ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนรู้ ปริศนาธรรม ใน "ประคำ 108 เม็ด" ( 3 ตอน จบ )  (อ่าน 3549 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด






เรียนรู้ "ประคำ 108 เม็ด" ตอน 1

ประคำ หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า "มาลา Mala" ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ทำจากหินบ้าง อัญมณีบ้าง ปะการังบ้าง ,แกะจากต้นไม้บ้าง , แกะจากกระดูกสัตว์บ้าง ,กระดูกคนบ้าง, งาสัตว์ต่างๆ หรือเมล็ดของต้นไม้ บางครั้งก็เป็นว่านยาสมุนไพรแล้วเอามาร้อยเป็นประคำก็มี โดยทั่วไปประคำจะมี 2 ขนาด

- ประคำขนาด 108 เม็ด
- ประคำขนาด 21 เม็ด ซึ่งเป็นพวงเล็กๆ เรียกว่าประคำมือ

คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้ประคำในการสวดมนต์ภาวนา แต่เราจะเห็นภาพของพระ ฆราวาสสายมหายานล้วนมี "ประคำ" พกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลา ถ้าว่างจากหน้าที่การงาน หากมีเวลาระหว่างนั่งในรถก็จะหยิบประคำมาสวดมนต์ภาวนาไปเรื่อยๆ

สำหรับชาวพุทธวัชรยาน ทุกคนล้วนรู้จักการใช้ประคำก็มีวิธีและเทคนิคในการเลือก "วัสดุ"เพราะวัสดุแต่ละอย่างล้วนมีความหมายที่แตกต่างกัน เมื่อได้ประคำมาแล้วก็จะต้องมาทำ "การเจิม" ประคำครั้งแรกสำหรับการใช้งานด้วยเช่นกัน และส่วนใหญ่แล้วจะต้องเรียนรู้วิธีร้อยประคำด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีเทคนิคในการขมวดปมที่ซับซ้อน วิธีขมวดปมนั้นสามารถหาดูได้จากยูทูป แต่ก่อนอื่น ควรเริ่มต้นด้วยความเข้าใจพื้นฐานของประคำกันสะก่อน


ประคำและมารยาท

โดยทั่วไป ชาววัรชยานจะมีประคำที่ใช้ติดตัว สวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิ มี 2 แบบ

1 แบบภายนอก Outter คือประคำที่พระลามะ หรือ ฆราวาส จะถือไป ถือมาในที่สาธารณะ สามารถหยิบเอามาสวดมนต์ให้คนภายนอกมองเห็นได้

ช่วงที่เริ่มต้นเรียนพทธวัชรยานกับท่านพระลามะรินเชนใหม่ๆ ท่านก็เริ่มต้นสอนการร้อยประคำทำยังไง มัดปมของเชื่อกยังไง จะต้องวัดความยาวของเชือกแบบไหน ฟั่นเชือกก่อนจะร้อยสอดเข้าไปในรูหิน

พระลามะรินเชนอธิบายไว้ว่า "แม้จะบอกว่าสามารถหยิบเอามาสวดมนต์ให้คนอื่นมองเห็นได้ แต่สมัยก่อน แม้จะสวดมนต์ในที่สาะารณะ เช่น ขึ้นรถเมล์แล้วอยากจะสวดมนต์ ก็จะต้องห้ามยกประคำขึ้นมาสวด จะต้องซ่อนในชายแขนเสื้อ สวดแบบลับๆ

ทั้งนี้ก็เพราะ หากเป็นสายตาของคนภายนอกที่ไม่เข้าใจ จิตใจอาจจะเกิดการ "ตำหนิ" หรือคิด "ดูถูก- ปรามาท" ก็จะเป็นบาปกับคนๆนั้น และทำให้คนๆเกิดภาพหรือคิดติดลบกับพุทธศาสนา เกิดความคิดติดลบกับการสวดมนต์ที่ใช้ประคำ ทำให้เกิด "มิจฉาทิฐิ" ไม่ยอมรับปิดกั้นโอกาสที่จะเรียนรู้ธรรมะอันเลิศ และเป็นบาปต่อตัวเราเองที่เลินล่อไม่ทันระวังผู้อื่น

