ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวฮินดู เมืองกุสินารา นิมนต์พระไทย ทำพิธีฌาปนกิจริมแม่น้ำหิรัญญวดี  (อ่าน 1015 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


ชาวฮินดู เมืองกุสินารา นิมนต์พระไทย ทำพิธีฌาปนกิจริมแม่น้ำหิรัญญวดี 

ชาวฮินดู ในประเทศอินเดีย ชื่นชมพระธรรมทูตและคณะสงฆ์ไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นิมนต์พระสงฆ์ไทยไปสวดมนต์ส่งดวงวิญญาณผู้เป็นพ่อ พร้อมประกอบพิธีฌาปนกิจให้ที่ริมแม่น้ำหิรัญญวดี เมืองกุสินาราอินเดีย...

มีรายงานว่า จากการที่คณะสงฆ์ไทยทุกวัดในแดนพุทธภูมิ ที่นำโดย พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล และสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้รวมพลังกันสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาตามคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธองค์ ทั้งให้เกิดขึ้นแก่ชาวพุทธไทยและให้เกิดขึ้นกับชาวอินเดีย-เนปาล เพื่อให้พระพุทธศาสนากลับมาเจริญรุ่งเรืองเฉกเช่นอดีต โดยเฉพาะบนแผ่นดินแห่งการเกิดของพระพุทธศาสนาอีกครั้ง ปัจจุบันนอกจากชาวอินเดีย และเนปาล จะเริ่มให้ความศรัทธาแล้ว ชาวพุทธไทยเองยังเดินหน้าสู่แดนพุทธภูมิเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันที่ 31 ก.ค. พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงษ์) พร้อมคณะสงฆ์ จากวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย ได้รับนิมนต์จากชาวฮินดู หมู่บ้านอนิรุธวา ที่อยู่หลังวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ให้ไปประกอบพิธีสวดมนต์เพื่อส่งดวงวิญญาณของบิดาของชาวฮินดูคนหนึ่งที่เพิ่งเสียชีวิตไปที่ริมฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี โดยคณะสงฆ์ไทยได้ประกอบพิธีสวดมนต์ทั้งพุทธและพราหมณ์ ตามประเพณีอินเดียที่เกิดมาจากธรรมชาติ และกลับคืนสู่ธรรมชาติ ให้ตามหลัก ธาตุ 4 และขันธ์ 5





พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ กล่าวว่า การได้มาปลงธรรมสังเวช ริมฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นการได้นำธรรมะมาให้ชาวอินเดียได้พิจารณาตามคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยว่า อะจิรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโร นิรัตถังวะ กะลิงคะรัง ซึ่งแปลว่า "ไม่นานหนอ กายนี้จักนอนทับแผ่นดิน ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น"

ทั้งนี้ ในความหมายจากภาษาลีนั้นประกอบด้วย

     1. ไปไม่กลับ คือ เวลา เตือนให้เรารู้ว่าวันเวลามีแต่เดินไปข้างหน้า ไม่อาจจะย้อนคืนมาได้ เมื่อสิ้นวันหนึ่งๆ เราควรพิจารณาไตร่ตรองว่าได้กระทำสิ่งใดไปบ้าง สิ่งที่ดีก็พึงกระทำต่อไป สิ่งที่ไม่ดีก็ควรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นมา
     2. หลับไม่ตื่น คือ โมหะ ความลุ่มหลง ถ้าคนเราหลงอยู่ในความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลงแล้ว ก็จะตกอยู่ในความมืดมน ความทุกข์ต่างๆ มองไม่เห็นหนทางแห่งความดีงาม ไม่มีความสุขไม่มีความเจริญ
     3. ฟื้นไม่มี คือ กรรม ให้เตือนตนเสมอว่า ทำกรรมใดไว้ก็ได้กรรมนั้น เมื่อกระทำกรรมดีก็ได้รับผลแห่งกรรมดี แต่ถ้ากระทำกรรมชั่ว ก็ได้แต่ผลของกรรมชั่ว ไม่มีสิ่งใดจะมาลบล้างหรือชดเชยให้หลุดพ้นจากผลแห่งกรรมชั่วได้ มีแต่ความดีเท่านั้นที่จะทำให้ผลนั้นเบาบางลง
     4. หนีไม่พ้น คือ วิบากกรรม ให้เตือนตนเสมอว่า ไม่มีผู้ใดหนีพ้นจากการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ติเตียนนินทาและความทุกข์ทั้งปวงได้ แม้แต่องค์พระปฏิมายังมีราคิน ไฉนเลยมนุษย์เดินดินคนธรรมดาทั่วไปจะล่วงพ้นไปได้





สำหรับการปฏิบัติภารกิจของคณะสงฆ์ไทยครั้งนี้ ปรากฏว่าได้รับการชื่นชมจากชาวฮินดูเป็นอย่างมากรวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่คณะสงฆ์ไทยได้ให้การช่วยเหลือชาวอินเดีย-เนปาล ทุกด้าน โดยไม่เลือกว่าจะนับถือศาสนาใด ด้วยแนวทางเพื่อให้ทุกชนชาติ ทุกศาสนาได้ระลึกไว้เสมอว่า องค์ศาสดาของทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีเหมือนกัน จึงต้องไม่แบ่งแยกกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วย


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/678032
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...