ตูน บอดี้สแลม หนุ่มนักดนตรีร็อค ผู้ปลุกความฝันในหัวใจวัยรุ่นไทยให้ลุกโชน!ในวินาทีนี้คงไม่มีวัยรุ่นไทยคนไหนไม่รู้จักวง บอดี้สแลม วงดนตรีร็อคแนวหน้าของเมืองไทย นำโดย ตูน – อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ภายใต้รอยสักและหนวดเครารุงรังที่ผู้ใหญ่เห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนี ขออาสาพาคุณไปรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาแบบที่คุณจะมองข้ามภาพลักษณ์เหล่านั้นแล้วกลับมามองที่หัวใจของเขาแทน!ตูนมีความคิดเห็นอย่างไรที่เด็กหลายคนเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่พอฟังเพลงของบอดี้สแลมก็ผ่านจุดนั้นมาได้ มันเหมือนเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ได้พวกเราตั้งใจสื่อสารออกไปว่ามันตรงกับชีวิตของใครหลายคนที่กำลังท้อแท้ กำลังเดินทางตามหาสิ่งที่ต้องการอยู่ ยิ่งหลังจากที่ผมบวชก็ยิ่งตอกย้ำให้ผมต้องแต่งเพลงและร้องเพลงให้ดีขึ้นไปอีก รู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แน่วแน่มากกว่าเดิม การบวชทำให้ผมพบแรงบันดาลใจ
เพราะอะไรถึงบวชจุดประสงค์เดียวในการบวชของผมคือ ผมอยากบวชให้พ่อแม่ ให้ท่านมีความสุข ในวันที่บวชผมเห็นท่านร้องไห้ น้ำตาของท่านมาจากความดีใจ ปลื้มใจ ผมก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว วัดที่บวชเป็นวัดป่าในจังหวัดขอนแก่น สายธรรมยุติ จึงเคร่งมาก พกโทรศัพท์ไม่ได้ไม่มีทีวีดู ไม่มีหนังสือพิมพ์อ่าน ตัดขาดการสื่อสารทุกทาง แต่ผมก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุด ผมไม่ได้หวังอะไรมากมายจากการบวชแค่สามสัปดาห์ นอกเหนือไปจากการบวชเพื่อให้พ่อแม่มีความสุข แต่ถ้าผมได้อะไรมากกว่านั้นก็ถือว่าเป็นโชคดี…แล้วผมก็โชคดีจริงๆ
โชคดีอย่างไรผมรู้สึก “โล่ง” มาก อาจเป็นเพราะไม่ต้องเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตไม่ต้องคิดเรื่องงาน ถ้าช่วงนั้นไม่ติดมีงาน ผมก็อยากจะบวชต่อ เพราะผมได้เห็นตัวเองในแบบที่ถ้าอยู่ข้างนอกคงไม่มีทางได้เห็น ได้อยู่กับตัวเองเต็มที่ จากที่เคยคิดมาตลอดว่าตัวเองเก่ง เพราะคนอื่นให้ค่ากับผม แต่พอมาอยู่ที่วัด ไม่มีใครมาพูด ไม่มีใครมาคอยให้ค่าผม มีแค่ตัวผมกับผ้าเหลือง กับกุฏิในป่าและตุ๊กแก ผมได้อยู่ในสภาวะนั้นในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น เข้าใจเลยว่าตัวเองเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ผมไม่ได้เก่ง ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เจ๋งอย่างที่ผมเคยคิดว่าผมเป็นหรืออย่างที่คนอื่นคิดว่าผมเป็นผมกลับรู้สึกอ่อนแอมากจนร้องไห้ออกมา ร้องไห้ทั้งผ้าเหลืองอย่างนั้น เข้าใจเลยคำว่า“ร้อนผ้าเหลือง” เป็นยังไง รู้สึกทนแทบไม่ไหว ไม่อยากอยู่ตรงนั้น อยากจะออกไปข้างนอกไปรับกับความรู้สึกเดิมๆ อยากออกไปหาเพื่อน ไปอยู่กับความสำเร็จเหมือนที่ผ่านๆ มา