มารยาท..ที่ควรจะจดจำเอาไว้..ประคำเป็นของสูง สวดมนต์ถวายบูชาแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมและเหล่ากุรูทั้งปวง การที่เราเห็นของคนอื่นแล้วเราจะเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาเฉยๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างมาก

เราควรจะพูดจาสอบถามเจ้าของประคำด้วยมารยาทอันดี ว่าเจ้าของอนุญาติให้จับประคำหรือถือประคำได้หรือเปล่า

ถ้าเจ้าของอนุญาติ อย่าหยิบแบบกระชาก ให้เราหยิบเหมือนเรารับพระเครื่องบูชาที่เป็นสร้อยคอ รับด้วยความเคารพ ยกขึ้นสูงเหมือนที่เวลาเรารับสร้อยที่มีพระเครื่องแล้วไหว้จบที่หน้าผาก สำหรับประคำก็ให้ทำกิริยาเดียวกัน ยกขึ้นจบหรือแตะที่หน้าผาก ไม่วางที่พื้น ไม่เดินข้าม เด็ดขาด

2 แบบภายใน Inner Mala คือประคำที่เป็นประคำส่วนตัว จะใช้ส่วนตัวในห้องสมาธิ ใช้เวลาสวดมนต์ส่วนตัว จะมีพลังของพรจากพระพุทธเจ้ามาก บางประคำเป็นมรดกตกทอดจากพระลามะรุ่นก่อน เพียงแค่จับสวดมนต์ภาวนาไม่เท่าไร จิตดิ่งลงสู่สมาธิฉับพลัน

ประคำส่วนตัวนี้ จะไม่อนุญาติให้คนอื่นจับต้องเลย เพราะพรที่ได้จะหลั่งไหลออก ขาดความเคร่งขรึมของพลังที่ผลึกเข้าไปในอณูของประคำ


ลักษณะของประคำ

       มาตรฐานของประคำ 1 เส้น จะมี 108 เม็ด ถ้าเป็นประคำมือจะมี 21 เม็ด ดังนั้นในประคำ 108 เม็ด และจะไม่นิยมใช้ "วัสดุ" แบบคละเคล้าในการทำประคำ

  - ถ้าใช้ "เมล็ดโพธิ" ก็จะเป็นเมล็ดโพธิ์ทั้งเส้น
  - ถ้าใช้ ประการังแดง ก็ใช้ประการังแดงทั้งเส้น

แล้วจะใส่ "เม็ดคั่น 3 เม็ด" จะแบ่งประคำตอนละ 27 เม็ด ซึ่งเม็ดที่คั่น จะนิยมให้แตกต่างจากเม็ดหลักแทนตรีกาย ลักษณะของประคำ ประคำจะประกอบด้วยส่วนที่เป็นหัวที่เรียกว่า "ศีรษะของครู" หรือพระเศียรของพระพุทธเจ้า เป็นประธานหลัก สำหรับชาววัชรยานแล้ว ประคำเสมือนเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า

ส่วนพระเศียรของพระพุทธเจ้านั้น จะต้องมีขนาดลดหลั่นกันลงมา เล็กสุดอยู่ที่ยอด จะมี 3 ชั้น บางคร้ั้งควรเป็นหิน 3 ชิ้น แสดงสัญลักษณ์ถึง "ภาวะวัชระสัตว์ 3 ระดับ"  หรือ ตรีกาย

- ส่วนยอดเล็กสุด ควรเป็นสีฟ้า ใช้ลาปิส ลาซูรี่ แทนภาวะสัจธรรมสูงสุดอันไม่เปลี่ยนแปลง
- ส่วนกลางเป็นสีแดง แทนวัชรวาจา
- ส่วนติดประคำ เป็นสีขาว แทนวัชรกาย





แต่โดยทั่วไปถ้าเราซื้อประคำสำเร็จรูปที่ไม่ได้ร้อยเอง มักจะมีส่วนหัวของประคำลักษณะแบบนี้





