ผู้เขียน หัวข้อ: สมหมาย สาลีสังข์ แท็กซี่ธรรมดากับความคิดไม่ธรรมดา  (อ่าน 1109 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



สมหมาย สาลีสังข์ แท็กซี่ธรรมดากับความคิดไม่ธรรมดา

“ขอโทษครับ ผมมาช้าสิบนาที เดี๋ยวผมแถมให้นะ”

สมหมาย สาลีสังข์ คนขับแท็กซี่บอกเราทันทีที่มาถึงจุดนัดสัมภาษณ์

ราวๆ 2 ปีก่อน หลายคนพร้อมใจแชร์เรื่องราวของเขาลงในเฟซบุ๊ก ทำนองว่า “แท็กซี่ดีๆ ยังมีในบ้านเรา” อีกทีเขาออกรายการโทรทัศน์ พร้อมกับได้รับสมญา “คนขับรถแท็กซี่คิวทอง” ล่าสุดมีคนแชร์เรื่องราวเขาอีกครั้ง พร้อมชื่นชมว่าเขาเป็นคนขับแท็กซี่ที่น่าเอาเป็นตัวอย่าง… Secret ได้ยินอย่างนี้ จึงมั่นใจว่าเขาไม่ธรรมดาแน่นอน

คุณสมหมาย เกิดที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เดิมทีทำไร่ทำนา ก่อนจะเป็นทหารเกณฑ์อยู่สองปี เมื่อปลดแล้ว รับราชการอยู่อีก 7 ปี ก่อนผันตัวไปทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง


คุณสมหมายกับรถแท็กซี่สีเขียวคู่ใจ

“ผมเคยอยู่ฝ่ายผลิตฉาก ทำฉากเกมโชว์ ละครให้พี่ต้อย (เศรษฐา ศิระฉายา) อยู่ 4 ปี เพราะลูกของเจ้านายเก่าผม (สมัยรับราชการ) ทำงานด้านนี้ เมื่อเจ้านายเห็นว่าผมมีความสามารถจึงแนะนำให้ไปทำ กระทั่งวันหนึ่งชีวิตพลิกผัน ตัดสินใจออกมาขับแท็กซี่ เหตุที่เลือกอาชีพนี้เพราะไม่มีเงินทุนไปทำอย่างอื่น เช่าขับอยู่ 7-8 ปี ต่อจากนั้นก็มีรถเป็นของตัวเอง แล้วเริ่มรับงานเหมาออกต่างจังหวัด”

เมื่อถามว่าทำไมเขาจึงได้รับสมญา “แท็กซี่คิวทอง” คุณสมหมายตอบฉะฉาน

“ผมมีจุดขาย คือเจอลูกค้าต้องพูดสวัสดีทุกครั้ง แค่นี้เราก็กินขาดแล้ว งานบริการมันอยู่ที่คำพูดคำจา จะแวะไหน ผมจอดนั่น ต้องแม่นเส้นทาง ต้องรู้ว่าลูกค้าจะไปไหน อ่านใจลูกค้าให้ได้ว่าเขาสไตล์ไหน ชอบอะไร ที่สำคัญผมเก็บเงินไม่แพงเท่าคนอื่น ผมเอากิโลเมตรมาคำนวณดูจริงๆ จัดคิวการเดินทาง คนอื่นจะทำไม่ทำ ไม่รู้ แต่ผมทำ คิดให้ถูกแล้วเราอยู่รอดดีกว่า ไม่ต้องไปคิดอะไรมากเลย ไม่มีคำว่าขาดทุน ถึงราคาไม่แพง แต่เรามีกินทั้งวัน ชีวิตเรามีความสุข ครอบครัวเรามีความสุข

“ผมไม่ปฏิเสธลูกค้า แท็กซี่หลายคันเลือกเยอะ แล้วก็มาบ่นว่าไม่ได้ตังค์กัน เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ทำยังไงก็ได้ให้มันดีที่สุด”


