งที่ผมได้คือ    มีงานทำ บางคนชอบคิดว่า เป็นนักแสดง ต้องมีเงินทองเยอะแยะ นั่นแสดงว่า คุณขาดการไตร่ตรองไปอย่างหนึ่ง นักแสดง     ไม่ใช่อาชีพประจำและไม่ได้เป็นอาชีพหลัก อาชีพที่คุณทำเป็นประจำ คุณจะรู้ว่าสิ้นเดือนคุณจะได้เท่าไหร่ แต่ผมไม่รู้ เพราะอีกหลายเดือนกว่าผมจะได้สิ่งนั้น ดังนั้นแล้ว เรื่องของการใช้เงินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ใช่ว่าได้เงินทองมาเยอะมาก แต่   ปีนั้นมีอยู่งานเดียว อีก 3 ปีก็จะอายุ 70 ปีแล้ว ผมยังต้องผ่อนรถอยู่เลย เพราะว่าเงินได้มาก็ต้องใช้ไปกับอย่างอื่นด้วย เมื่อเรามีรถ เราไม่ต้องซ่อมบำรุงหรอกหรือ ไม่ต้องเติมน้ำมันรถหรือ ไม่ต้องซ่อมอะไรกันเลยหรือ วิ่งไป 3 ปี ยางแฟบ ไม่ต้องเปลี่ยนยางกันเลยหรือ ฉะนั้นต้องคิดให้ละเอียดอย่างหนึ่งว่า การทำงาน 8 เดือนของเรา กว่าจะได้เงินกลับมา บางรายเขานำไปจ่ายตอนปิดกล้อง แล้ว 8 เดือนคุณจะเอาอะไรกิน บางครั้ง ก็อยากจะเป็นหนี้นอกระบบเหมือนกัน อยากไปกู้ชาวบ้านเขาบ้าง แต่ก็กลัวเขาจะเข้ามาบุกตีคนใช้และสุนัขของผม ก็เลยไม่กล้าไปกู้ เพราะมันโหดเหลือเกิน แล้วจะทำอย่างไรต่อไป ก็ต้องวางแผนการเงินของเราให้ดีว่า จะใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรบ้าง เพราะอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ไม่สามารถบอกคุณได้ว่า    เมื่อไหร่คุณจะมีงาน เมื่อไหร่เขาจะยื่นซองขาวมา อยู่ ๆ มันไม่มี อะไรมาเลย แล้วคุณก็ตกงานไปโดยปริยาย ฉะนั้นแล้วการ  เตรียมตัวไปถึงอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราก็ไม่มีบำเหน็จบำนาญมานั่งใช้ตอนเกษียณเหมือนอย่างคนอื่นเขา    ดังนั้นแล้วที่หลายคนคิดว่า นักแสดงได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง มันไม่ใช่อย่างที่คิดหรอก อย่างของคุณทำงาน 1 เดือนก็ได้เงิน แต่ของเราทำงาน 8 เดือนกว่าเงินจะออกมาทีหนึ่ง เงินทองจึงไม่ใช่หลักตายตัวที่วงการบันเทิงจะให้ หลักตายตัวที่วงการบันเทิงจะให้นั่นก็คือ มีงานทำ

นิรุตติ์ใช้หลักใดในการรักษาอายุขัยการเป็นนักแสดงของตัวเอง เพราะนักแสดงต่างก็มีอายุขัยของมัน

          ทุกอาชีพไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม ต้องคุมตัวเองให้อยู่ โดยคุมความประพฤติและนิสัยของตัวเองให้ได้ ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องระวังมากขึ้นเท่านั้น อย่าใช้อำนาจไปในทางที่ผิด ไม่ใช่เป็นนักแสดง แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เพราะนักแสดงคือคนของประชาชน ไม่ใช่คนในจอ ในฉากละคร หรือในภาพยนตร์ที่คุณจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เมื่อเป็นนักแสดงแล้ว     กาลเทศะและมารยาทสมบัติผู้ดีต้องมาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด
 
ถ้ามีเด็กรุ่นใหม่เดินเข้ามาถามคุณว่า จะอยู่ในวงการบันเทิงตลอด 45 ปีเหมือนอย่างที่นิรุตติ์เป็นบ้าง ควรต้องทำอย่างไร คุณมีคำแนะนำอะไรที่จะบอกกับพวกเขา

          ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตาม ต้องซื่อสัตย์ต่องานทุกงานที่ทำ เป็นหลักธรรมดาของธรรมชาติอยู่แล้ว รับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลัง และรู้จักบทบาทของตัวเองเป็นอย่างดี แค่นี้เพียงพอแล้ว เมื่อไปทำอะไรหรือที่ไหนก็ตาม เพราะถ้า  คุณไม่รู้จักคำว่า ‘หน้าที่’ ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ยิ่งถ้ารู้จักหน้าที่ แต่ไม่ทำหน้าที่นั้นให้ดี ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างง่าย ๆ พรุ่งนี้นัดถ่าย 7 โมงเช้า แต่   ตี 3 คุณยังไม่หลับไม่นอน ตื่นมาอีกที 8 โมงเช้า บทก็ยังจำ  ไม่ได้ นั่นแปลว่า คุณไม่ซื่อสัตย์ในหน้าที่การงานของตัวเอง   ตั้งแต่แรก และไม่คำนึงถึงหน้าที่ที่ตัวเองจะต้องทำ ตรงนี้เลยกลายเป็นหลักง่าย ๆ ที่ทุกคนก็รู้ แต่จะทำได้หรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

มีความคิดเห็นอย่างไรกับการที่มีคนพูดถึงนิรุตติ์ว่ายิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งหล่อและมีเสน่ห์มากขึ้น

          ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ตัวเอง เพราะถือเป็นเรื่องที่คนเขาคิดและพูดถึงกันมา ดังนั้น ผมจึงไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกเรื่องเป็นเรื่องของคนข้างนอกที่เขาวิจารณ์เข้ามาว่า ผมดูดี ผมก็ได้แต่ดีใจและขอบคุณ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโต้แย้งอะไร       ผมมีหน้าที่ทางการแสดงที่จะต้องทำ ไม่ได้มีหน้าที่โต้แย้ง วิจารณ์ตัวเอง หรือต่อล้อต่อเถียงกับใคร เพราะนี่ถือเป็นกฎ   ข้อหนึ่งที่คุมประพฤติผมอยู่เหมือนกัน เขาได้ตัดสินไปหมดแล้วว่า เป็นนักแสดง คุณต้องเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ ซึ่งสิ่งที่เขาติชมมาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องน้อมรับทุกอย่าง และขอบคุณที่ยังติดตาม อีกทั้งยังมองผมว่าเป็นคนดูดีอีกด้วย

อิ่มตัวกับการทำงานในวงการบันเทิงแล้วหรือยัง

     นักแสดงไม่มีวันเกษียณ ถ้าโชคดีก็ได้แสดงต่อไปเรื่อย ๆ คำว่า ‘อิ่มตัว’ จึงไม่มีสำหรับนักแสดง ผมยังมีรถที่ต้องผ่อนอยู่ ถ้าอิ่มตัวแล้ว ผมจะเอาอะไรไปผ่อนรถ คนงานที่สวนอีก 10 คน จะเอาอะไรกิน และสุนัข 15 ตัวของผมจะกินอะไร การทำงานเลยไม่มีคำว่า ‘อิ่มตัว’ ถ้าคุณทำงานในสายอิสระ อย่างนัก- การเมืองที่บอกว่าอิ่มตัว ไม่เล่นแล้ว ผมก็ยังเห็นเล่นอยู่จนถึงปัจจุบัน ยันอายุมากเลยก็มี เจ้าของบริษัทที่บอกว่าไม่ทำ อิ่มตัวแล้ว ก็ยังเป็นท่านประธานกันอยู่ ดังนั้นคำว่า ‘อิ่มตัว’ จึงไม่มีสำหรับการทำงานสายนี้ คุณกินวันนี้ แล้วอิ่มไปทั้งปีไหม เดี๋ยวเที่ยงคุณก็กินอีก พอเที่ยงคุณกินอิ่ม แล้วทำไม 6 โมงเย็น คุณถึงกินอีก ก่อนจะเข้านอน คุณก็ยังกินอยู่ เพราะฉะนั้นไม่มีทางอิ่มตัวง่าย ๆ หรอก เศรษฐีหมื่นล้านก็ยังไม่อิ่มตัว บอกว่ามีหมื่นล้านแล้ว ก็ยังไม่เลิกทำงาน นี่ผมยังมีไม่ถึงล้านเลย จะ   อิ่มตัวได้อย่างไร

