เมื่อความกตัญญูของหลวงพ่อปานมีคนติงว่าบาป เป็นภิกษุปรนนิบัติแม่ อุ้มลุกอุ้มนั่ง ทำอย่างนี้ได้ไงเนื่องในเทศกาลวันแม่ที่จะมาถึง จึงอยากหยิบยกเอาเรื่องความกตัญญูของครูบาอาจารย์ขึ้นมาเล่า
คำว่า "แม่" นั้น ปราศจากมลทินใดๆ แม้แต่ภิกษุหากได้ปรนนิบัติดูแลบิดา มารดา แตะต้องเนื้อตัว ก็นับเป็นบุญ มิใช่บาปแต่อย่างใด
(ความรักของแม่)
หลวงพ่อปาน ท่านมีความกตัญญูเป็นเลิศ
จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๔๕ หน้า ๘๔-๘๕ โดย พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ :ผู้เล่าเรื่อง)
...หลวงพ่อปานท่านมีความกตัญญูต่อแม่ท่านมาก ทั้งพ่อทั้งแม่นั่นแหละ พ่อหรือแม่ก็ดีเวลาป่วยท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน
ท่านเอามารักษาตัวอยู่ที่วัด ให้นอนในกุฏิท่าน ผ้านุ่งแม่ของท่านท่านซักเอง ท่านเอาผ้านุ่งแม่ของท่านไปตากไว้บนขื่อ
ไอ้ขื่อบ้านนี่มันสูงพอสมควร มันสูงกว่าหัวคนนะ เวลาเดินมาหัวคนนี่ต้องลอดขื่อผ้านุ่งแม่ของท่าน
ท่านไปตากไว้บนขื่อ เวลาแม่ของท่านลุกไม่ถนัด ท่านก็อุ้มลุกอุ้มนั่ง
ถึงแม้ว่าแม่ของท่านเป็นผู้หญิง แต่ว่าเวลานั้นท่านเป็นพระ มีคนหลายคนเข้ามาตำหนิท่าน พวกผู้หญิงเขาตำหนิท่านว่า
“คุณปาน...โยมของคุณนะเป็นผู้หญิง ผ้านุ่งเอาไปตากไว้บนขื่อ ซักผ้านุ่งของแม่เอง อุ้มลุกอุ้มนั่ง เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเองอย่างนี้แม่จะเป็นบาป”
(หลวงพ่อปาน ถ่ายกับโยมพ่อและโยมแม่)
ท่านไปตากไว้บนขื่อ เวลาแม่ของท่านลุกไม่ถนัด ท่านก็อุ้มลุกอุ้มนั่ง
ถึงแม้ว่าแม่ของท่านเป็นผู้หญิง แต่ว่าเวลานั้นท่านเป็นพระ มีคนหลายคนเข้ามาตำหนิท่าน พวกผู้หญิงเขาตำหนิท่านว่า
“คุณปาน...โยมของคุณนะเป็นผู้หญิง ผ้านุ่งเอาไปตากไว้บนขื่อ ซักผ้านุ่งของแม่เอง อุ้มลุกอุ้มนั่ง เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเองอย่างนี้แม่จะเป็นบาป”
ท่านก็เลยบอกว่า “พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่บาปนี่ พระพุทธเจ้าท่านว่าดี ... เวลานี้ฉันไม่ใช่คนแล้ว ฉันเป็นพระ
พอฉันมาเป็นพระ ฉันก็เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ในเมื่อพระพุทธเจ้าผู้เป็นพ่อว่าไม่บาป แต่ทรงกล่าวสรรเสริญว่าเป็นความดี ฉันก็เลยทำตามท่านนะซิ
หากว่าฉันจะทำตามคนอื่นพูด ก็ชื่อว่าฉันไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ฉันทำตามคำของพระพุทธเจ้า ก็ชื่อว่าฉันไม่เชื่อคนอื่น"
"ถ้าว่าฉันเป็นฆารวาส ฉันจะเชื่อชาวบ้าน แต่เวลานี้ฉันเป็นพระฉันต้องเชื่อพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่”
จาก
http://panyayan.tnews.co.th/contents/199525/