เชือก ..ร้อยประคำ

 ถ้าเราสามารถร้อยประคำเองได้ ควรใช้เชือกเส้นในเป็นเส้นเล็กสักหน่อย เพราะเราจะใช้จำนวนเส้น

- 3 เส้น แทนตรีกาย
- 5 เส้น แทนพระพุทธเจ้าห้าตระกูล
- 9 เส้น แทนญาณทั้ง 9

เมื่อเราได้เส้นเชื่อกมาแล้ว จะเป็น 3,5,9 ก็ดี ให้เอามาฟั่นแบบง่าย แล้วร้อยเชือกเข้าในรูหิน
แต่ถ้ามีเชือกเพียงเส้นเดียวควรเป็นสีแดงหรือสีขาว เป็นสีมาตรฐาน

ช่องว่าง..ระหว่างเม็ดประคำ

      ในการเลือกประคำ ไม่เพียงเลือกวัสดุ ยังจะต้องเลือกว่าเม็ดประคำร้อยกันติดแน่นจนเกินไปหรือเปล่าทำให้ไม่สามารถขยับเม็ดได้

   การเลือก..ควรเลือกเส้นที่มีช่องว่างให้เม็ดประคำเลื่อนได้พอดีนิ้ว ไม่ควรมีช่องว่างมากไป เพราะถือว่า
- ถ้าเม็ดประคำแน่นเกินไป ก็จะตึงเกินไป เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
- ถ้าช่องว่างมากไป ก็แสดงว่า หย่อนยาน ขี้เกียจ

โดยทั่วไปแล้ว ประคำที่ขายมักจะร้อยจนแน่นเกินไป หากประคำนั้นร้อยด้วยเชือก เมื่อสวดนานไปเชือกจะหน่อยมีช่องว่างได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อได้ประคำมาจะนิยมร้อยใหม่

จาก http://wisdom-update.blogspot.com/2015/02/108-1.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


เรียนรู้ "ประคำ 108 เม็ด" ตอน 2

   เมืองไทยมีร้านที่ขาย "ประคำ" ไม่มากเท่าไร แหล่งขายยอดฮิต ก็จะมีย่าน ตลาดเยาวราช ย่างบางรักที่อยู่แถวๆโรบินสันบางรัก เป็นย่านร้านของพวกแขก เปิดร้านขายของพวกนี้ ราคากันเอง มี "หิน" ให้เลือกหลากหลาย บางร้านอาจจะมีเส้นเชือก หรือรับร้อยประตำให้ด้วย


            วัสดุที่นิยมเอามาร้อยเป็นประคำในบ้านเราอาทิ ไม้ธรรมดา งานช้าง ฟันหรือเขี้ยวของสัตว์ กระดูกสัตว์ เมล็ดจากต้นพืชเช่นเมล็ดคำชะโนด ,ประคำที่ร้อยจากหินต่างๆเช่น ไทเกอร์อาย ลาปิสลาซูรี่ คริสตัลใส ,หยก และอื่นๆ

  จริงๆแล้ว "ประคำ" สำหรับสวดมนต์จะเป็นชนิดใดก็ได้ ตามกำลังทรัพย์ กำลังศรัทธาของผู้ใช้ ซึ่งถือคติว่าของที่ใช้สำหรับพระพุทธเจ้าในการปฏิบัติภาวนาถวายบูชา จะต้องเลือกสิ่งที่ดีเลิศที่สุด ลำพังแค่คิดหรือเสียหยาดเหงื่อเพียงหนึ่งหยดเพื่อถวายบูชาจากใจจริงก็มีอานิสงค์มหาศาล นี่คือเหตุผลทำไมถ้ามีโอกาส มีทรัพย์ ชาวพุทธจึงนิยมคัดเลือกประคำที่ทำจากวัสดุที่ทรงคุณค่าพิเศษใช้งานหรือถวายแด่พระพุทธรูป ถวายพระลามะ หรือมอบให้คนอื่นที่ขาดแคลนเพื่อใช้ในการปฏิบัติบูชา เชื่อกันว่าการถวายปัจจัย ข้าวของ สิ่งต่างๆเพื่อสนับสนุนให้คนปฏิบัติเรียน ปฏิบัติบูชา ก็เหมือนเราได้ปฏิบัติด้วยเช่นกัน





