ผู้เขียน หัวข้อ: ใครเป็นใคร ? จากเรื่องพระเวสสันดร กลับชาติมาเกิด ใน พระชาติ ของ พระพุทธเจ้า  (อ่าน 1117 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


พระมหาเวสสันดรชาดก  กลับชาติมาเกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นแบบอย่างของผู้เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม คือสรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์เข้าสู่แดนแห่งความสุขนิรันดรคือพระนิพพาน

พระนางมัทรี เป็นพระราชธิดาแห่งกษัตริย์มัทราช  อภิเษกสมรสกับพระเวสสันดร  มีพระโอรสชื่อพระชาลีและมีพระธิดาชื่อพระกัณหาพระนางตามเสด็จพระเวสสันดรไปยังเขาวงกต

พระนางมัทรี  กลับชาติมาเกิดเป็น  พระนางยโสธราพิมพา  พระมารดาพระราหุล

พระชาลี กลับชาติมาเกิดเป็น  พระราหุล เป็นสามเณรรูปแรกของพุทธศาสนาเมื่อบวชเป็นภิกษุแล้วบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางผู้ใคร่ในการศึกษาท่านนิพพานก่อนพระพุทธองค์ ก่อนพระสารีบุตร ก่อนพระโมคคัลลานะ  ดับขันธปรินิพพานที่บัณทุกัมพลศิลาอาสน์ ณดาวดึงส์เทวโลก



พระกัณหา เป็นผู้หนึ่งที่ทำให้พระเวสสันดรได้บำเพ็ญบุตรทานบารมีซึ่งเป็นทานอันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ทั้งหลายไม่สามารถทำได้  นอกจากมหาบุรุษผู้ทรงหวังพระโพธิญาณเท่านั้นดังที่พระเวสสันดรทรงตรัสว่า

“พระลูกเอ๋ย เจ้าไม่รู้หรือพระบิตุรงค์บรรจงรักพระโพธิญาณ หวังจะยังสัตว์ให้ข้ามห้วงมหรรณพภพสงสารให้ถึงฟากเป็นเยี่ยงอย่างยอดยากที่จะข้ามได้”

พระกัณหาเป็นผู้ที่มีความกตัญญูเชื่อฟังคำสั่งสอนและมีความเฉลียวฉลาด

และเมื่อพระเวสสันดรตรัสเรียกโดยกล่าวว่า

        “…ไยเจ้าไม่องอาจยอมย่อท้อทิ้งพระบิดา ให้พราหมณ์มันจ้วงจาบหยาบช้าเจ้าเห็นชอบอยู่แล้วหรือหนาพ่อสายใจ…”


ทั้งสองกุมารก็ขึ้นจากสระมาแต่โดยดี

        พระกัณหาเป็นผู้ว่าง่ายถึงคนคนนั้นจะดีหรือไม่ดีต่อตนก็ตามก็ยังเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่ขัดขืน  และยังมีน้ำใจคอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นผู้ที่เข้าใจในเจตนาของพระเวสสันดรที่เสียสละเพื่อประโยชน์ของชนหมู่มากแม้การเสียสละนั้นจะทำให้ตนเองลำบากก็พร้อมที่จะเข้าใจเหตุผลความจำเป็นที่ตนต้องเสียสละ

พระนางกัณหา กลับชาติมาเกิดเป็น   พระอุบลวรรณาเถรี   ชำนาญในการแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้รับตำแหน่งในทางเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย  ในฝ่ายผู้มีฤทธิ์และเป็นอัครสาวิกาฝ่ายซ้าย



ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์ เป็นผู้เชื่อมเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเรื่องมหาเวสสันดรชาดกให้เนื้อหามีความต่อเนื่องกัน  คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี และยังเป็นผู้ดลบันดาลให้ตัวละครต่าง ๆ ได้มาพบกันด้วย เกือบทุกกัณฑ์ พระอินทร์เป็นเทพที่มีจิตใจดีมีความเมตตากรุณา เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมชอบช่วยเหลือคนดีมีคุณธรรมที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก

ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์  กลับชาติมาเกิดเป็น พระอนุรุทรเถระ เป็นผู้ไม่รู้จักคำว่า ไม่มี และไม่ได้บวชด้วยศรัทธาแต่บวชเพราะเกรงใจเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหัต์แล้วได้รับยกย่องว่าเป็นเอตคัคคะทางผู้มีทิพยจักษุญาณเป็นปฐมเหตุประเพณีทอดผ้าบังสุกุล หรือทอดผ้าป่า นิพพาน ณ ภายใต้ร่มกอไผ่ในหมู่บ้านเวฬุวะ แคว้นวัชชี

พระนางผุสดี ธิดากษัตริย์มัททราช  มเหสีของพระเจ้ากรุงสญชัยแห่งกรุงสีพีราษฎร์และพระมารดาของพระเวสสันดรนั้น เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าพันธุมราชแห่งพันธุมดีนครทรงได้รับพระราชทานแก่นจันทน์แดงจากพระราชบิดาจึงได้นำไปบดใส่ผอบทองและถวายแด่พระวิปัสสิสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งอธิษฐานว่าขอให้ได้เป็นพุทธมารดาในอนาคต

พระนางผุสดี  กลับชาติมาเกิดเป็น  พระนางสิริมหามายา

พระเจ้ากรุงสญชัย กลับชาติมาเกิดเป็น  พระเจ้าสุทโทธนะ

ชูชก  กลับชาติมาเกิดเป็น  พระเทวทัต  สุดท้ายถูกแผ่นดินสูบ

นางอมิตตดา กลับชาติมาเกิดเป็น  นางจิญจมาณวิกา  ถูกแผ่นดินสูบหน้าวัดเชตวันมหาวิหารอยู่บริเวณใกล้ๆกับเทวทัตนั้นเอง

พระอัจจุตฤาษี กลับชาติมาเป็น พระสารีบุตร  เป็นอัครสาวกฝ่ายขวา ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะว่าผู้เลิศด้วยปัญญาเทศน์โปรดโยมแม่แล้วนิพพาน

พรานเจตบุตรเป็นแบบอย่างของคนดีแต่ไม่ฉลาดจึงตกเป็นเหยื่อของคนหลอกลวงที่มากไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอย่างชูชก

พรานเจตบุตร  กลับชาติมาเกิดเป็น  พระฉันนะเถระ      

พระเจ้ามัททราช กลับชาติมาเกิดเป็น  พระมหานามศากยราช    ซึ่งพระมหานามศากยราชเดิมเป็นราชบุตรพระเจ้าอมิโตทนราชผู้เป็นพระเจ้าอาของพระสิทธัตถะกุมาร



พระวิสสุกรรม คือ เทพบุตรผู้มีคุณธรรม ปฏิบัติดี เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของพระอินทร์ เป็นแบบอย่างลูกน้องที่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้านายอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่องซึ่งจะเห็นได้จากการที่พระอินทร์สั่งให้พระวิสสุกรรมลงมาเนรมิตอาศรมและคอยดูแลทั้งสี่กษัตริย์

พระวิสสุกรรม   กลับชาติมาเกิดเป็น  พระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์มาก

ช้างปัจจัยนาค  กลับชาติมาเป็น พระมหากัสสปเถระ  เป็นประธานในการปฐมสังคายนาหลังพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วได้รับยกย่องเป็นเอตคัคคะว่าเป็นผู้เลิศในทางธุดงค์เป็นต้นแบบของพระป่า  มีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปี นิพพานแล้วท่านยังอธิฐานจิตให้สรีระของท่านยังคงสภาพเดิมไม่สูญสลาย  จนกว่าจะถึงศาสนาพระศรีอริยเมตไตย

แม่ช้างกเรณูเป็นช้างที่สำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องต่าง ๆ ตามมามากมายตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง  โดยได้ให้กำเนิดลูกช้างชื่อปัจจัยนาค และนำมามอบให้เป็นช้างคู่บารมีของพระเวสสันดร

แม่ช้างกเรณู   กลับชาติมาเกิดเป็น  กีสาโคตรมี  ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง

เทวราชสุรารักษ์ เป็นแบบอย่างของความมีเมตตาที่ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมสังคมเดียวกันได้อย่างสงบสุข ทรงให้ความช่วยเหลือและให้ความอบอุ่นแก่สองกุมารแทนพระบิดา ช่วยดูแลอภิบาลพระกัณหาและพระชาลีในขณะที่เดินทางมากับชูชก