ชายคนนี้รวยอารมณ์ขัน ใครได้พูดคุยกับเขา เป็นต้องหัวเราะจนท้องแข็ง

เขาเล่าว่าด้วยจุดขายเหล่านี้ทำให้ใช้เวลาไม่นานนัก ในการหาลูกค้าประจำ เพราะหลายคนแนะนำกันแบบปากต่อปาก เขาเล่าต่อว่า

“ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มันจะมีทางเข้าหลายประตู แต่ก่อนเวลาว่างผมจะขับรถไปดูที่นั่น แล้วจดไว้ว่าประตูไหน สายการบินอะไร จากนั้นผมลองขับรถดูว่าระหว่างประตูหนึ่งถึงสิบใช้เวลาเท่าไหร่ มันเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ นะ แต่เรามองข้ามไม่ได้ สมมติผมไปส่งคนแก่ เขาไม่รู้ว่าต้องไปประตูสิบ ก็ลงตั้งแต่ประตูหนึ่ง เสียเวลาเดินไปสิบนาที สิบนาทีนั้นมีความหมายนะ ตกเครื่องได้เลย ผมต้องเผื่อเวลาไว้ แบบนี้ผมจะทำงานคล่องตัวด้วย”

– พูดคุยมาถึงตรงนี้ เสียงโทรศัพท์คุณสมหมายก็ดังขึ้น –

ไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่บังเอิญได้ยินว่าเป็นลูกค้าโทรมาจองคิว เมื่อวางสายเขาจึงถือโอกาสเล่า

“ทุกวันนี้ผมรอรับโทรศัพท์อย่างเดียว มีความสุขมาก ขับรถแบบไม่ต้องคำนึงถึงขาดทุนกำไร ไม่ต้องแข่งกับใคร เขาถามว่าจะไปนี่ไหม ผมตอบเลย ไป แล้วก็ลดราคาให้เขา

“คำว่า “แท็กซี่” แค่เอ่ยขึ้นมาคนก็ไม่ไว้ใจแล้ว มันยากนะที่จะทำให้เขาไว้ใจ แต่สำหรับผม ผมทำได้ เคยมีเจ้าของรีสอร์ทให้ไปรับส่งลูกสาวขึ้นรถข้ามจังหวัด พอขึ้นรถเขาก็หลับเลย ไม่มีความกังวลอะไร”


คุณสมหมายจัดเก็บตารางงานอย่างเป็นระเบียบ

เราเคยเห็นข่าวแท็กซี่หลอกคนบ่อยๆ จึงลองถามเขาดูว่า เคยโดนคนหลอกบ้างไหม

“ทุกคนเคยเจอกันหมด โดนโกงก็บ่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวเอาเงินมาให้ แต่พอลงรถไปแล้วก็หายไปเลย บางคนขึ้นมาก็ขู่ว่า อยากโดนจี้ไหม มีหมดทุกรูปแบบ แต่ทุกวันนี้อุ่นใจ เพราะเรามีลูกค้าประจำ นอกจากลูกค้าปลอดภัยแล้ว ตัวเราเองก็ปลอดภัย ไม่ต้องคอยระวังผู้โดยสารมาจี้มาปล้น”

ความไม่ธรรมดายังไม่หมดเท่านั้น คุณสมหมายเล่าว่าเขามี “ทีม” เป็นของตัวเอง มีสมาชิก 3 คน เขาดูแลลูกทีมด้วยระบบที่ตัวเองสร้างขึ้น

