ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมนิเทศสาระทางธรรมฉบับเก็บตกจากห้องสมุด  (อ่าน 966 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด





https://jina1055.blogspot.com/2019/03/blog-post_29.html

สวัสดีอีกครั้งวันนี้ก็มีสาระธรรมมาฝากกันอีกเช่นเคยและมีไฟล์ให้ดาวน์โหลดไป Print อ่านกันได้ ตามอัทยาศัยน่ะครับ - ลองอ่านสาระธรรรมน่ะครับมีประโยชน์มากเลยเนื้อถ้อยกระทงความอาจจะยาวไปนิดแต่ก็น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ

หมายเหตุ....มีภาพบรรยากาศชิว ๆ หลังเลิกงานมาฝากกันวิถีชีวิตผู้คน สถานที่ย่านชานเมืองของกรุงเทพ

บันทึกเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 อันธรรมะ นี้มีไว้ให้ปฏิบัติอย่าเถียงกันข้ารู้มาก เอ็งสับสนรู้ก็นิ่ง ไม่รู้ก็ฟัง วางตัวตนพิจารณาคำเขาสักหนไม่จน ปัญญาชนะใคร แต่แพ้ใจตนเสียหมดเสียเวลาไปอีกภพอย่างไร้ค่าสู้แพ้เขาแต่ชนะตนกายใจวาจาคนธรรมจริง ไม่เสียเวลา เฝ้าด่าว่าใคร

จงสอนผู้อื่นอย่างสุดความสามารถของท่านเวลาที่ท่านจะเริ่มต้นใหม่มาถึงแล้วในการแพร่ขยายธรรมอันยิ่งใหญ่ด้วยกันกับบรรดา โพธิสัตว์จากพื้นโลก ของเราเริ่มต้นโดยการเข้าร่วมประชุมสนทนาธรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความหวัง

มนุษย์เกิดมาสองแขนว่างเปล่า ไม่มีอะไรติดตัว เมื่อตายไปไม่ว่าตอนมีชีวิตอยู่จะร่ำรวยมากแค่ไหน หรือมีความรักอาวร ก็ไม่อาจนำติดไปได้สักอย่าง มีเพียง บุญ กับ กรรม เท่านั้นที่ติดตัว มนุษย์ที่เกิดมาในโลก แม้คนที่มีสภาพที่ดีอย่างไรก็ไม่อาจมีสุขได้ตลอดเวลาพุทธองค์ตรัสว่า สามภูมิดุจเรือนไฟเต็มไปด้วยทุกข์
ด้วยเหตุนี้ โลกนี้จึงมีทุกข์มากสุขน้อย แต่เมื่อมาถึงโลกมนุษย์แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ต้องรักษาในส่วนของตนเอาไว้ แสดงในส่วนของตนให้ดีเรื่องอะไรก็แล้วแต่ให้รับเอาไว้ แล้วถอยหลังคิดสักก้าวหนึ่ง ขอให้มีความออมชอมเป็นสำคัญ จึงจะเกิดปีติยินดีถ้วนหน้า กรรมนั้นก็จะสมบูรณ์ หมดปณิธานมีบ้างบางคนในใจมักกล่าวโทษเบื้องบนว่าฟ้าไม่ยุติธรรม อันที่จริงฟ้าไม่มีลำเอียงต่อเวไนย์แม้แต่ผู้เดียว สภาวะของเวไนย์ แม้จะมีความแตกต่างกันต่าง ๆ นานา แต่ทว่าพุทธจิตมีความเสมอภาค เบื้องบนมีความยุติธรรมและประทานคุณสมบัติแก่เหล่า เวไนย์

เหมือนกันหมด แต่เป็นเพราะเหล่าเวไนย์ได้สร้างกรรมที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงได้รับการตอบสนองที่ไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิดผลกรรมดีชั่วต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ ความตั้งใจก็อย่างที่พูดกันทั่วไปว่า ใจคอ กรรมดีชั่วทั้งหลายล้วนกำเนิดจากกาย วาจา ใจ เป็นผู้ก่อขึ้น สมมติว่า คำพูดที่เหมือนกัน งานที่ทำอย่างเดียวกันแต่ใจคอที่เมตตากับใจคอที่โกรธแค้น ก็ให้ก่อผลต่างที่เรียกว่าสวรรค์กับนรก พูดถึง เมตตาเวทนา เมตตา ทำให้คนมีความสุข เวทนา ทำให้ความเจ็บปวดลดน้อยลง ใจที่มีเมตตาเวทนาคือความสะอาดหมดจดไม่มีลำเอียง เป็นความคิดที่มีต่อบุคคลอื่นแท้จริง คนที่มีเมตตาเวทนาแท้จริงย่อมมีปัญญาที่จะก้าวล้ำผู้อื่น เพราะมีสิ่งนี้จึงจะสามารถมีวิทยาทานให้วาจาที่

