ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธปัญญาภิรมย์ : ธรรมะทำไม ทำไมธรรมะ ( หมอ"พรทิพย์" )  (อ่าน 1121 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



<a href="https://www.youtube.com/v/Rbtp223mBAg" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/Rbtp223mBAg</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/2RlJY2Bwalo" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/2RlJY2Bwalo</a>

เพิ่มเติม https://www.youtube.com/user/cpallseven/videos

https://www.youtube.com/playlist?list=PLr8CA-SlIPTThYfQKnNJqXZtlI-wKsYYH



หมอ"พรทิพย์"ตั้งปณิธานถึงพระนิพพาน ใช้ธรรมะ ข่มมะเร็งไม่ให้ลุกลามอย่างได้ผล

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์  โรจนสุนันท์ ผอ. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  เปิดเผย กับทีมข่าว"ไทยรัฐออนไลน์"  "ยอมรับที่เดินทางไปประเทศอินเดีย เมื่อช่วงอาทิตย์ก่อนที่ผ่านมา ทางหนึ่งเพื่อไปปฏิบัติธรรมตามโครงการหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง หรือ บ.ย.ส. ของกระทรวงยุติธรรม  เพื่อต้องการไปชาร์ตแบตเตอรี่ให้ตัวเอง เพื่อกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้จิตใจรู้สึกสงบและนิ่งขึ้น"

โดยหมอพรทิพย์กล่าวว่า "มนุษย์ส่วนใหญ่มีโลกิยะที่บำรุงได้ง่าย บำรุงแล้วก็ทำให้ลุ่มหลง ก็คือเรื่องทางใจไม่่ค่อยเกิด การไปอินเดียจะทำให้เรามีความเข้าใจ และตระหนัก การทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้  พวกนี้มันไม่ได้อะไรกับเรามากนักหรอก หมอถือว่า มันเป็นการสร้างกรรมดี แล้วกรรมดี ที่ว่าเนี่ย  อยากชวนให้ทุกๆคน ไม่ใช่ว่าหมอเก่งแต่อยากจะชวนให้ทุกๆคนทำ"
 
งานที่ต้องลงไปทางใต้ ยอมรับว่า น่ากลัว   ต้องอดทน   ถูกด่า  การไปอินเดียที่ผ่านมา ทำให้เราสงบนิ่ง งานที่เป็นของเราทำให้ดีที่สุด เพราะถ้าหมอไม่ไปอินเดียจะทำให้หมอหงุดหงิดในการทำงานที่ผ่านมาเพราะ  เสียดายพยานหลักฐานที่เราไปตรวจ  อาจโกรธที่ข้าราชการบางหน่วยต่อว่า แต่ที่อินเดียทำให้จิตใจนิ่งมากขึ้นไม่โกรธแล้ว จงเชื่อมั่นเถอะว่า ถ้าธรรมะจัดสรร  ธรรมะก็จะคุ้มครอง อันนั้นคือสิ่งที่ได้จากการไปอินเดีย แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์กล่าว... 

หมอเชื่อว่า การปฏิบัติธรรมไปหล่อเลี้ยงบังไม่ให้มะเร็งออกมา  หรือถ้ามันออกมา ก็เชื่อว่า เราจะสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ ไม่ทุกข์ทรมาน จนถึงขณะนี้ก็ไม่ปรากฏอาการออกมา  ประกอบกับการปฏิบัติตัวคือ 1.ไม่เครียด  เพราะถ้าเครียด เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ป้องกันมะเร็งจะลด 2.หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้นมัน  อาทิเนื้อสัตว์ใหญ่  หมู  วัว    3. ต้องหมั่นคอยตรวจเช็คร่างกายโดยตลอดเวลา


 
เรื่องความเจ็บป่วยหมอไม่ค่อยสนใจนะ เพราะเชื่อว่า เหมือนพระเทศน์ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม " มะเร็งมันจะมาก็มา แต่ที่หมอไปอินเดียเพราะว่า หมอรู้แล้ว มุ่งมั่นแล้วว่า เป้าหมายสูงสุดของมนุษย์คืออะไร สำหรับตัวหมอคือก็เพื่อนิพพานโดยเร็วถ้าชาตินี้ได้ก็ขอให้ชาตินี้

"ทีนี้ถ้าทำกรรมดีแบบง่ายๆรายวัน มันก็ได้นิดหน่อย  แต่ถ้าไปทำกรรมดีที่ยากๆ คือไปแก้ไขปัญหาประเทศ ประมาณอย่างนั้น ในความอันตรายด้วยใจที่บริสุทธิ์  หมอก็เชื่อว่ากรรมดีที่ทำก็จะทวีคูณ  นี่คิดแบบวิทยาศาสตร์ผสมธรรมะ ไปอินเดียทำให้ฐานในใจเป็นคอนกรีตมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆทำให้มั่นใจที่มุ่งไปนั้นถูก เท่านั้นเองเลยนะคือการตามรอยพระพุทธเจ้า มะเร็งไม่สำคัญอีกเลย   พิสูจน์ได้จากที่หมอไปตรวจมาแล้ว ในจุดที่ถูกผ่าตัดที่อาการกำเริบขึ้นมาใหม่ตอนนี้ก็ฝ่อไปหมดแล้ว "
 
ทั้งหมดคือความคิดและหลักแนวทางการปฏิบัติตัว ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่คุณหมอใช้ธรรมะผสมผสานกับหลักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต และพิชิตโรคมะเร็งที่เป็นอยู่เพื่อไม่ให้ลุกลาม ซึ่งก็ได้ผลเป้นที่น่าพอใจ ขณะที่หากจะมีใครนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน  คุณหมอก็ไม่ได้สงวนสิทธิ์ไว้

จาก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=36722

http://www.thairath.co.th/content/147760
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...