ผู้เขียน หัวข้อ: ปราชญ์สอนว่า  (อ่าน 4519 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
ปราชญ์สอนว่า
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2010, 02:29:16 pm »

   ปราชญ์สอนว่า....
   สุภานี ปิยพสุนทรา... แปลจากภาษาจีน

   ๑. “ในโลกนี้มีเรื่องยากไหม ?
   ผู้ที่ลงมือทำ.... เรื่องยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย
   ผู้ที่ไม่ลงมือทำ.... เรื่องง่ายก็จะกลายเป็นเรื่องยากอยู่วันยังค่ำ “ เผิงตวนสู้ ”
   
   ๒. “การศึกษาเล่าเรียนนั้นง่าย...แต่จะให้เรียนดีนั้นยาก
   การทำงานนั้นง่าย....แต่จะทำให้ดีนั้นยาก
   การปล่อยตัวให้ตกต่ำนั้นง่าย...แต่การสำนึกนั้นยาก” “ หวังฟูจือ ”
   
   ๓. “การเรียนกับการปฏิบัตินั้นเป็นของคู่กัน เวลาเรียนต้องคิด
   คิดออกแล้ว ก็ต้องนำไปปฏิบัติ ในขณะปฏิบัติ
   เราจึงรู้ว่าตัวเองได้วิชามาจริงหรือไม่...ไม่เช่นนั้นแล้ว
   แม้เราจะอ่านหนังสือมามาก
   แต่เราก็เป็นได้แค่ ตู้หนังสือเคลื่อนที่ตู้หนึ่งเท่านั้น” “เซี่ยเจี๋ยไจ”
   
   ๔. เชื่อหนังสือจนหมด สู้อย่ารู้หนังสือเลยยังจะดีกว่า...!” “เม่งจื้อ”
   
   ๕. “ผู้ใฝ่ศึกษา จะศึกษาข้อดีของคนอื่น
   มาเสริมข้อด้อยของตนเอง” “หลี่ปุ๊เหว่ย”
   
   ๖. “ความรู้คือ ผลพวงแห่งการสั่งสมประสบการณ์
   ความสามารถ คือ ผลลัพธ์จากการพากเพียรพยายาม” “เหมาตุ่น”
   
   ๗. “มีพรสวรรค์ พรนรกอะไรที่ไหนกัน
   ข้าพเจ้าเพียงแต่เอาเวลาที่
   คนอื่นนั่งดื่มกาแฟ มานั่งทำงานเท่านั้นเอง...!” “หลู่ซิ่น”
   
   ๘. “สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง
   ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น...” “ขงเบ้ง”
   
   ๙. “ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น...จักต้องเอาชนะตัวเอง
   ให้ได้เสียก่อน” “หลี่ปุ๊เหว่ย”
   
   ๑๐. “ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด...ผู้ที่รู้จักตนเองเป็นคนมีสติ” “เล่าจื้อ”
   
   ๑๑. “การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูง
   ในการฝึกฝนยอดคน...!” “เหลียงฉี่เชา”
   
   ๑๒. “สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ จงอย่าทำกับคนอื่น” “ขงจื้อ”
   
   ๑๓. “คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้...คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้!” “ซือหม่าเซียน”
   
   ๑๔. “คนเราหนีไม่พ้นความตาย แต่ความหมายการตายนั้น
   ไม่เหมือนกัน...
   บ้างก็มีค่าหนักกว่าขุนเขา บ้างก็ไร้ค่าเบากว่าขนนก....!” “ซือหม่าเซียน”
   
   ๑๕. “อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว...
   อย่าละเว้นการทำความดี
   เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแต่นิดเดียว...” “เผยสงจือ”
   
   ๑๖. “คนอื่นช่วยเรา...เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
   เราช่วยคนอื่น...จงอย่าจำใส่ใจ” “ฮั่วหลัวเกิง”
   
   ๑๗. ”มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม...
   ได้มาด้วยความคดโกง มิสู้ย่อมเสียอย่างซื่อตรง...” “หวังติ้งเป่า”
   