อ่อนโยนและปลอบประโลมได้ หรือภาพลักษณ์ที่เกี้ยวกราดด้วยเกิดจากใจคอที่ลำเอียง เพราะใจแปดเปื้อนจึงไม่มีปัญญาพิจารณา ใจเมตตาเวทนาแบบนี้จะไม่สะอาดหมดจด เหตุเกิดจากความคิดอยากไม่ว่าจะทำความดีมากน้อยแค่ไหน ผลสุดท้ายก็มักถูกความรักทำร้ายเอา เพื่อที่จะให้ชาวโลกเข้าใจสัจธรรม อาตมาขอยกนิทานเรื่องหนึ่งเมื่อก่อนมีพระภิกษุอาวุโสอาศัยอยู่ที่เชิงเขามีวันหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งจากในเมืองได้ยินกิติศัพท์มาสมัสการมาถามเรื่องการปฏิบัติบำเพ็ญ ทันใดก็ให้บังเอิญมีกวาง 2 - 3 ตัว เข้ามากินผักในสวน พระภิกษุลุกขึ้นมาถือไม้เท้าแล้ววิ่งเข้าไปในสวน ร้องตวาดและไล่ตีกวาง ชายหนุ่มเห็นเช่นนี้ก็ตกใจ เพราะกิติศัพท์ถึงความเมตตาและปัญญาดูตรงข้ามกัน พระภิกษุที่เห็นแก่ผักในสวนถึงกับละทิ้งแขกและออกไปไล่ตีกวางเช่นนั้น เมื่อรอคอยพระภิกษุกลับมาอีกครั้งจึงพูดจาเสียดแทงไปว่า ดูมันอ่อนโยนดีคงจะหิวแย่เลยมาคราวหน้าฉันจะนำอาหารมาให้พวกมันกินบ้างพระ

ภิกษุรีบพูดทันควันว่า ไม่รายละเอียดเธอยังไม่รู้ หมู่นี้มักมีสัตว์จากป่าลงมาที่เชิงเขา ที่นี่ก็อยู่ใกล้เมือง เกิดถูกคนจับไปก็ยิ่งน่าสงสาร เพราะฉะนั้นเมื่ออาตมาเห็นเข้า ก็ต้องไล่ตีมันไป เพื่อให้มันรู้จักว่ามนุษย์นี้น่ากลัวยิ่งนัก ชายหนุ่มได้ยินแล้ว ก็ทำให้รู้ได้ว่า พระภิกษุมีใจเมตตาเวทนาในส่วนลึก เพราะตัวเองคิดตื้น ๆ และในใจไม่สะอาดก็ให้รู้สึกละอายใจที่แท้คนระดับสูง การคิดอ่านการกระทำจะไม่เหมือนคนทั่วไป คนที่เปี่ยมไปด้วยสติปัญญาและความเมตตานั้น ทำอะไรก็จะเรียบร้อยทั้งก่อนหน้าและตอนหลัง ปัญญาที่เฟื่องฟูออกมาจากส่วนลึกของความเมตตา
เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจจะเข้าใจได้ เหตุเพราะปราศจากเพื่อตนเอง จะไม่เอาพุทธธรรมมาทำตามอารมณ์คน ดังนั้นจึงสามารถชี้ตรงใจคน โดยโปรดช่วยเหล่าเวไนย์ ถ้าหากชาวโลกได้ยินหรือได้เห็นสิ่งที่พูดกันว่าเรื่องจริงแล้ว

