ผู้เขียน หัวข้อ: ครั้งหนึ่งเมื่อแม่เล่าถึงพ่อ พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ เกี่ยวกับ ในหลวง  (อ่าน 1028 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



ครั้งหนึ่งเมื่อแม่เล่าถึงพ่อ ....พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ เกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 เมื่อ ๑๖.๓๐ น. วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๒๓ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นักข่าวหญิงจากสโมสรนักข่าวหญิงแห่งประเทศไทยจำนวน ๓๑ คนเข้าเฝ้าฯรับพระราชกระแส ณ พระตำหนักจิตรดารโหฐาน และ ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงน้ำชาแก่คณะที่มาเข้าเฝ้าฯด้วย
       
       ในการนี้ทรงมีพระราชกระแสเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่นักข่าวหญิงบางคนบันทึกไว้มีข้อที่น่าสนใจ เช่น
       
       เรื่องดูแลในหลวง

       “...ต้องดูแล เพราะว่า บางครั้งท่านเพลินกับงาน จะออกมาเสวยก็ช้า ต้องคอยเคาะประตู คอยเข้าไปเฝ้า แล้วก็เวลาหลังจากประชวรเป็นปอดบวมเลยคอยห่วง ตอนนี้ท่านก็ยิ่งพระชมน์มากขึ้น ยิ่งทำงานหนักใหญ่...”
       
      เรื่องพระบารมีของในหลวง

       “...พระอาจารย์ต่างๆ ฉันต้องเรียกว่า พระอริยเจ้า เพราะว่าท่านปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ที่ไปกราบท่านอาจารย์ฝั้น ท่านอาจารย์บัว ท่านอาจารย์วัน คือ ท่านก็ล้วนแต่บอกกับฉันทั้งนั้นว่า เสด็จฯไหนๆนี่ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะ พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
       
      เรื่องในหลวงคือรัชกาลที่ ๔ มาเกิด

       นักข่าวหญิงกราบบังคมทูลว่า “จริงหรือเปล่าเพคะที่มีคนเขาว่า ท่านอาจารย์ฝั้นบอกกับคนอื่นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่คือรัชกาลที่ ๔ มาเกิด?”
       
       สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงตอบว่า

       “อ้อ ถ้าเผื่อท่านอาจารย์ฝั้นกล่าว ก็อาจจะเข้าเค้า ฉันไม่ทราบ เพราะไม่เคยกล่าวกับฉัน ทราบแต่ว่าท่านบอกว่า พระเจ้าอยู่หัวองค์นี้มีบุญมาก เพราะว่า ท่านทำแต่ความดี แล้วก็มุ่งมั่นแต่ความดี ที่หลวงปู่โต๊ะท่านบอกว่า คนโง่ถึงจะไม่รู้ว่า พระมหากษัตริย์พระองค์นี้เป็นอย่างไร คนโง่เท่านั้นที่จะด่าว่าแล้วท่านบอกว่าไม่เป็นมงคลเลยกับตัวเขาเอง บอกว่าถึงเขาจะห้อยพระ ถึงเขาจะมีของดีอะไรก็ตาม ท่านบอกยังไม่มีความดีเป็นรากฐานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนจะคุ้มครองได้ บอกคนนี่ต้องมีความดีอยู่ในตัว...”
       
       เรื่องในหลวงไม่นินทาใคร

       “...พระเจ้าอยูหัวนี้ แม้แต่อยู่ลำพัง ไม่เคยเห็นท่านรับสั่งอะไรที่ไม่ควร ไม่เคยโปรดเลยที่จะว่าใคร นินทาใคร ท่านไม่มีเลย ท่านไม่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ใครเลย แม้แต่อยู่ลำพังนี่ท่านก็จะพูดสิ่งที่สร้างสรรค์ทั้งนั้น ท่านจะสนุก อย่างเรื่องดนตรี เรื่องเรือใบ ตอนนี้ท่านก็สนุกกับงานพัฒนา ท่านก็พูดแต่พัฒนาแผนที่ของท่าน ท่านไม่รับสั่งเรื่องที่ไปกระทบหรือใส่ร้าย หรืออะไรกับใครต้องคนอยู่ใกล้พระองค์นี่ถึงจะเห็น แล้วท่านทำอะไรท่านก็ทำเองหมดเลย อย่างจะเสด็จฯ ภาคใต้นี่ ท่านก็แพ็คของเอง ในการแต่งพระองค์ก็ไม่สนพระทัยเลย ขำ ...เมื่อตอนท่านหนุ่มๆ บอกว่า ท่านตัดผม (ทรงพระสรวล) ในหลวงตัดผม ที่แท้แม้แต่จะส่องกระจกนานๆก็ไม่ส่อง ไม่สนพระทัย...”
       
       เรื่องฉุดพระบาท

       “...พระเจ้าอยู่หัวบอกว่า...นี่นะอันตรายอย่างหนึ่ง เขานึกว่าเราไม่ใช่คน นึกว่าเราเป็นเทวดา จะบอกว่าเท่าไหร่ๆก็ไม่ฟัง พูดอธิบายเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง แย่งกันฉุดพระบาทของพระเจ้าอยู่หัว ท่านบอกว่าอย่างนี้ก็ล้มสิ ต่างคนต่างจะเอาพระบาทขึ้นไปบนหัว คนนั้นแย่งข้าง คนนี้ก็แย่งอีกข้าง เรื่องนี้นานมาแล้ว...”
       
       เรื่องถวายน้ำอัดลม

       “...พระเจ้าอยู่หัวก็เหมือนกัน เขาเห็นทรงเหน็ดเหนื่อย เหงื่อไหลเขาวิ่งมาอุตสาห์เอาแก้วมาเปิดน้ำอัดลมให้ ขนาดจนๆ นี่วิ่งเอามาให้ พวกทหารองครักษ์บอกเสวยไม่ได้ แต่ท่านก็เสวย รับสั่งว่า “ไม่ได้ เสียน้ำใจ” เรื่องนี้ก็นานมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเข้าใจ ฝ่ายอารักขาก็รักและเป็นห่วง...”
       
       ตอนหนึ่งจากหนังสือ “คือรักแห่งราชัน พระมิ่งขวัญคู่แผ่นดิน”
        โรม บุนนาค เรียบเรียง


จาก http://astv.mobi/AnZA1bI
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...