ถ้าให้มองย้อนกลับไปในอดีต คิดว่าตัวเองอยากปรับปรุงและแก้ไขสิ่งใดในชีวิตมากที่สุด

     อดีตเป็นเรื่องผ่านแล้วก็ผ่านไป จบกันแล้วก็จบกันไป แก้ไขไม่ได้ แต่อดีตสอนให้เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด และอย่าไปทำตาม สิ่งที่ไม่ดีในอดีต ส่วนอนาคตเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ เราไม่มีวันรู้ ทำวันนี้ให้ดีก่อนก็พอ

เห็นว่ามุ่งสู่ธรรมชาติ โดยการปลูกต้นไม้และเลี้ยงสัตว์มากขึ้น แล้วธรรมชาติมันช่วยเพิ่มพลังหรือบำบัดชีวิตของนิรุตติ์อย่างไร

     เมื่ออายุ 26 ปี ผมได้เงินก้อนหนึ่งมาจากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘ดาร์บี้’ ของคุณเทิ่ง สติเฟื่อง โดยนำเงินก้อนนั้น ไปซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านอยู่ต่างจังหวัด เพราะตัวเองอยู่ใน  เมืองไม่ได้ เนื่องจากผมอยู่กับป่ามาตลอดชีวิตตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาอยู่กับธรรมชาติหรือปลูกต้นไม้มากขึ้น     แต่มันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้ว ด้วยก้นบึ้งและจิตวิญญาณที่เราชอบแบบนั้น ผมเลยชอบที่จะอยู่กับป่า และเริ่มปรับที่ปลูกบ้านอยู่ตั้งแต่นั้น ซึ่งตัวตนที่ผมเป็นไม่ใช่เพิ่งมาเกิดขึ้น เดี๋ยวนี้หรือตอนนี้ แต่เป็นเพราะเวลาและโอกาสต่าง ๆ มัน   เพิ่งมา บางคนอยากมีตัวตนแบบนั้น แต่โอกาสยังไม่มา    ความพร้อมยังไม่ได้ ก็ต้องรอไปก่อน แต่ตอนนี้เวลา โอกาส และความพร้อมของผมมันมาหมดแล้ว ผมเลยลงมือทำในสิ่งที่อยากจะทำได้

ชีวิตที่เรียบง่าย รักธรรมชาติ และสันโดษแบบนี้ ถือเป็นชีวิตที่พอเพียงสำหรับนิรุตติ์แล้วใช่หรือไม่

     คำว่า ‘พอเพียง’ ตามความเข้าใจของผม ไม่ได้หมายความว่า อยู่แบบสมถะหรือไม่กินอะไรเลย ไม่ใช่นะ คำว่า ‘พอเพียง’ คือการที่เรามีเงินแล้วรู้จักแบ่งและใช้ให้พอดี เรามีเท่าไหร่ พอที่จะเลี้ยงสุนัขหรือไม่ นำค่าอาหารของตัวเองไปซื้ออาหารให้สุนัขหรือเปล่า ถ้าเดือดร้อนถึงขนาดนั้น เราก็อย่าไปเลี้ยง ก็เลี้ยงแค่ตัวเองหรือคนงานก็พอ สรุปคือ ใช้เงินดูแล   ตัวเอง คนงาน และสุนัขได้ อีกทั้งยังมีเงินเหลือเก็บอยู่พอประมาณ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองและคนอื่น     นั่นแหละถึงจะเรียกว่า ‘พอเพียง’ ถ้าจะให้ดียังมีเงินเหลือพอที่จะไปซื้อรถและปลูกบ้านอยู่ได้ ก็จะยิ่งดีมาก