   ๑๘. “น้ำใสสะอาดเกินไป....ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
   คนที่เข้มงวดเกินไป...ย่อมไร้บริวาร” “ปันกู้”
   
   ๑๙. “ความไม่พอใจ ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด
   ควรจะเป็นสิ่งที่ทำเราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น
   ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ห่อเหี่ยวยอมจำนน
   ต่ออุปสรรค...” “หลี่ต้าเจา”
   
   ๒๐. “ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย...ย่อมยากจน
   ขยันและประหยัด...ย่อมร่ำรวย” “ก่วนจัง”

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2010, 02:33:49 pm »
   ๒๑. “ชมคนด้วยวาจา...มีค่ามากกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
   ทำร้ายคนด้วยวาจา...สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ” “ซุนวู”
   
   ๒๒. “ยามมีควรคิดถึงความจน...
   ....ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี !” “เจิงก่วงเสียนเหวิน”
   
   ๒๓. “รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน” “ซูหลิน”
   
   ๒๔. “ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น มาตำหนิตัวเอง...
   ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง ให้อภัยผู้อื่น...” “เจิงจิ้นเสียนเหวิน”
   
   ๒๕. “ความอิจฉา เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ...
   ความระแวงสงสัย เป็นอุปสรรคต่อความรัก...
   ...ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว
   ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้” “ซุนยาง”
   
   ๒๖. “ในชีวิตของเรา...มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่าง
   ดวงหนึ่ง ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว
   ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม...” “ปาจิน”
   
   ๒๗. “ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า
   แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ...” “หยางว่านหลี่”
   
   ๒๘. “สุขสบายเกินไป...เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน
   จิตใจก็พลอดขลาดกลัว” “หูหลินอี้”
   
   ๒๙. “พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...
   ....ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว” “ซุนซือเหมี่ยว”
   
   ๓๐. “คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป...
   เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!” “ลู่ซู”
   
   ๓๑. ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี...
   ผู้ที่คิดว่าตนเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ...
   ผู้ที่คิดว่าตนเองดีพอ คือ คนที่ไม่ดีพอ...! “ฟังเสี้ยวหยู”
   
   ๓๒. “ต้องกล้าที่ตะมองความจริง...
   แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ “จางจื้อซิน”
   
   ๓๓. “ชีวิตที่ราบรื่นเกินไป เป็นชีวิตที่สามัญ ไร้ความหมาย...
   ของที่ได้มาง่ายเกินไป มักไม่ล้ำค่า.... “เหมาตุ่น”
   
   ๓๔. “ชั่วโมงเกิดจากการสะสมตัวของวินาที...
   ผู้ที่รู้จักใช้เวลาน้อยๆ ให้เป็นประโยชน์
   จึงจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ใหญ่หลวงยิ่งขึ้น!” “เฉินจี้หยู”
   
   ๓๕. “ยามสมหวัง...ควรเตรียมหาทางถอยเอาไว้สักทางหนึ่ง
   ยามผิดหวัง....ควรเตรียมหาทางออกเอาไว้สักทางหนึ่ง” “หวงเย่าหมิน”
   
   ๓๖. “คิดก่อนทำ...ยิ่งมาก ยิ่งไม่ต้องเสียใจในภายหลัง” “หวงเย่าหมิน”
   
   ๓๗. “การช่วยคนจมน้ำนั้นเป็นการกระทำที่น่ายกย่องสรรเสริญ...
   แต่ก็ต้องมีวิธีการที่ดี ไม่เช่นนั้นอาจช่วยคนไม่ได้
   แถมยังจะถูกคนจมน้ำฉุดลากจนตายด้วยกันทั้งคู่” “หวงเย่าหมิน”
   
   ๓๘. “สามารถอุทิศตัวเพื่อชาติ ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์
   ช่างเป็นเรื่องที่มีเกียรติ อะไรจะปานนั้น” “อ ี่จัง”
   
   ๓๙. “...ศึกษาอย่างสุดความสามารถ...
   นำความรู้ที่มีอยู่มาใช้อย่างสุดสติปัญญา...
   พัฒนาประเทศให้เจริญมั่งคั่ง...
   ไม่ยอมถูกต่างชาติรังแก...
   ยืนตระหง่านอยู่ในโลกนี้อย่างภาคภูมิ...” “จันเทียนอิ้ว”
   
   ๔๐. “คนเราขอเพียงมีจิตใจที่รักชาติเท่านั้น...
   ปัญหาทุกอย่างก็แก้ตก
   ลำบากแค่ไหน ทุกข์ยากเพียงใด
   ถูกปรักปรำอย่างไรก็ทนได้...” “เซี่ยปิงซิน”
   
   ๔๑. “...แม้ประเทศของเราจะยากจน ล้าหลังแค่ไหน
   แต่มันก็ยังเป็นมาตุภูมิของเรา...
   ก็เหมือนกับแม่ของเรานั่นแหละ
   แม้ท่านจะยากจนข้นแค้นสักปานใดก็ตาม
   แม่ก็ยังคงเป็นแม่ของเรา...” “โอวหยางปินเหว่ย”   
   

         สุภานี ปิยพสุนทรา... แปลจากภาษาจีน
    http://www.kanlayanatam.com/sara/sara102.pdf
    อกาลิโกโฮม บ้านที่แท้จริง Agaligo Home 

http://www.siamtower.com/prachya/jomyut.html
หอคอยแห่งปรัชญา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:20:16 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2010, 08:27:18 pm »
 :13: อนุโมทนาครับพี่แป๋ม^^
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 11:12:40 am »


วิถีขงจื๊อสู่ความเป็นเลิศเหนือคน

ขงจื๊อ เป็นนักคิดคนสำคัญยิ่งของโลก เป็นทั้งนักการศึกษา นักรัฐศาสตร์ นักปรัชญา
และที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลทางความคิดมากที่สุดในแผ่นดินจีน

คำสั่งสอนของขงจื๊อเป็นรากฐานทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรมของทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีมาจนถึงปัจจุบัน
แนวคิดของขงจื๊อไม่เพียงแต่เน้นให้คนมีคุณธรรม แต่ยังเป็นแนวทางนำไปสู่ความมีอัจฉริยะภาพ คือ
ทำให้รู้ว่าในเวลาหนึ่ง คนเราควรจะคิดอะไร วางตัวอย่างไร คบเพื่อนแบบไหน
เพื่อทำให้เราใช้ศักยภาพ และเวลาที่มีจำกัดให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุด

แก่นคำสอนของขงจื๊อ สรุปได้เป็น 7 หัวข้อ ดังนี้

1. บุคลิกภาพของมนุษย์ที่แท้
มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบของขงจื๊อ คือคนมีบุคลิกโดดเด่นเหนือคนทั่วไป มีพลังดึงดูด โน้มน้าวใจคน
และมีคุณธรรมเที่ยงตรง ทำให้มีอำนาจเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป
คุณลักษณะ 7 ประการที่จะช่วยให้มนุษย์มีพลังอำนาจตามวิธีคิดของขงจื๊อ คือ

• นอบน้อม เพราะคนนอบน้อมจะไปทำอะไร ที่ไหน ย่อมไม่เป็นที่เกลียดชังของคนทั่วไป
• เมตตากรุณา เพราะคนมีเมตตากรุณา มักจะมี positive aura บนใบหน้าที่ทำให้สามารถเอาชนะ ใจคนได้โดยง่าย
• จริงใจ เพราะจะส่งผลให้มีบุคลิกซึ่งเป็นที่ไว้วางใจของผู้อยู่เหนือกว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา และบุคคล ทั่วไป
• จริงจัง เพราะย่อมทำทุกสิ่งทุกอย่างลุล่วงลงได้
• ใจคอกว้างขวาง เพราะย่อมใช้ให้คนทำงานแทนได้ และสามารถเป็นผู้นำที่ดีได้
• ไม่กินอิ่มเกินไป ไม่แสวงหาความสะดวกสบายจนเกินไป เพราะจะทำให้กลายเป็นคนเกียจคร้าน
ไม่แสวงหาหนทางปรับปรุงชีวิตพัฒนาตนเองในขณะที่ยังมีกำลังวังชา และสติปัญญาสมบูรณ์
• มีอารมณ์มั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย ถ้ากล่าวแบบคนสมัยใหม่ ก็คือการมี EQ สูง