แล้วผ่านความรู้สึกนั้นมาได้อย่างไรเวลาครับ บวกกับคำสอนของท่านเจ้าอาวาส ท่านสอนให้ผมหากิจกรรมทำ ผมโชคดีได้ทำไม้กวาด (หัวเราะ) ท่องบทสวดมนต์และอ่านหนังสือ ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือหลายเล่ม แต่เล่มที่ชอบมากที่สุดคือ “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น” เพราะเป็นหนังสือที่ตรงกับชีวิตและเป็นหนังสือธรรมะที่เข้าใจง่าย อ้างอิงกับวิทยาศาสตร์ผมจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่อ่าน ยิ่งเวลาที่รู้สึกฟุ้งซ่าน ผมว่าหนังสือช่วยผมไว้ได้เยอะ
ตอนบวชเจอวิกฤติอะไรบ้างไหมตอนที่ผมกำลังจะสึก ผมกล่าวลากรรมฐานไม่ได้ พูดตะกุกตะกักไปหมด รู้สึกว่าตัวเองแพ้ ทั้งๆ ที่บทสวดลากรรมฐานสั้นนะ สั้นกว่าบทเข้ากรรมฐานมาก ตอนเข้ากรรมฐานผมสวดได้คล่องไม่ผิดเลยแต่ไม่รู้ทำไมพอผมได้มาอยู่ต่อหน้าท่านเจ้าอาวาส ผมกลับท่องบทลากรรมฐานไม่คล่อง พอสึกผมเก็บเรื่องนี้มาคิดว่า อาจเป็นเพราะผมรู้สึกพ่ายแพ้ต่อกิเลสมั้ง เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาคัดค้านการสึก เลยทำให้ผมพูดประโยคนั้นได้ยากมาก
ความรู้สึกหลังจากบวชแล้วเป็นอย่างไรผมรู้สึกว่าการบวชเหมือนกับการหยุดพักเติมน้ำมัน เกิดพลังงานดีๆ ในการดำรงชีวิต และเป็นพลังงานสะอาดด้วย ตอนที่บวชผมได้รับคำสั่งสอนจากพระอาจารย์ ทำให้ผมมองเห็นเป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้นแม้จะไม่ได้บวชเป็นพระ ไม่ได้ทำหน้าที่เผยแพร่พุทธศาสนาอย่างเต็มที่ แต่ผมก็ตั้งใจและได้บอกต่อหน้าพระอาจารย์ว่า “ถ้าสึกออกไป ผมจะเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ผมจะร้องแต่เพลงที่มีคุณค่า เพื่อให้เกิดพลังงานดีๆ แก่ผู้ฟัง”
ช่วงก่อนจะเป็นบอดี้สแลม ตูนทำอะไรอยู่ผมจำได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากในชีวิตอีกช่วงหนึ่ง พูดแล้วขนลุก จริงๆ คนเรามีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอยู่เยอะมาก ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ได้เดินทางไปกับวงดนตรีที่เราชอบ ได้เห็นเบื้องหลังตั้งแต่การเริ่มต้นคิดเพลงไปจนถึงการแสดงบนเวที ผมไปแบบตัวเปล่าๆ ใส่กางเกงบอล เสื้อยืด ใส่หมวก สะพายเป้ และรองเท้าคู่ใจ มีเงินบ้างไม่มีเงินบ้าง ได้ร้องเพลง ได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขสุดๆ ความทุกข์เพียงสิ่งเดียวที่มีคือ คำถามจากพ่อกับแม่ที่เป็นห่วงลูกว่าผมจะเอายังไงต่อไปกับชีวิต แล้วผมยังให้คำตอบท่านไม่ได้ ผมบอกท่านแต่เพียงว่า ผมขออนุญาตมาใช้ชีวิตตามความฝันก่อน หากผมทำไม่ได้ ผมจะกลับไปทำงานเป็นหลักแหล่ง และจะตอบคำถามของท่าน
จากคำถามของพ่อแม่ในวันนั้นจนถึงวันนี้ที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ตูนเจอความฝันหรือยัง ยังตามหาอยู่หรือเปล่าตอนนี้เกินจากที่ผมฝันไว้เยอะนะ การที่ได้เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ราชมังคลากีฬาสถาน มีคนมาชมหลายหมื่นคนจากทั่วประเทศ สิ่งเหล่านี้เกินจากที่ผมฝันไว้ สิ่งที่ผมฝันจริงๆ คือการได้เป็นนักร้อง แต่ไม่ได้ฝันถึงขนาดของคนดู ขนาดของสถานที่จัดคอนเสิร์ต ผมฝันแค่เพียงได้ร้องเพลงและยังสามารถมีความสุขกับการเป็นนักร้องให้ได้นานที่สุด ฉะนั้น ความฝันของผมยังไม่จบจนกว่าผมจะตาย บางคนคิดว่าชีวิตเขาเริ่มต้นตอนอายุ 40 แต่ผมคิดว่าผมโชคดีที่ชีวิตผมเริ่มก่อน