เชื่อในคำพูดที่ว่า ‘คนเราต้องดำรงตนอยู่บนความ-      ไม่ประมาท’ มากน้อยแค่ไหน

     ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่เป็นหลักและเรื่องที่จะต้องทำ คำว่า ‘ประมาท’ มันกินความกว้างมาก บางทีเรา  ไม่ประมาท แต่คนอื่นอาจจะประมาทก็ได้ คำพูดนี้จึงเป็นคำพูดที่สวยหรูเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น ขับรถอย่าประมาท ซึ่งผม ไม่ได้ประมาทเลย แต่รถด้านข้างเขามาชนผมเอง นั่นถือว่า     ผมประมาทหรือเปล่า เพราะไม่รู้จักดู แล้วอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่าประมาทได้ไหม เพราะเขาไม่ขับรถของตัวเองให้ดี ดังนั้นคำว่า ‘ประมาท’ ผมถือว่าเป็นคำพูดที่เอาไว้โทษกัน ฉันขับของฉันดี ๆ ดี ๆ ที่คุณพูดอาจจะหมายถึงประมาทก็ได้ เพราะความเร็วมันมาไม่เท่ากัน ฉะนั้นแล้วอย่าให้คำว่า ‘ประมาท’ เป็นเพียงแค่คำสวยหรูที่พูดลอยไปลอยมาเพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนต้องทำและคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา เพราะนั่นมันคือชีวิตของคุณเอง

      นี่คือความคิดจริงใจที่ออกมาจากใจจริงของชายผู้นี้    ซึ่งเราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนุ่มรุ่นใหญ่คนดังกล่าวถึงได้ครองใจและเป็นที่รักของใครหลายต่อหลายคน
จนถึงทุกวันนี้

จาก http://www.all-magazine.com/ColumnDetail/allColumDetail/tabid/106/articleType/ArticleView/articleId/3209/----.aspx

เพิ่มเติม http://women.kapook.com/view21596.html

http://www.oknation.net/blog/banklangtung/2010/11/23/entry-1

http://www.komchadluek.net/news/horoscope/60062

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016326



      หลายคนคงคุ้นตากับผู้ชายที่ชื่อ "หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา" ในฐานะของนักแสดงในหน้าจอโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเล่นละครเรื่องไหน บทบาทใด ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์และแสดงออกมาได้เป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชีวิตจริงของผู้ชายที่เราเห็นในหน้าจอโทรทัศน์คนนี้นั้นเป็นอย่างไร และวันนี้ คุณหนิง นิรุตติ์ ก็ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ที่ในฐานะอาชีพของนักแสดง คุณหนิงมีข้อคิดในเรื่องของธรรมะที่แตกต่างจาำกอาชีพอื่นๆ อย่างไร ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” หนึ่งในโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของ ซีพี ออลล์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์  กับหัวข้อการพูดคุยธรรมะเรื่อง "ธรรมะทำไม ทำไมธรรมะ" ที่อาคารซีพีทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม 

       คุณหนิง นิรุตติ์ เิริ่มต้นด้วยความจริงข้ิอหนึ่งว่า ตัวเองนั้นได้ค้นพบความจริงของชีวิตอย่างหนึ่ง หลังจากที่ได้แสดงภาพยนตร์ที่วัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา เพียงแค่นิดเดียว คุณหนิงก็ได้รู้ว่า ชีวิตหรือตัวเราที่แท้จริงแล้วต้องการอะไร ซึ่งไม่ใช่เงินและความสุข เพราะเงินและความสุขนั้นหาได้ตลอดเวลา แต่ความจริงของตัวเรา บางคนอาจไม่เคยพบมาตลอดชีวิตเลยก็ได้




“ผมไม่ได้ยึดติดที่ตัวเงิน แต่เมื่อมันไม่ใช่งานที่ถูกต้องกับตัวเรา เราก็รีบเปลี่ยนเมื่อมีโอกาสก่อนที่จะไปทำให้งานเขาเสีย”

    หลังจากค้นพบตัวเองจากการถ่ายภาพยนตร์แล้วรู้ว่า นี่แหละคือตัวเรา จึงลาออกจากงานสายการบินที่ทำอยู่ คนก็บอกว่าผมกล้าจังนะ แต่ในเมื่อนี่คือตัวผม คืออาชีพรับจ้างแสดง เหมือนอาชีพทั่วไป เพียงแต่คิดว่าเป็นงานที่เราชอบทำหรือเปล่า ไม่มีอาชีพใดที่น่าอับอายหรือว่าเสียหาย ถ้าคุณทำด้วยความสุจริต และการที่ผมอยู่ในวงการมายา ย่อมมีปัญหาหรืออุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมมีหลักการและวิธีการแก้ปัญหาคือ ผมจะคิดว่ามันไม่มีปัญหา ไม่มีอุปสรรคก็จบแล้ว มนุษย์เราชอบคิดว่านั่นคือปัญหาแล้วเอามาสุม มันคือทุกข์ ถ้าคุณไปเจอน้ำนองอยู่ก็ไม่ไปแล้วบอกว่านั่นคืออุปสรรค มันไม่ใช่ก็เดินไปสิ มันเปียกเดียวมันก็แห้ง มันไม่เปียกคุณไปตลอดชีวิตหรอก ทุกอย่างจะเกิดมันก็ต้องเกิด อุปสรรคต้องได้รับการแก้ไข ปัญหามันไม่มีหรอกแต่เราชอบไปหยิบขึ้นมา
 


 
       สุดท้ายคุณหนิง นิรุตติ์ ได้ฝากเอาไว้ว่า “คุณธรรมะ คือ ธรรมชาติ ธรรมะ คือ ความเป็นจริง ธรรมะ คือ การควบคุมตนเอง รู้จักพอ ถ้าจะสร้างเขื่อนไว้กักเก็บน้ำก็ทำได้ แต่การเอาชนะใจตนเอง เอาชนะธรรมชาติของตนเองมันเอาชนะลำบาก ธรรมะอาจเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับบางคน แต่ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เพียงแค่คุณลองเปลี่ยนมุมมองเท่านั้นเอง”

จาก https://www.cpall.co.th/

<a href="https://www.youtube.com/v/ouCREbZHRaM" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/ouCREbZHRaM</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/eBhsaHfVWGU" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/eBhsaHfVWGU</a>

ยามเมื่อพักว่างเว้นจากงานทุกครั้ง อาหนิง นิรุตต์ ศิริจรรยา จะเดินทางกลับ ไร่ทองจันทร์ อ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี “บ้าน” ที่มีสุนัขพันธ์ บางแก้ว นับ 10 ตัว เฝ้ารอคอยเจ้าของ อย่างใจจดจ่อ พร้อมจะกระโจนด้วยความดีใจ ต้อนรับอาหนิงตลอดเวลา
“สุนัข อาจจะไม่ใช่สัตว์ที่สูงส่ง ที่หลายคนอาจเปรียบเทียบ ด้วยความหยามเยียด แต่สุนัขไม่เคยลืมเจ้าของ แม้ไม่ได้เจอกันนานเพียงใด ต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐที่สูงส่ง แต่มนุษย์บางคนต่างลืมความเป็นมนุษย์ด้วยกัน”

ข้อคิดของนิรุตต์ ศิริจรรยา ได้จากบ้านหลังนี้บ้านที่อยู่ท่ามกลาง ป่า เขา ต้นไม้ และสายน้ำ..

“จริงๆแล้ว สิ่งที่เราเห็นกันอยู่หรือ สิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้นมาทั้งหมดในสังคมเรา เป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ แล้วเรามีความสุขกับเค้าจริงๆหรือเปล่า ถ้าเราค้นหาตัวเองไม่เจอ มันก็เป็นเรื่องยาก”

ติดตามการใช้ชีวิตและข้อคิด “หากเข้าใจธรรมชาติ ก็จะเข้าถึงธรรมะ” ที่จะเป็นเส้นทางสู่การมีชีวิตที่สุขสมดุลในรายการ...

<a href="https://www.youtube.com/v/hk1ONEPFzmI" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/hk1ONEPFzmI</a>


Slow Life ตอนที่ 13 ก้าวที่เนิบช้าของอาหนิง - นิรุตติ์ ศิริจรรยา (อีก 5 ตอน) https://www.youtube.com/playlist?list=PLWdt-DRjaBvIpOIdCgPAmP2HSe-Y9SLJW

<a href="https://www.youtube.com/v/y5YXFinZhuk" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/y5YXFinZhuk</a>


แถม อีก  อิ อิ อิ https://www.youtube.com/playlist?list=PLii5qKkl-Z5_hOZFoFTW2uCJoOQngIQ9m

<a href="https://www.youtube.com/v/JQYPTBjHjcY" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/JQYPTBjHjcY</a>
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...