เทวดาผู้ชายที่ดูแลพระกัณหาและพระชาลี   กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหากัจจายนะเถระ มีรูปร่างหล่อมากเป็นที่ศรัทธาของคนทั่วไปต่อมาแปลงร่างให้รูปร่างอ้วนไม่น่าดูได้รับยกย่องเป็นเอตคัคคะในทางอธิบายความย่อให้พิศดาร



เทวดาผู้หญิงที่ดูแลพระกัณหาและพระชาลี กลับชาติมาเกิดคือ  นางวิสาขา   เป็นผู้ที่มีความสวยได้เบญจกัลยาณี มีลูกหลานเหลนทั้งหมด  ๘๔๒๐ คน มีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปีได้รับยกย่องเป็นเอตคัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายิกาผู้มีศรัทธามาก

สหชาติหกหมื่นหรือบุคคลผู้ร่วมการเกิด หรือร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้านั้นมีมากมายมหาศาล  อาจเป็นเหล่าเสนาอำมาตย์ที่อยู่ในวังหรือประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธเจ้าในสมัยนั้นซึ่งมีจำนวนมากมาย แต่สหชาติที่สำคัญและถูกบันทึกไว้ในพระพุทธประวัตินั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดของพระพุทธ  และเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๗ สหชาติ

สหชาติโยธี  ได้กลับชาติมาเป็น  พุทธเวไนย

เทวดาที่เนรมิตเป็นเสือโคร่ง กลับชาติมาเป็น  พระสิมพลีหรือพระสิวลี เป็นสาวกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการพระศาสนาเป็นอย่างมากได้รับยกย่องเป็นเอตคัคคะผู้มีลาภมาก

ทวดาที่แปลงเป็นพระยาพยัคฆราช(เสือเหลือง)   กลับชาติมาเกิดเป็น  พระจุลนาคเถระ พระจุลนาคนี้ไม่มีชื่อปรากฏโดยตรงในพระคัมภีร์แต่มีปรากฏในพระสุตันตปิฎกเถรกถา  เรียกชื่อว่าพระจุฬกเถระ(ซึ่งอาจเป็นองค์เดียวกันก็ได้)เป็นสาวกที่มีคติธรรม มองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดีงามถือเอาความดีงามมาเป็นหลักในการปฏิบัติตนจนได้ฌาณสมาบัติบรรลุพระอรหัตตผล

เทวดาที่แปลงร่างเป็นราชสีห์  กลับชาติมาเป็น พระอุบาลี ได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาในตำแหน่งเอตคัคคะเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางผู้ทรงพระวินัยครั้งเมื่อทำปฐมสังคายนาเป็นผู้วิสัชนาพระวินัย

นายนักการที่นำข่าวการเนรเทศมาทูลพระเวสสันดร กลับชาติมาเกิดเป็น พระอานนท์ได้รับยกย่องในตำแหน่งเอตคัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวงถึง ๕ ประการเป็นพหูสูตร เป็นผู้มีสติ เป็นผู้มีคติ เป็นผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐากเมื่อครั้งทำปฐมสังคายนาเป็นผู้วิสัชนาพระสูตร มีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปีปรินิพพานกลางอากาศ

เสนาจุตตอำมาตย์ เป็นคนใจบุญ  คอยช่วยเหลือในการบริจาคทานของพระเวสสันดรซึ่งต่อมาได้เกิดเป็น  อนาถบิณฑิกเศรษฐี  ได้รับยกย่องในตำแหน่งทางเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งในฝ่ายผู้เป็นทายก

จาก https://jirawanjane.wordpress.com/ ตัวละครกับการกลับชาติม/

เพิ่มเติม มหาเวสสันดรชาดก ออกอากาศทาง ททบ.5 พ.ศ. 2530 http://www.tairomdham.net/index.php/topic,10878.0.html

พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ย่อมให้บุตรภรรยาเป็นทานเหมือนกันหมด หรือ ? ( มิลินทปัญหา ) http://www.tairomdham.net/index.php/topic,351.0.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...