“ระบบผมทำงานง่ายมาก ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ลูกค้าสำคัญ ห้ามปล่อยให้ลูกค้ารอเรา แต่เรารอลูกค้าได้ ไปสายต้องขอโทษ เหมือนที่ผมขอโทษคุณตั้งแต่ต้นพอรู้ว่ามาสาย แล้วลดราคาให้ สิ่งไม่ดีห้ามออกมาจากปาก เก็บเอาไว้ในใจเท่านั้น โดยเฉพาะเวลาโกรธ โมโห ห้ามให้ลูกค้าได้ยิน ถ้าลูกค้าไม่ดี ให้มาบอกผมแค่คนเดียว ผมจะหาทางออกให้ที่สวยงามสำหรับสองฝ่าย ต้องแก้ด้วยสติปัญญา อย่าแก้ด้วยอารมณ์ นอกจากนี้ลูกทีมของผมต้องไม่โลภ โกรธ หลง อิจฉา ริษยากัน”

คุณสมหมายย้ำว่ากฎของทีมข้อสำคัญที่ห้ามแหกคือการรับทิป

“กฎของผมคือถึงลูกค้าจะประทับใจการบริการ แต่ห้ามรับทิป มีแต่ลดกับลด ต้องวางงานไว้ ไม่งั้นอยู่ไม่รอด เพราะถ้าเราเคยได้เยอะ แล้ววันหนึ่งได้น้อย เราก็จะไม่สบายใจทีหลัง แผนของผมคือบริการให้ถูกและดีเข้าไว้ แล้วลูกค้าจะกลับมาใช้บริการเราเองแบบที่ทีมงานเรารับงานกันไม่ไหว

“มีหลายคนอยากเข้ามาเป็นทีมผม แต่แค่คุยกันทางโทรศัพท์ก็ตกสัมภาษณ์แล้ว เพราะเขาบอกว่า ถ้าขับรถออกต่างจังหวัดก็ได้รับฝรั่งด้วยสิ อย่างนี้ก็ได้เงินเยอะสิ ผมได้แต่คิดในใจว่า แล้วทำไม คนไทยกับฝรั่งไม่เหมือนกันหรือ เขาคิดว่าจะได้เหมาราคาแพง ผมถือว่าสอบตก สำหรับผม ฝรั่ง คนไทย ราคาเดียวกัน จะรวยเป็นร้อยล้านพันล้านก็เรื่องของคุณ ผมคิดเท่ากัน

“เตี่ยกับแม่ผมสอนเสมอว่า อย่ามองใครกิน อย่าขอใครกิน อย่าเอาเปรียบใคร อย่าไปโกงใคร อย่าไปอยากได้ของใคร อยากได้ทำเอา ไม่มี ก็อดเอา ผมจึงถือคติว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ หรอก ต้องหาเอาเอง”

แม้คุณสมหมายจะคิวงานแน่นขนาดนี้ แต่เขาไม่เคยมองว่าเขาทำงานหนักเกินไป

“หลายคนถามว่าไม่หยุดไปเที่ยวบ้างหรือ ผมตอบเลยว่าทำงานแบบนี้มันได้เที่ยวไปในตัวอยู่แล้ว ผมไปเกือบทั่วประเทศไทย ไปไหว้พระ ทำบุญ ได้เห็นทะเล ภูเขา น้ำตก ไปหาของกินแต่ละภาค มันสุดยอดมาก ที่สำคัญผมมีความสุข ผมถือเป็นกำไรชีวิต”

คุณสมหมายบอกว่าตลอด 17 ปีที่ขับแท็กซี่ เขาไม่เรียกร้องเงินทองมากมาย ขอแค่ได้เป็นผู้ให้บ้าง เท่านี้ก็ได้รับสิ่งตอบแทนกลับมาอย่างมหาศาล

สิ่งมหาศาลที่ว่า…ก็คือ “ความสุข”




เรื่อง รำไพพรรณ บุญพงษ์ ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี

ท่านใดสนใจใช้บริการแท็กซี่ของคุณสมหมาย ติดต่อได้ที่เบอร์ 087-052-2525 และ 087-592-0230


จาก http://www.secret-thai.com/article/6141/sommai-taxi/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...