สามารถกระโดดพ้นจากจุดยืนของตนเองกับความคิดเห็นแล้วมาตรึกตรอง เพราะต่างมุมมองก็ย่อมเกิดความคิดเห็นแตกต่างกัน จะได้ไม่ถูกอารมณ์และสภาวะครอบงำเพื่อหลบเลี่ยงจากการคาดเดาหรือสงสัยและก่อให้เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่ควรขึ้นแต่เหล่านี้ก็เพียงเพื่อรักษาเป้าหมาย ทั้งยังเป็นพื้นฐานในการตัดถอนเมล็ดพันธุ์มโนวิญญาณที่ไม่สะอาด จึงจะหลีกเลี่ยงการบ่มเพาะจนกลายเป็นละครเศร้า อาตมาได้เห็นบรรดาศิษย์ที่เข้ามาพึ่งอาจารย์ หยาง และแต่ละครั้งที่อาจารย์หยางได้บรรยายธรรม ก็ได้ช่วยแก้ปมใจให้ไม่น้อย จนมีการเปลี่ยนแปลงการยึดติด
และการเห็นสิ่งต่าง ๆ ในเรื่องโลภโกรธหลง ด้วยเหตุนี้ เมล็ดพันธุ์ของมโนวิญญาณภายในค่อย ๆ สะอาดขึ้น
เมื่อได้ผ่านบำเพ็ญปฏิบัติจริงจัง รากเง้าความเลวร้ายในใจก็ได้ถูกถอนออกไปภายหลังจากเข้ามาพึ่งอาจารย์แล้วก็ต้องปฏิบัติอย่างจริงใจเอาวิถีใจเข้าสู่ชีวิตประจำวัน และเพ่งส่องกายวาจาใจไม่ให้ขาดตอน ศิษย์แต่ละคนที่มาพึ่งอาจารย์ ทั้งหน้าตา วาจา และดวงชะตาล้วนเปลี่ยนแปลงไปไม่ธรรมดา เหมือนไม้ผลต้นหนึ่งจะให้ผลดกงาม ก็ต้อง

หมั่นดูแล ให้ปุ๋ย ให้น้ำสอดส่องกิ่งใบและคอยตัดแต่งไม่ให้ติดโรค หากต้องการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ
ก็ต้องผ่านการแก้ไขให้ดี ตลอดจนการทนเจ็บ ต่อกิ่ง รับกิ่งที่ดีเพื่อแก้ไข เมื่อแก้ไขสำเร็จ ผลสำเร็จก็ย่อมดีกว่าเมื่อก่อน การบำเพ็ญมิใช่เพียงแค่ตัดกิ่ง ต่อกิ่ง แก้ไข หากแต่ทำให้สะอาดกาย วาจา ใจ ให้ถึงที่สุด เปลี่ยนแปลงเมล็ดพันธุ์ มโนวิญญาณ เพราะฉะนั้นก็สามารถเปลี่ยนวิญญาณเป็นปัญญา เปลี่ยนกังวลเป็นโพธิ ดังนั้นจึงยกย่องว่า

กายสำเร็จ พุทธะ ใจสำเร็จ(พุทธะ)ชาวโลกมักต้องการแต่มงคล หลบภัยเคราะห์ จึงยุ่งอยู่กับการสะเดาะเคราะห์ ดูดวงชะตาหหมอดู แก้ไขที่อยู่อาศัยให้ได้ชัยภูมิดี ฮวงจุ้ย เพื่อแก้ไขดวงชะตาที่สุดไม่เพียงเหนื่อยเปล่ายังเสียทรัพย์ผลที่ได้ก็ไม่ชัดเจนไม่รู้จริง ๆ หากไม่สามารถก้าวข้ามเคราะห์กรรมก็ให้เปลี่ยนแปลงความคิด ถึงแม้ว่าจะแก้ไขได้ครั้งคราว แต่ก็ไม่อาจแก้ได้ตลอดชีวิต ก็เหมือนกับคนเจ้าอารมณ์ ที่อดกลั้นได้ครั้งคราว เมื่อเผชิญกับสภาวะ

อารมณ์ก็ยังสงบไม่ได้ ดังคำที่ว่าโรคเก่ากำเริบอาตมาเร่งเร้าชาวโลก ถ้าหากจะบำเพ็ญสำเร็จหรือเปลี่ยนแปลงดวงชะตาก็ต้องสะอาดกายวาจาใจทางแห่งสะอาดก็คือการเปลี่ยนแปลงความคิด แก้ไขนิสัย แก้ไขเมล็ดพันธุ์มโนวิญญาณกรรมกีดขวางก็มาจากวิสัยที่หมักหมม วิสัยที่ทำบ่อย ๆ จนฝังลึกก็จะกีดขวางพุทธจิต จะกระทบดวงชะตา ด้วยเหตุนี้การแก้ไขวิสัยที่หมักมม การเปลี่ยนแปลงต้องเด็ดขาดตัดใจ เวไนย์เดิมคือ พุทธะ เป็นเพราะอวิชชาฟุ้งซ่าน ฟั่นเฟือนทำให้พุทธจิตจมหาย จนลืมเลือนหน้าตาดั้งเดิมต่อเมื่อ โลภ โกรธ หลง ที่หมักมมในสันดานสะอาดหมดจดหวนคืนสู่จิตเดิม จิต ตนคือพุทธะทุกอย่างก็สมบูรณ์ฝั่งกระโน้นก็สามารถขึ้นได้


จบ




มัชฌิมประภาสปุญสถาน

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ.........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2019, 11:06:38 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน