ผู้เขียน หัวข้อ: วิญญาณสัมภเวสี มาขอส่วนบุญ กับ หลวงพ่อเกษม ที่ป่าช้าแม่อาง  (อ่าน 996 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



วิญญาณสัมภเวสี มาขอส่วนบุญ กับ หลวงพ่อเกษม ที่ป่าช้าแม่อาง


หลวงพ่อเกษม เขมโก

หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์จ.ลำปางเมื่อครั้งที่ท่านยังไม่ละสังขารขันธ์นั้น ชื่อของท่านขจรขจายเลื่องลือกว้างไกลไปในหมู่พุทธบริษัทมีพุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้สักการะท่านด้วยความเคารพศรัทธาเนืองแน่นทุกวันแม้จะไม่ได้พบตัวท่านก็ขอให้ได้กราบนมัสการกุฏิหลังน้อยที่ท่านพักผ่อนอยู่ภายใน แค่นี้ก็เกิดปีติยินดีแล้ว

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ผู้ใกล้ชิดที่สุดได้มาจากบันทึกสั้นๆ ... เป็นคำบอกเล่าของเจ้าประเวท ณ ลำปางซึ่งเป็นหลานของท่านมีความว่า ...



เวลานั้นเจ้าประเวทย์บวชเป็นสามเณรคอยรับใช้อุปัฏฐากหลวงพ่อเกษมอยู่ที่ป่าช้าแม่อางปฏิปทาของหลวงพ่อเกษมนั้นพอใจจำพรรษาในป่าช้ามาโดยตลอดเสนาสนะของท่านคือกระต๊อบหลังเล็กๆที่ญาติโยมปลูกสร้างถวายขณะที่เกิดเหตุนี้สามเณรประเวทย์นอนอยู่กับพระหวันอีกที่หนึ่ง(พระหวันบวชหน้าไฟเพียง๗วันเนื่องจากบุพการีเสียชีวิตแล้วนำศพมาเผาที่ป่าช้าแม่อางในวันนั้นพระหวันบวชแล้วก็ขออยู่ในป่าช้ากับหลวงพ่อเกษม)

เช้าวันรุ่งขึ้น... สามเณรประเวทย์มาหาหลวงพ่อเกษมที่กระต๊อบกุฏิเพื่อปรนนิบัติท่านเมื่อพบหน้ากันหลวงพ่อเกษมถามสามเณรหลานด้วยความสงสัยว่า

“เมื่อคืนนี้มาที่นี่หรือ?  ใครบุกเข้ามาเมื่อคืนนี้...มาจับมือเรา?”

“ผมไม่ได้ขึ้นไปครับ... ผมอยู่ข้างล่าง”  สามเณรเจ้าประเวทย์ตอบตามความเป็นจริง

“ถ้าอย่างนั้นอสุรกายก็มาจับมือเรา...”





จากนั้นหลวงพ่อเกษมก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้สามเณรเจ้าประเวทย์ฟังว่า

เมื่อคืนนี้เวลาประมาณตีหนึ่งขณะที่หลวงพ่อเกษมนั่งภาวนาอยู่ในกระต๊อบกุฏิท่านรู้สึกว่ามีมือใครคนหนึ่งเอื้อมมาจับข้อมือท่านซึ่งกำลังประสานฝ่ามือไว้บนหน้าตักจับข้อมือไว้แล้วบีบเสียแน่นแม้จะมีผู้ล่วงเกินขณะกำลังเจริญภาวนา หลวงพ่อเกษมก็มิได้สะดุ้งหวั่นไหว ยังคงเจริญภาวนาต่อไปท่านเล่าว่า

“จับมือเราก็ให้จับ ... ภาวนาติ๊กๆ”

หมายถึงว่า หลวงพ่อเกษมก็ภาวนาไปเรื่อยๆครู่หนึ่งมือลึกลับที่มาจับข้อมือของท่านก็ถอนออกไปแต่ไม่ยังยอมผละจากไปเลยกลับมาบีบนวดที่เอวของท่านแทนจนท่านอดรนทนไม่ไหวเอื้อมมือมาจับแขนนั้นเพื่อห้ามมิให้รบกวนท่านอีก  สัมผัสที่หลวงพ่อเกษมรับรู้ก็คือแขนข้างนั้นรุงรังไปด้วยขนหยาบๆแล้วแขนข้างนั้นก็อันตรธานหายไปแต่มีเสียงกระซิบที่หูท่านว่า

“อยู่ดีๆเน้อพ่อ...เน้อ”

ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรมารบกวนท่านอีกตลอดคืนตราบจนอรุณของวันใหม่

เจ้าประเวทย์เล่าว่าตอนเช้าที่มาหาหลวงพ่อเกษมและถูกท่านซักถามดังกล่าวเจ้าประเวทย์ยังจับข้อมือของหลวงพ่อเกษมมาดูเห็นรอยแดงเป็นจ้ำตรงข้อมือท่านชัดเจน

นี่คือประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณที่หลวงพ่อเกษมเขมโกเล่าไว้เพียงเรื่องเดียวในอัตประวัติของท่านอาจจะมีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานมาขอความเมตตาจากพระอริยสงฆ์เช่นท่านอีกก็ได้ ... เพียงแต่ไม่เป็นที่เปิดเผยเท่านั้น

คัดลอกมาจาก:หนังสือฤทธิ์อภิญญา-พระอภิญญาณรวบรวม-เรียบเรียงโดย นที ลานโพธิ

http://www.poonporn.com/http://www.buddhakhun.org/main//index.php?topic=418.0

จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/203659/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...