ลำดับของวัสดุประคำ


     ชาวมหายานทั้งแบบจีนและวัชรยาน นิยมสวดมนต์เป็นส่วนหนึ่งของการภาวนาเพื่อยกระดับจิตใจ ใช้มนตราเพื่อให้จิตไม่ซัดส่าย จดจ่ออยู่กับเสียงของบทสวดมนต์ คาถาหัวใจของพระพุทธเจ้า จิตจะเคล้าคลอกับพุทธบารมีตลอดเวลา 24 ชั่วโมงแม้นในยามนอนหลับ

กูรูริมโปเช่ได้อธิบายลักษณ์ต่างๆของวัสดุที่เลือกมาทำเป็นประคำ วัสดุธรรมชาติล้วนมีพลังงานประจำตัวเองที่แตกต่างกันไป เรื่องนี้ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องพลังของหินย่อมทราบ

การเลือกวัสดุที่มีพลังงานที่ดี ย่อมจะกระจายพลังงานของการสวดมนต์ภาวนาให้เพิ่มพูนทวีคูณจำนวนมากมหาศาล เพื่อประโยชน์ให้จิตมั่นคงได้รวดเร็วและเพื่อเป็นอานิสงค์ให้กับสรรพสัตว์อื่นและพื้นที่โดยรอบอีกด้วย เราแบ่งประเภทของวัสดุที่เลือกมาใช้ทำประคำแบ่งเป็น 3 พลังงาน ดังนี้
           
ระดับที่ 1:  ประคำที่เพิ่มพูนพร ขยายพลังของการสวดมนต์ภาวนา คือประคำที่ร้อยมาจาก "หินมีค่า" ประเภทต่างๆ เช่น ทับทิม
ระดับ 2 : ประคำที่ร้อยจาก เมล็ดของพืชต่างๆ
ระดับ 3 : ประคำที่ร้อยจาก ไม้ต่างๆ หินเผา ดินปั้น หิน หรือยามาปั้นเป็นเม็ดแล้วร้อย


  ในทางมหายาน จะนับถือพระพุทธเจ้าทั้งสามกาล อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ,เดวะ ดากินีที่เป็นเทพพุทธะเป็นสัมโภคกายของธรรมกายพุทธะ,เหล่าธรรมบาล,ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านที่ได้บรรลุธรรม

    การปฏิบัติภาวนาของชาวพุทธส่วนใหญ่ จะมีพระพุทธเจ้าศากยมุนีเป็นองค์ประธานหลักเพราะพระองค์ทรงเป็นพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีพระอวโลกิเตศวรหรือที่ชาวจีนนิยมปางเจ้าแม่กวนอิม พระมัญชูศรี พระแม่ตารา .. การปฏิบัติถึงท่านทั้งหลายเหล่านี้ จะนำมาซึ่งความสุขสงบจิตใจ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ..บางครั้งก็เรียกว่า ปางสันติ เป็นการปฏิบัติที่ปรากฏทั้งเถรวาทและมหายาน

   ส่วนเทพพุทธะปางดุ เช่น มหากาลา พระราหูมหาโพธิสัตว์ พระแม่เอกาจิต พระมัญชูศรีปางดุ อื่นๆ ในการปฏิบัติสำหรับบางคนที่มี "เทพพุทธะปางดุ Warthful เป็นครูภายใน เป็นคุรุภายใน จำเป็นจะต้องได้รับการสอน มอบมนตราจากพระลามะหรือจากครูของตนเอง

   การใช้ "ประคำ" ก็แบ่งลักษณะของวัสดุให้เหมาะสมกับพลังงานของปางสันติหรือปางดุ ด้วยเช่นกัน