ชีวิตผมเริ่มตั้งแต่อายุแค่ยี่สิบกว่าๆ แต่ใช่ว่าผมเริ่มก่อนแล้วชีวิตผมจะยืนยาวกว่า หน้าที่ของผมคือการรักษาความฝันให้ไปถึงจุดหมายปลายทางให้ได้ เหมือนสุภาษิตที่ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ความฝันของผมคืออยากจะร้องเพลงไปจนอายุ 70 แล้วยังออกอัลบั้มใหม่ได้ สามารถกระโดดโลดเต้นกับแฟนเพลงวัยรุ่นได้ ยังสามารถแต่งเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้แก่เด็กรุ่นใหม่ได้ ยังสื่อสารกับเด็กรุ่นใหม่ในเรื่องเดียวกัน ไม่ดูเป็นคนแก่ที่น่าเบื่อขี้บ่นสำหรับเขา นี่แหละความฝันของผม
ช่วงไหนที่รู้สึกท้อมากที่สุด
ผมท้อค่อนข้างบ่อย อาจเป็นเพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องงานถ้าจะให้นึกถึงเรื่องที่ท้อใจที่สุด คงเป็นช่วงที่กำลังจะออกบอดี้สแลมชุดแรก ถือเป็นช่วงที่เปราะบางที่สุดในชีวิต ตอนนั้นผู้ใหญ่ไม่มั่นใจในวง ไม่ยอมให้เราออกอัลบั้มทั้งๆ ที่ทำเพลงกันมาหลายปีแล้ว มีทั้งเพลง งมงาย เพลง ย้ำ เพลง ทางของฉันฝันของเธอ และอีกหลายๆเพลงที่สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ฟังและตอบโจทย์ทางธุรกิจได้แล้ว แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่มั่นใจ ช่วงนั้นกดดันมาก ถ้ายุบวงตอนนั้นก็ทำได้โดยที่ไม่รู้สึกแพ้ เพราะทำทุกอย่างหมดแล้ว สุดท้ายผมตัดสินใจขอเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ ถ้าวันนั้นคุยแล้วยังเหมือนเดิม ผมคงยอมแพ้ไปแล้ว คงไม่มีบอดี้สแลมเหมือนทุกวันนี้
มีคำแนะนำอย่างไรให้แก่วัยรุ่นยุคใหม่ที่อยากตามฝัน แต่พอไม่สำเร็จก็ท้อ แล้วเลิกไปผมว่าทุกๆ คนมีรูปแบบของความฝัน ความเชื่อ และการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ผมก็มีรูปแบบและมีข้อจำกัดของผม ส่วนน้องๆ พี่ๆ ก็มีรูปแบบและมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตที่ต่างออกไป ถ้าจะให้ผมแนะนำคือ เราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรัก โดยไม่ต้องคาดหวังผลตอบแทน ผมเชื่อว่าถ้าเราไม่หยุดที่จะรัก ไม่หยุดที่จะพยายาม สักวันผลจะออกมาดี ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่ผมคิดว่าความสำเร็จเปรียบเสมือนบันได เหมือนการเดินขึ้นบันไดทีละก้าวๆด้วยความรัก ความตั้งใจ เวลาท้อแท้ก็อาจก้าวสั้นบ้างหรือก้าวลงบ้างแต่พอมีแรงก็ก้าวกระโดดสองขั้นด้วยความสนุกสนาน เมื่อเวลาผ่านไปจะรู้สึกว่า โอ้โห! เรามาอยู่ตรงจุดนี้ได้แล้วนะ ขอให้ทำไปเรื่อยๆไม่ต้องกำหนดหรือกดดันตัวเองว่ากี่ปีจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วจะพบว่า ถ้าไม่หยุดเดินและค่อยๆ ก้าวไปเรื่อยๆ ด้วยความรัก ความหลงใหลและความมุ่งมั่นพยายาม คุณจะต้องพบความสำเร็จอย่างแน่นอน
Secret Box
ทำทุกอย่างด้วยความรักและเต็มที่กับสิ่งนั้น โดยไม่คาดหวังผลตอบแทนใดๆ สักวันความสำเร็จจะเป็นของคุณ
ตูน บอดี้สแลมจาก
http://www.secret-thai.com/category/article/