2. วิธีคิดของผู้มีปัญญา
คนเราเกิดมา มีปัญญาสูงต่ำไม่เท่ากัน มีโอกาสในการศึกษาไม่เท่ากัน
แต่ขงจื๊อเห็นว่าในชีวิตประจำวันคนเราสามารถค่อย ๆ สร้างสมพัฒนาสติปัญญาให้ได้ด้วยตนเอง
โดยการเปลี่ยนปรับวิธีคิดเสียใหม่ เลิกคิดปรุงแต่ง และคิดถึงเรื่องไร้สาระ
และหันมาพิจารณาเฉพาะเรื่องที่เป็นประโยชน์แทน ดังนี้

• มนุษย์ที่แท้ จะต้องพิจารณาอยู่เสมอว่า
ทำอย่างไร เราจึงจะมองอะไรแล้วสามารถจะเห็นและเข้าใจสิ่งนั้นทะลุปรุโปร่ง
และเมื่อได้ยินอะไรแล้ว ทำอย่างไรเราจึงจะฟังให้เข้าใจได้หมดซึ่งก็คือการใช้สมาธิตั้งใจดู ตั้งใจฟัง นั่นเอง
ปัญหาของจำนวนมาก คือ ดู เห็น ฟัง แล้วเข้าใจไม่หมด ตีความผิด ตีความเข้าข้างตนเอง เอาตนเองเป็นที่ตั้งอยู่ตลอด
ถ้าแก้ไขจุดนี้ได้ เราก็จะมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งต้องใช้ประกอบการคิด การตัดสินใจต่อไป

• อย่าคิดกังวลว่าใครจะยอมรับยกย่องเราหรือไม่
แต่ให้เป็นกังวลมาก ๆ ว่า ขณะนี้เรายังขาดคุณ สมบัติข้อใดที่ทำให้ยังไม่เป็นที่ยกย่องของผู้คน
และอย่าเป็นกังวลว่าคนอื่นจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเรา แต่ให้กังวลว่าตัวเราจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของคนอื่นดีกว่า

จุดนี้คือขงจื๊อต้องการให้คนเราเน้นการพิจารณา เข้าใจ และปรับปรุงตนเอง
ในขณะที่แนวโน้มของคนโดยทั่วไปจะชอบ “ส่องนอก ไม่ส่องใน”
และใช้เวลาไปกับการจับผิด วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเสียมาก

• เวลาเห็นช่องทางได้ผลประโยชน์ ต้องคิดถึงความยุติธรรมด้วย
ขงจื๊อเห็นว่ามนุษย์เรามีแนวโน้มจะ คิดแบบเห็นแก่ได้ และตัดสินใจผิดพลาด เมื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้น เพื่อจะไม่ทำผิดคุณธรรม คนเราต้องพิจารณาเรื่องความยุติธรรมอยู่เสมอ ๆ ความยุติธรรมที่ให้พิจารณาก็คือ
หลักการง่าย ๆ ถ้าเราไม่ชอบอะไร รังเกียจอะไร ก็จงอย่าทำกับคนอื่นแบบนั้น คิดได้แค่นี้

• นอกจากนี้ ขงจื๊อยังให้ข้อเตือนใจไว้ว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ต้องหัดคิด คิดการณ์ไกล เพื่อจะได้ไม่ต้องหลงทาง
นอกจากนี้ เวลาร่ำเรียนศึกษาก็ต้องหัดคิดตาม เพราะคนที่ศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่คิด ย่อมไม่ฉลาดมากนัก
ในทางตรงกันข้าม คนที่เอาแต่คิดวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ โดยไม่ชอบศึกษาหาข้อมูล
ก็จะเป็นเพียงการคาดเดาหรือ speculation ย่อมจะคิดผิดพลาดได้ง่าย ๆ
ดังนั้น คนเราต้องหัดฝึกฝนการคิดและการศึกษาหาข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน

3. ระเบียบวินัย ขงจื๊อกล่าวถึงระเบียบวินัย 3 ประการ ของคนวัยต่าง ๆ กัน
• วัยหนุ่มสาว พลังยังไม่มั่นคง ต้องมีวินัยเรื่องกามคุณ
• วัยกลางคน พลังกายใจเข้มแข็งมากที่สุด ต้องมีวินัยเรื่องความพึงพอใจ อย่างเพิ่งเฉยชาหรือพอ ใจกับอะไรง่าย ๆ
• วัยชรา หมดเรี่ยวแรง พลังงานลดถอย ต้องมีวินัยกับความโลภ คืออย่ามีความต้องการมากมายไม่มีที่สิ้นสุด

4. การคบคน
ขงจื๊อเชื่อว่า ชีวิตคนเรา จะสุข ทุกข์ ประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคนที่เราจะเข้าไปเกี่ยวข้องคบหาด้วย
ดังนั้น ขงจื๊อจึงมีกฎในการเลือกคบคน ดังนี้

• ข้อแรก ไม่คบหาคนที่มีคุณงามความดีไม่เท่าเรา
• ข้อสอง ไม่แสวงความเห็น หรือปรึกษาหารือคนที่มีเส้นทางชีวิตไม่เหมือนเรา
• ข้อสาม คนที่ควรคบหา คือ คนที่มีความซื่อตรง จริงใจ และมีความรู้
• ข้อสี่ พึงเลี่ยงคบหาบุคคลที่เสแสร้ง พูดจาไร้สาระ ฉวยโอกาส ฟุ้งเฟ้อ
• ข้อห้า เมื่อคบหาใครเป็นเพื่อนแล้ว จงมีความจริงใจต่อกัน แต่อย่าปล่อยให้เขาชักนำเราไปในทางที่ต่ำ

5. การพูด คำพูดของเราต้องแสดงออกถึงความซื่อตรง สอดคล้องกับกริยาทางกาย
เพราะถ้าหากคำพูดเราเกิดพร้อมกับกริยามุ่งมั่นจริงใจ พูดสิ่งใดก็ย่อมประสบผลเป็นที่น่าเชื่อถือ

6. การวางตัว คนเราจะมีคนรักทั่วทิศ หากวางตัวได้ดังนี้
• เวลาอยู่นอกบ้านแล้วพบผู้คน วางตัวราวกับคนผู้นั้นเป็นแขกสำคัญในบ้าน

• เมื่อต้องสั่งการ วางตัวราวกับเราเป็นแม่งานของพิธีการที่สำคัญยิ่งใหญ่
(คนที่เป็นแม่งานจะต้องเห็นภาพงานทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างรอบด้าน
และ มีจิตมุ่งมั่นต้องการทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในระยะเวลาที่ตั้งใจเอาไว้
เพราะฉะนั้นเวลาคนเป็นแม่งานสั่งงาน จะไม่สักแต่ว่าขอให้ใครทำอะไร แต่จะคิดอย่างรอบคอบถึงผลที่ตามมา
จะไม่สั่งการแบบขอไปที แต่จะต้องมีการติดตามผล แนะนำเพื่อให้งานลุล่วงไปได้)

• อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าปฏิบัติต่อคนอื่น
• เข้มงวดต่อตนเอง แต่ให้อภัยคนอื่น

7. การวางจิต ขงจื๊อเน้นการมีจิตใจที่ซื่อตรง
เขาเห็นว่าประเทศชาติจะสงบสุขได้ครอบครัวต้องดีก่อน แต่ครอบครัวจะดีได้ มนุษย์แต่ละคนต้องมีคุณธรรมมนุษย์
แต่ละคนจะมีคุณธรรม ก็ต้องมีจิตใจที่ซื่อตรงและจิตใจที่ซื่อตรง จะมีได้ก็ต้องมีเจตนาที่ซื่อตรงก่อน
ขงจื๊อเน้นจิตที่สามารถมองอะไรชัดเจน ทะลุปรุโปร่ง
จิตเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็จากการมองเห็น และรู้จักตนเองอย่างรอบด้านก่อน



ที่มา http://www.raidai.com/modules.php?name=News&file=article&sid=1600
ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง.. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=11-2009&date=08&group=5&gblog=189


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 11:24:46 am »

         

ปราชญ์สอนว่า...
โดย : ขงจื้อ

เมื่อยากจนก็ยังชื่นชมในคุณธรรม เมื่อมั่งมี ก็ยังชื่นชมในมารยาทจริยธรรม

ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นห่วงว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น

การศึกษา ค้นคว้า ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น

การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว

บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้ คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ของตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่อง ที่ชอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

ความผิดอันเนื่องมาจากการประหยัดนั้น มีน้อยเหลือเกิน

ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา

บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล

ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย

จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล

ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ

สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า

บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา

อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว

กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น

ยังปรนนิบัตติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า

บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี

ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก

ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้

ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน

เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ

บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป

ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย

ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 11:56:55 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 11:55:27 am »

ปราชญ์สอนว่า...
โดย : ขงจื้อ ( หน้า 2 )

# ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น

# รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก

# บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น

# บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน

# พูดไพเราะตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย

# ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา

# เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา

# เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา

# บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล

# นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน

# เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้

# รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง

# รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย

# รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย

# อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์

# ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้

# นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา

# ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น

# แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม

# ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ

# ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน

# ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก

# ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว

# ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป

# ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป

# เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน

# บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม


http://www.baanjomyut.com/10000sword/
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ


ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 08:05:10 pm »
 :07: :45: :13: :46:

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
สุภาษิตคำคมจีน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2011, 05:49:31 am »


สุภาษิตคำคมจีน
noway2know











noway2know  http://www.baanpud.net/forum/index.php

(◕‿-。) :13:  :12: :45:


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ๒๕ วาทะ นักปราชญ์จีน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 03:47:00 am »


๒๕ วาทะ นักปราชญ์จีน


   " ชมคนด้วยวาจา...มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
   ทำร้ายคนด้วยวาจา...สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ.."
   
   "ซุนวู"
   
   ๒
   " คนอื่นช่วยเรา...เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
   เราช่วยคนอื่น...จงอย่าจำใส่ใจ "
   
   "ฮั่วหลัวเกิง"
   
    ๓
   " มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม
   มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม
   ได้มาด้วยความคดโกง
   มิสู้ยอมเสียอย่างซื่อตรง..."
   
   "หวังติ้งเป่า"
   
   ๔
   " น้ำใสสะอาดเกินไป...ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
   คนที่เข้มงวดเกินไป......ย่อมไร้ซึ่งบริวาร "
   
   "ปันกู้"
   
   ๕
   " ความไม่พอใจ...ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด
   ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น
   ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ..ห่อเหี่ยวยอมจำนน
   ต่ออุปสรรค์..."
   
   "หลี่ต้าเจา"
   
   ๖
   " ในชีวิตของเรา..มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่าง
   ดวงหนึ่ง....ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว
   ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม.."
   
   "ปาจิน"
   
   ๗.
   " ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า
   แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ..."
   
   "หยางว่านหลี่"
   
   ๘.
   " สุขสบายเกินไป..เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน
   จิตใจก็พลอยขลาดกลัว"
   
   "หูหลินอี้"
   
   ๙.
   " พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...
   ....ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว"
   
   "ซุนซือเหมี่ยว"
   
   ๑๐.
   " คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป...
   เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!"
   
   "ลู่ซู"
   
   ๑๑.
   " ไม่มีอะไรแย่เท่ากับควา มเย่อหยิ่งอวดดี....
   ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ...
   ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ...!"
   
   "ฟังเสี้ยวหยู"
   
   ๑๒.
   " ต้องกล้าที่จะมองความจริง...
   แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ"
   
   "จางจื้อซิน"
   
   ๑๓.
    " ความอิจฉา เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ...
    ความระแวงสงสัย..เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก...
   ...ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว
   ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้"
   
   "ซุนยาง"
   
    ๑๔
   " ยามมีควรคิดถึงความจน...
   ....ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี..!"
   
   "เจิงก่วงเสียนเหวิน"
   
   ๑๕
   " อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว...
   อย่าละเว้นการทำความดี...
   เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว..."
   
   "เผยสงจือ"
   
   ๑๖
   " รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน "
   
   "ซูลิน"
   
   ๑๗
   " ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น...มาตำหนิตัวเอง.....
   ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง...ให้อภัยผู้อื่น.."
   
   "เจิงจิ้นเสียนเหวิน"
   
   ๑๘
   " ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย...ย่อมยากจน
   ขยันและประหยัด..ย่อมร่ำรวย.."
   
   "ก่วนจ้ง"
   
   ๑๙
   "…สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง
   ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น.."
   
   "ขงเบ้ง"
   
   ๒๐
   "..ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น...จักต้องเอาชนะตัวเอง
   ให้ได้เสียก่อน
   ก่อนที่จะว่าคนอื่น...ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน
   ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น...ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน.."
   
   "หลี่ปุ๊เหว่ย"
   
   ๒๑
   " ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด.....ผู้ที่รู้จักตัวเอง เป็นคนมีสติ.."
   
   "เล่ าจื้อ"
   
   ๒๒
   " การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูงในการฝึกฝนยอดคน..!!"
   
   "เหลียงฉี่เชา"
   
   ๒๓
   
   " สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ ...จงอย่าทำกับคนอื่น.."
   
    "ขงจื้อ"
   
   ๒๔.
    " คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้...คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้.!!"
   
   "ซือหม่าเชียน"
   
   ๒๕.
   " คนเราหนีไม่พ้นความตาย...แต่ความหมายการตายนั้น
   ไม่เหมือนกัน...
   บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา...บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก...!"
   
   "ซือหม่าเชียน"


http://agaligohome.fix.gs/index.php?topic=3342.0


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ปราชญ์สอนว่า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2016, 06:51:46 pm »
"คติพจน์จีน" สอนใจไว้ดีมาก

人近六十须自知
คนเราเมื่อใกล้ 60 ควรรู้ตัวว่า

过一天乐一天
ผ่านไปได้ 1 วัน, ก็คือสุข 1 วัน

乐一天赚一天
มีความสุข 1 วัน, ก็คือกำไร 1 วัน

山中也有千年树
บนป่าเขาเคยมีต้นไม้พันปี

世上难逢百岁人
แต่บนโลกมนุษย์, คนอายุร้อยปี แทบหาไม่ได้

最大限度也就活到百多岁
(10万人中才有一个)
อย่างเก่งที่มีอายุเกินร้อย, คงมีแค่หนึ่งในแสน

能活到90岁,只有30年。
(ถ้านับเริ่มจากอายุ 60)
คนมีอายุ 90, ก็อยู่ได้อีก 30 ปี

能活到80岁,只有20年。
คนมีอายุ 80, ก็อยู่ได้อีก 20 ปี

临走时却什么都带不走
ขณะจากไป, ก็เอาอะไรไปไม่ได้

所以不必太节省
ฉะนั้นจงอย่าประหยัดจนเกินไป

该花的钱要花
สมควรใช้จ่ายก็ใช้ซะ

该享受的要享受
สิ่งใดสมควรเสพสุข, ก็จงเสพซะ

该捐助的要捐助
บริจาคได้ก็ทำซะ

唯独不能留太多钱给儿孙
ระวังอย่างเดียว เงินทองไม่ควรเหลือให้ลูกหลานมากเกินไป

免得把他们惯成 寄生虫
จะได้ไม่ทำให้เขาทั้งหลายกลายเป็น กาฝาก

不必对死后的事考虑太多
อย่าไปสนใจเรื่องหลังตายแล้วจะเป็นยังไง

因为变成灰的你,对表扬与批评已无感觉
เพราะเมื่อร่างเป็นเถ้าถ่าน, จะไม่รู้สึกถึงคำเยินยอและคำนินทา

不必对儿女的事考虑太多
อย่าไปใส่ใจเรื่องของลูกๆ

儿孙自有儿孙福
休为儿孙做马牛
ลูกหลานก็มีทางรอดของเขาเอง

他们养了孩子,让他们自己照顾
เมื่อเขามีลูก, จงปล่อยให้เขาไปดูแลกันเอง

或用自己的钱顾保姆照顾
หรือไม่ก็ให้เขาไปจ้างพี่เลี้ยงกันเอง

不要让他们再剥夺 父母剩下不多的健康-休息-娱乐-旅游权
ไม่ควรมากินแรง มาเบียดเบียนสิทธิความสุขท่องเที่ยว และสุขภาพของพ่อแม่ที่เหลือน้อยลงเต็มที

不要对儿女幻想太多
เราอย่าไปจินตนาการแทนลูกๆ

儿女有孝心,但工作太忙,帮不了你
ลูกที่มีความกตัญญู, เขาต้องทำงาน, ไม่ว่างพอที่จะมาช่วยเหลือคุณ

不孝的儿女 也许盼你早死,好早日继承你的财产
ส่วนลูกที่ไม่กตัญญู, อาจแช่งให้คุณรีบตายเพื่อจะได้สมบัติไวๆ

挣钱到何时 何数 才算够
การหาเงิน, จะต้องหาถึงเมื่อไหร่, หาจำนวนเท่าไหร่ จึงจะพอ

良田万顷,日食三餐
มีที่นาเป็นหมื่นไร่, ก็กินแค่สามมื้อ

高楼千间,夜眠八尺
มีบ้านเป็นพันหลัง, ก็นอนแค่เตียงแปดฟุต

够吃够用就行了,愉快地活着
พอกินพอใช้ก็ดีแล้ว, อยู่อย่างมีความสุข

虽然家家有一本难念经
แม้นว่าแต่ละครอบครัวต่างก็มีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน

不要和别人比名利 地位
儿孙如何有出息,等等
ไม่ต้องไปเทียบชื่อเสียง หรือฐานะ หรือเทียบลูกเรากับกับคนอื่นเขา

而要比 谁活得更健康-长寿-快乐
แต่ควรเปรียบว่าใครจะมีอายุ วรรณะ สุขะ พละมากกว่ากัน

你无力改变的事,就不必操心,因为操心也无用
อย่าไปกังวลเรื่องที่แก้ไขไม่ได้, กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์

只有心境好,每天想愉快的事
มีอารมณ์ที่ดี, คิดแต่เรื่องที่มีความสุข

自己找乐趣,就能天天都过得快乐
หาความเปรมปรีย์ให้กับตัวเองทุกวัน

过一天 少一天
ผ่านไป 1 วัน, นั่นคือหดหายไป 1 วัน

过一天 乐一天
ผ่านไป 1 วัน, นั่นคือมีสุข 1 วัน

乐一天 赚一天
มีสุข 1 วัน, นั่นคือกำไร 1 วัน

精神好 病不到
สติดี โรคาไม่มา

精神好 病能好
สติดี โรคาหายหน้า

精神好 病早好
สติดี โรคาบอกลา

常见阳光
适当运动
饮食均衡食物多样化
เจอแดดบ่อยๆ, ออกกำลังกายพอเหมาะ, ทานอาหารครบหมู่

心情愉快,盼能健康地活二 三十年
จิตใจร่าเริง, แข็งแรง อยู่ไปอีก 20-30 ปี

活得开心就好,不必计较太多
เบิกบานใจก็พอแล้ว, อย่าไปตอแยให้มากเรื่อง

是你的,跑不掉也抢不了
สิ่งใดที่เป็นของคุณ, ใครก็แย่งไปไม่ได้

不是你的,得到了也会飞掉
สิ่งใดที่ไม่ใช่ของคุณ, ถึงได้มา, ไม่ช้าก็บินหาย

人近60了,就好好享受晚年的生活
คนใกล้ 60, เสพสุขบั้นปลายชีวิต

让自己每一天都过得充实而有趣
เพื่อตัวเอง ผ่านเวลาที่มีสุขเต็มเปี่ยมทุกวัน

Cr : Forward LINE

https://www.facebook.com/wirodePAG : เพจรวมบทความ