- ประคำที่ทำจาก เปลือกหอย ดิน ไม้ หรือเม็ดพืช เหมาะกับการภาวนาศานติให้เกิดความสงบ
- ประคำที่ทำจากทองคำ จะมีพลังในการแผ่ขยายพลังของการกระทำให้ไพศาล
- ประคำที่ทำจากประการังสีแดง ดีสำหรับบทปฏิบัติเพื่อพลังตบะอำนาจ
- ประคำที่ทำจากเหล็ก หรือหินเทอร์ควอทซ์ พลังเหมาะสมกับเทพพุทธะปางดุ
-  ประคำหิน dzi หรือหินอื่นๆ เหมาะสมกับการปฏิบัติกระทำบูชาดีอยู่แล้ว
- ประคำที่ทำจาก หินแอบิคอต จะมีพลังขยายผลของการปฏิบัติออกไปให้กว้างไกล (เข้าใจว่า คือเมล็ดของผลแอบริคอต ถ้าสามารถหาที่แข็งเป็นหินได้ก็จะดี)
- ประคำทำจาก "เม็ดโพธิ์" เม็ดโพธิ ใช้ได้กับทุกพระองค์ เนื่องจากจะหายากทุกวัน การเลือกจะเลือกเม็ดขนาดเท่ากันเพื่อมาทำเป็นประคำ เมื่อใช้สวดบ่อยๆเข้า น้ำมันจากมือจะซึ่มเข้าไปในเนื้อไม้ การนับจะช่วยขัดเนื้อไม้ ทำให้เห็นลายของไม้ชัดที่เป็นวงๆ จึงเรียกว่า ดวงตาครุฑหรือดวงตาของนกฟีนิกซ์
-  ประคำทำจากไม้มะฮ๊อกานี เหมาะกับเทพพุทธะปางดุ
- ประคำทำจาก งาช้าง เขี้ยว หรือฟันช้าง เหมาะกับการปฏิบัติเพื่อให้สิ่งที่กังวลสำเร็จลุล่วง
- ประคำทำจากยาสมุนไพร เหมาะกับเทพพุทธะปางดุ
- ประคำเมล็ดรุทรักษา (น้ำตาพระศิวะ) เหมาะกับเทพปางดุ


พลังพรของชนิดประคำ

  หินหรือเมล็ดของพืชนั้นมีพลังงานที่แตกต่างกันไป บางชนิดเชื่อกันว่าสามารถขยายพลังงานของการปฏิบัติได้หลายๆๆ หรือล้านเท่าเพื่ออานิสงค์ทั้งตัวเองและสรรพสิ่งรอบตัว ดังนี้

- ประคำเมล็ดรุทรักษา (น้ำตาพระศิวะ)ขยายได้ 20 ล้านเท่า
- ประคำไข่มุก ขยายได้ 100 ล้านเท่า
- ประคำเงินแท้ ขยายได้ 100,000 ล้านเท่า
- ประคำจากทับทิม ขยายได้ 100 ล้านเท่า
- ประคำจากเม็ดโพธิ์ พลังงานไม่มีขีดจำกัด

เริ่มต้นใช้ "ประคำ" 

เมื่อเราได้ประคำมาแล้ว ก่อนจะเริ่มต้นเอามาใช้งานในการปฏิบัติบูชา ทางที่ดีควรให้พระลามะเป็นคนทำพิธีให้พรก่อน หรือถ้าทำเองควร

1 จะต้องล้างมือ ล้างปากให้สะอาดก่อนจะจับ
2 แล้วให้เตรียมหาน้ำมันจันทน์ หรือกำยานกลิ่นไม้จันทน์ จุดไว้ให้เรียบร้อย
3 นำประคำ ที่เตรียมเอาไว้ ถือในมือซ้าย จัดให้เม็ดเรียงให้เรียบร้อย เอาส่วนศรีษะยอดกูรู ตั้งขึ้นข้างบน  สร้างสมาธินิมิต ระลึกว่าสรรพสัตว์คือองค์พุทธะแต่ปฐมรวมถึงตัวเราเองด้วย ทุกคนมีภาวะจิตสว่างภายใน ระลึกถึงพุทธะภาวะนี้ที่แสดงออกเป็น "กายในเทพพุทธะ"  จากนั้นตั้งจิตว่าสภาวะธรรมทั้งปวงล้วนตระหนักรู้สู่สภาวะสัจธรรมที่แท้จริง แล้วสวดภาวนามนต์

