ผู้เขียน หัวข้อ: ไซอิ๋ว (ฉบับเดินทางสู่พุทธภาวะ) : อรูปราคะ อุทธัจจะ  (อ่าน 2009 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


อรูปราคะ อุทธัจจะ

พระถังซัมจั๋งและสานุศิษย์ออกจากเมืองเทียนเต็กแล้ว ต่างรอนแรมเรื่อยไปจนเวลาผ่านไปครึ่งเดือน มองเห็นกำแพงตั้งท่ายฮู้ พระถังซัมจั๋ง และศิษย์ผ่านเข้าเมืองจนถึงอำเภอตี้เล่งกุ้ย
 
ยังมีเศรษฐีใจบุญแห่งอำเภอตี้เล่งกุ้ยผู้หนึ่ง ชื่อเข่าญ่วนหลาย (อรูปราคะ = ความติดใจในอรูปธรรม) ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ให้ครบหมื่นรูป ได้เลี้ยงมาแล้ว ๙,๙๙๖ รูปยังขาดอีก ๔ รูป ครั้นมีคนไปรายงานท่านเศรษฐีว่ามีคณะพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้ง ๓ มาจากแดนไกล เศรษฐีก็ให้ยินดียิ่งนัก เรียกลูกๆและภรรยาออกมาคำนับพระถังซัมจั๋ง และสานุศิษย์ แล้วนิมนต์ให้พระถังซัมจั๋งพักค้างอยู่ที่บ้าน เพื่อได้ทำบุญเลี้ยงพระให้ครบตามปรารถนา พระถังซัมจั๋งขัดศรัทธาของเข่าญ่วนหลายไม่ได้ จึงตกลงพักอยู่ ๑๕ วันแล้วลาจาก
 
ฝ่ายยายช่วนจำภรรยาและบุตรของเศรษฐีทั้ง ๒ (อุทธัจจะ = ความฟุ้งซ่าน) ขอนิมนต์ให้พระถังซัมจั๋งอยู่ต่อเพื่อการบุญของตัวเองบ้าง แต่พระถังซัมจั๋งปฏิเสธ จึงผูกใจเจ็บอาฆาตไว้ พระถังซัมจั๋งและศิษย์ครั้นออกเดินทางไปครู่ใหญ่ ฝนก็ตกกระหน่ำลงมาจึงชวนกันหลบฝน ณ สถานที่ปรักหักพังแห่งหนึ่ง
 
กล่าวถึงฝ่ายพวกโจร ๓๐ คน ครั้นเห็นฝนตกมืดฟ้ามัวดิน เช่นนั้นเห็นเป็นได้โอกาสเข้าปล้นเศรษฐีแล้วทุบตีเข่าญ่วนหลายจนถึงแก่ความตาย จากนั้นพวกโจรรวบรวมเงินทองข้าวของได้หนีไปทิศทางเดียวกับที่พระถังซัมจั๋งกับศิษย์หลบฝนอยู่
 
ฝ่ายเห้งเจียเห็นพวกโจร ทราบความทันทีว่าโจรเหล่านี้ปล้นเข่าญ่วนหลาย เช่นนั้นแล้วจึงแผลงฤทธิ์เข้าจับโจรรวบรวมเงินของกลางไว้สิ้นแล้วปล่อยตัวไป พระถังซัมจั๋งกับศิษย์จึงย้อนกลับไปอำเภอตี้เล่งกุ้ย เพื่อนำเงินทองของกลางไปคืนแก่เข่าญ่วนหลาย โดยไม่ทราบว่าท่านเศรษฐีได้ตายไปแล้ว
 
ทางด้านยายช่วนจำกับเข่าเหลียงและเข่าตั๊ว บุตรทั้งสองมีความเคียดแค้นพระถังซัมจั๋งอยู่ก่อน ครั้นโจรปล้นฆ่าสามีตาย จึงใส่ความแก่พระถัง ซัมจั๋งและศิษย์ว่าปลอมเป็นโจรย้อนมาปล้นในคืนฝนตก ดังนั้นพอพระถังซัมจั๋งกับศิษย์แบกเงินทองของกลางมาคืน จึงถูกเจ้าหน้าที่ๆรับแจ้ง ความไว้จับตัวไปคุมขังและเจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะทรมานโดยการบีบขมับให้สารภาพ
 
เห้งเจียเข้าไปรับหน้าแทนพระถังซัมจั๋ง นักการลงโทษบีบขมับเท่าใดๆเห้งเจียแต่หาสะเทือนไม่ นักการจึงจองจำอาจารย์และศิษย์ ไว้ในคุกมืดรอเวลาประหารให้ตายตกตามเจ้าทรัพย์ไป
 
ครั้นตกดึกเห้งเจียสะเดาะโซ่ตรวนออก แล้วแปลงเป็นแมลงหวี่ ลอดออกทางรูกระเบื้องบินไปที่ศพของเข่าญ่วนหลาย จากนั้นพูดขึ้นราวกับว่า เข่าญ่วนหลายเป็นผู้พูดเอง ถึงเหตุที่ตายตามเป็นจริงให้ผู้เฝ้าศพทราบ แล้วเห้งเจียก็บินไปทำเป็นเสียงลุงผู้ที่ตายไปแล้วให้คณะลูกขุนที่จะทำการพิพากษา ขู่ให้ปล่อยตัวพระถังซัมจั๋งและศิษย์ เสร็จแล้วเห้งเจียแปลงเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ร่างกายมหึมาลุกขึ้นกระทืบบาทสะเทือนเมือง ขู่ว่าหาก ลงโทษพระถังซัมจั๋งแล้วจะถล่มเมืองนี้เสีย
 
รุ่งเช้าคณะลูกขุนได้เห็นจีวรครองของพระถังซัมจั๋ง แล้วรีบปล่อยตัวทันที หลังจากนั้นเห้งเจียเหาะลงไปในนรกนำวิญญาณของเข่าญ่วนหลาย มาใส่ในร่างเดิม เศรษฐีใจบุญก็ฟื้นชีพขึ้น พวกประชาชนรู้กิติศัพท์ความสามารถของพระถังซัมจั๋งและศิษย์ แล้วต่างแห่แหนสักการะเป็นการเอิกเกริก ศิษย์และอาจารย์อำลาประชาชนแล้วบ่ายหน้าไปวัดลุยอิมยี่
 
(เศรษฐีเข่าญ่วนหลาย = อรูปราคะ เป็นผู้ยินดีในสิ่งที่ไม่มีรูป เช่น เกียรติยศ บุญ ความสงบ ความดี เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นความกำหนัดยินดี เป็นตัณหา ราคะ แต่ผู้รู้ธรรมย่อมไม่กำหนัดยินดีในสิ่งที่ไม่มีรูป แต่จะทำกุศลด้วยปัญญาในขั้นต้น จึงต้องฆ่าเศรษฐีทางนามธรรมให้ตายก่อน เมื่อรู้และละซึ่งรูปราคะ อรูปราคะ และอุทธัจจะได้แล้วก็กลายเป็นเศรษฐีฟื้นชีพขึ้นมา หนทางที่จะบรรลุอรหัตตผลก็บังเกิดขึ้น
 
ส่วนพระถังซัมจั๋งและศิษย์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรเพราะเป็นคนอกตัญญูกินบุญแล้วไม่ตอบแทน คือผู้ที่กำลังเดินทางไปสู่ความหลุดพ้น จะกลายเป็นผู้อกตัญญูต่อพ่อและแม่ เพราะไม่เลี้ยงดูตอบแทนท่าน
 
ด้วยรูปราคะไม่มี อรูปราคะไม่มี อุทธัจจะไม่มี แลดูไปเหมือนเป็นคนไม่ยินดียินร้ายในสิ่งใด ไร้ความรู้สึก ดูคล้ายๆเหมือนคนร้ายฉันนั้น)





จาก http://www.khuncharn.com/skills?start=35

อีกอัน ไซอิ๋ว ฉบับ อาจารย์ เขมานันทะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=maekai&month=10-07-2008&group=15&gblog=1
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...