OM SWABAVA SHUDDO SARVA DHARMA SWABAVA SHUDDO HAM 

ด้วยมนตรานี้ขอให้ชำระล้าง และเปลี่ยนแปลงสภาพการรับรู้จากสภาวะที่มีมลทินทางโลกให้เข้าสู่การตระหนักทราบภาวะจิตเดิมของสุญญตา

จากภาวะสุญญตา หินที่เป็นประธานยอดที่เรียกว่าศีรษะของคุรุนั้น จะกลายสภาพเป็น "Deity" ในตำแหน่งตรงกลาง และลูกประคำอื่นๆคือพละตบะอำนาจ

4 จากนั้นตั้งจิตระลึกถึง "พระปัญญาสัตวะ"ทั้งปวง เชิญมาแล้วสลายลงใน "สัมมายาสัตวะ"  อย่างที่ผู้เรียน เรียนในบทปฏิบัติ อัญเชิญพุทธะแห่งปัญญาเสด็จออกมาพุทธเกษตรอันบริสุทธิ์ มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าอากาศธาตุของเรา ภาพทั้งหมดของเหล่าพุทธะทั้งดอกบัว อักษร แสง สี กลิ่น  แล้วท่านท้ังหลายเหล่านั้นสลายลงสู่ประคำของเราทุกเม็ด  เพื่อประสิทธิประสาทพรให้กับประคำ

ให้จำไว้เสมอว่า ประคำที่เราเห็นเป็นประคำนั้นไม่ใช่แค่วัตถุสิ่งของ แต่คือรูปลักษณ์ภายนอกที่แทน "พุทธะวาจาของเทพพุทธะ" เพราะเราเอาไว้ใช้สวดมนตราจึงมีค่าอย่างมากในการปฏิบัติภาวนา

ปกติถ้าเราใช้ประคำไม้ หรือเมล็ดจากต้นไม้ในการภาวนาบ่อยๆ น้ำมันจากมือ เหงื่อ กลิ่นของกำยาน น้ำมันตะเกียงที่เปื้อนมือ จะซึมเข้าไปในเนื้อไม้ จะทำให้เนื้อไม้เปลี่ยนสี มีความลื่น ดำขึ้น และปราศจากมอดแมลงมาเจาะทำลาย และ..นี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีตรวจการบ้านของครูว่าลูกศิษย์สวดมนต์หรือไม

จาก http://wisdom-update.blogspot.com/2015/02/108-2.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


เรียนรู้ "ประคำ 108 เม็ด" ตอน 3

ประคำหนึ่งเส้นมี 108 เม็ด เอาไว้ใช้สวดมนต์ เช่น มนต์ของพระอวโลกิเตศวรคือ "โอม มณี ปัทเม ฮุม"
เมื่อเราสวดครบ "โอม มณี ปัทเม ฮุม" ก็คือเราสวดครบ 1 จบ ก็จะเลื่อนเม็ดประคำขึ้น ดังนั้นเมื่อสวดมนต์ไปจนครบเส้น จะสวดไป 108 จบ ..แต่ในทางปฏิบัติพระท่านถือว่า เราสวดครบ 100 จบ คือสวดเกินเป็นกำไร เพื่อถวายบูชา หรือเผื่อขาด เผื่อเหลือ

เพราะระหว่างที่เราสวดมนต์ จิตใจจะต้องไม่วอกแวก สมาธิจะต้องไม่ซัดส่ายไปไหน จะต้องอยู่กับคำภาวนา บางครั้งเราอาจจะสวดผิด เพี้ยน หรือจิตไม่นิ่ง การที่มีประคำเกินก็เพื่อจะได้เผื่อเอาไว้และท่าทางในการถือสายประคำนั้น ควรจะ

- ในทางวัชรยานจะนิยมถือประคำในมือซ้าย ยกประคำราวกลางทรวงอก (จักรหัวใจ)
- เวลานับเม๊ดประคำ จะใช้นิ้วโป้ง ผลักเม็ดประคำเข้าหา จะไม่ผลักออก นิ้วโป้งเปรียบเสมือนตะขอเกี่ยวรับเอาพร
- บางครั้ง ก็จะใช้สองมือช่วยในการถือประคำสำหรับนับ
- หัวประคำที่เรียกว่ายอดเกล้าของครูบาอาจารย์นั้น ถ้าเราสวดประคำจนจบครบ 108 เม็ด แล้วจะเริ่มต้นสวดใหม่ เราจะไม่ข้ามหัวครู แต่จะพลิกเส้นประคำ เพื่อเริ่มต้นสวดใหม่


นิยมใช้มือซ้ายนับประคำ เข้าหาตัว





 การสวดมนต์ถือเป็นการทำทั้งสมาธิ ภาวนา จิตจดจ่อกับมนต์ภาวนา ไม่ซํดส่ายร่อนเรไปตามความคิด ระหว่างที่สวดมนต์ด้วยการนับประคำนั้น
- ไม่ควรพูดคุยสนทนา หากบังเอิญในขณะสวดมนต์แล้วจำเป็นจะต้องสนทนาด้วยถ้อยคำสั้นๆ จะต้องนับเม็ดประคำถอยไป 4 เม็ดแล้วสวดจากนั้น

- ถ้าจะจำเป็นจะต้องคุยเรื่องงานจริงๆ ควรหยุดการสวดมนต์ ไปทำงานให้เรียบร้อย แล้วค่อยหาเวลามาสวดมนต์ภาวนาใหม่

- ถ้าไอระหว่างสวด ให้นับเม็ดประคำถอยหลังไป 5 เม็ด
- ถ้าหาว ให้ถอยหลังไป 3 เม็ด
- ถ้าจามให้ถอยหลังไป 10 เม็ด

สิ่งที่ควรรู้ "กฏเหล็ก"

  - ประคำควรได้รับการให้พรจากพระลามะที่เป็นอาจารย์ของตนเอง
- ประคำเป็นตัวแทน "ครู บาอาจารย์-ธรรมะ" ควรวางไว้ในที่อันควร
- ไม่วางประคำที่พื้น ไม่เดินข้าม
- ระหว่างอย่าให้สัตว์เดินข้าม หรือถูกกัด
- อย่าให้คนอื่นจับต้อง เพราะทุกครั้งที่เราสวดภาวนา จะมีพรของการปฏิบัติบูชาที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปราถนา ดังนั้นเรามักจะเห็นลูกศิษย์หลังจากที่เรียนกับพระลามะ หรือเข้าไปหาพระ ท่านจะใช้ประคำแตะที่กระหม่อมเพื่อเป็นการใช้พร

- อย่าให้คนที่ทุศีล จิตใจอำมหิต ทำชั่ว ผิดกฏหมาย โดยเฉพาะฆ่าคน มาจับต้องประคำ โดยเฉพาะประคำที่ทำจากเม็ดโพธิ์หรือทองคำ
- ในทางสายวัชรยาน จะมีศีลที่เรียกว่าสัมมายา ที่เป็นศีลวัชร ที่ศิษย์รับจากพระลามะ หากคนที่ทำผิดสัมมายาที่รับปากเอาไว้ จะต้องระมัดระวังห้ามถูกต้องประคำ

- อย่าโชว์ประคำของตนเองเหมือนการละเล่น หรือเอาประคำมาแก่วงเล่น
- ห้ามแกล้งโผล่ประคำให้คนอื่นเห็นเพราะอยากจะอวด เพราะสิ่งเหล่านี้คือกิเลส
- ประคำของเรา ในบางครั้งควรถวายบูชาต่อพระพุทธรูป พระมหาโพธิสัตว์ที่เป็นพระพุทธรูปในฐานเครื่องประดับอาภรณ์บ้าง

จาก http://wisdom-update.blogspot.com/2015/02/108-3.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...