คดีฆ่าแขวนคอ 5 ศพ ครอบครัว บุญทวี เมื่อสิบปีก่อน คงไม่มีใครปฏิเสธความโหดเหี้ยมของฆาตกรใจอำมหิตที่ลงมือมัดมือมัดเท้าแขวนคอ
นายประภาส บุญทวี อายุ 43 ปี หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านระวะ ต.ระวะ อ.ระโนด จ.สงขลา
และลูกชาย 3 คนของเขา ประกอบด้วย
ด.ช.กัมปนาท อายุ 13 ปี
ด.ช.ชัชวาลย์ อายุ 11 ขวบ และ
ด.ช.ปรนนท์ อายุ 9 ขวบ
แต่ละศพถูกแขวนคอห้อยอยู่กับบันไดบ้านเลขที่ 162 หมู่ 8 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของพวกเขาเองในขณะที่
นางเจียมจิต บุญทวี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอควนเนียง จ.สงขลา ภรรยาของประภาส แม่ของลูกชายทั้ง 3 คน
ถูกมัดมือมัดเท้าทุบศีรษะและใบหน้าด้วยของแข็งตายอนาถอยู่บนเตียงนอนในบ้านหลังเดียวกันนับเป็นภาพแห่งความสยดสยองระคนไปด้วยความเศร้าสลด!
บ่ายวันที่ 26 เมษายน 2540 เพื่อนร่วมงานของประภาส ไปตามเขาที่บ้าน เพราะหยุดงานโดยไม่บอกกล่าวแต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตู เมื่อเพื่อนเห็นผิดสังเกตจึงเข้าไปดูในตัวบ้าน ถึงกับตกตะลึงแทบล้มทั้งยืนเมื่อพบกับภาพสยดสยองภาพข่าวแห่งความทารุณ คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถึง 3 คน ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อทุกแขนงไปทั่วทุกสารทิศ
กรมตำรวจโดย พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รอง อ.ตร.ในขณะนั้น ตั้ง พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าชุดนำทีมนักสืบระดับพระกาฬจากกองปราบปรามลงพื้นที่คลี่คลายคดีทันทีไล่เรียงจาก รองโต้ง หรือ พ.ต.อ.ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ รอง ผบก.ป. รองยาว พ.ต.ท.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ รอง ผกก.2 ป. เข้าสนธิกำลังตำรวจพื้นที่ นำโดย พล.ต.ต.ปรีชา แสงวรรณ ผบก.ภ.จ.สงขลาทันทีที่เดินทางถึง อ.สิงหนคร
ทีมสืบสวนตรงดิ่งไปยังบ้านครอบครัวบุญทวี เพื่อเก็บหลักฐานจากจุดเกิดเหตุให้ได้มากที่สุดโดยผลการชันสูตรของแพทย์ระบุว่า พวกเขาน่าจะเสียชีวิตก่อนพบศพไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงแสดงว่าครอบครัวบุญทวีถูกฆ่าตายเย็นวันที่ 25 เมษายน!
จากพฤติการณ์ที่โหดเหี้ยมของคนร้าย ทีมสืบสวนจึงพุ่งเป้าไปที่การล้างแค้นที่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมากการไล่เช็คข้อมูลความขัดแย้งของประภาส ทั้งเรื่องการพนัน ชู้สาว ปัญหาญาติพี่น้อง มรดกที่ดิน ถูกตั้งเป็นโจทย์ให้คลี่คลายทีละปมแต่ทั้งหมดไม่มีเหตุจูงใจถึงกับเข่นฆ่ากันทั้งตระกูล!
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ มีกำนันคนหนึ่งใน อ.สิงหนคร มาขอพบชุดสืบสวนพร้อมให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุ ลูกน้องผมเห็นไอ้แหวงเข้าไปที่บ้านบุญทวีทีมสืบกระจายกำลังกันออกติดตาม ไอ้แหวง หรือ แสวง หรือ สว่าง สุวรรณมณี ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นคนหนึ่งซึ่งก็ติดตามตัวไม่ยากนักทีมสืบจึงเชิญตัวมาสอบปากคำวันนั้นผมเข้าไปละแวกบ้านหมอประภาสจริง แต่ผมไปตั้งวงเหล้า ปิ้งปูปิ้งปลากิน อยู่ริมทะเล ผมไม่รู้เรื่องฆ่ากันแล้วพวกคุณรู้ได้ยังไงว่าผมไปที่นั่น?
แสวงย้อนถามกำนันบอกอ๋อ..ผมกับมันไม่ถูกกันก่อนที่ทีมสืบจะทยอยเรียกเพื่อนของแสวง มาสอบปากคำจนครบทุกคนจนเชื่อว่าที่แสวงพูดไม่ได้โกหกประกอบกับพยานหลายปากยืนยันว่าแสวงนั่งกินเหล้าอยู่ริมทะเลตั้งแต่บ่ายจนสี่ทุ่ม แสวงจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องแต่แสวงก็ถูกดำเนินคดีค้างเก่าฆ่านายสม บุญล้วน น้าเขย เมื่อปี 2539 แทน!
ทีมสืบลงพื้นที่ดูบ้านเกิดเหตุอีกครั้งและเผอิญเจอ ลุงอ่ำ อายุ 70 ปีเศษ ที่มีบ้านพักอยู่ใกล้กับครอบครัว บุญทวี และกลายมาเป็นพยานปากสำคัญคุณตำรวจครับ วันที่เกิดเหตุ ตอนเย็น ผมจะเข้าไปคุยกับหมอประภาสที่บ้าน เห็นคนร้ายสองคนจับเด็กมัดมือมัดเท้าไว้ แต่ยังไม่ได้แขวนคอ ตอนนั้นหมอประภาสยังไม่กลับบ้าน ผมจึงเดินเลี่ยงกลับบ้าน ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าบอกใคร
ลุงอ่ำเล่าอย่างตื่นตระหนกเหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆคนร้ายมีท่าทางเป็นยังไงครับคุณลุง?เป็นเด็กวัยรุ่นสองคนทีมสืบสวนแทบไม่เชื่อจริงๆ ครับ ผิวดำคนนึงสูงประมาณ 168 เซนติเมตร อีกคนสูง 170 กว่า ตอนลุงยืนดูอยู่ คนผิวดำยังหันมายิ้มให้ลุงเลย ลุงอ่ำยันลุงรู้จักเขารึเปล่าไม่ใช่คนแถวนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีมสืบประหวัดไปถึงสภาพในบ้านที่ถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย ทำให้เอะใจว่าหรือพวกมันต้องการทรัพย์สิน แล้วทรัพย์สินที่หายไปล่ะ จะมีใครรู้บ้างเพราะคนในครอบครัวเสียชีวิตไปหมดแล้วทีมสืบจึงสอบถามแม่ประภาส และเพื่อนๆ ที่สนิท จนทราบว่ามีสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมจี้เล็กๆ ของเจียมจิตหายไปที่สำคัญพระเครื่องหลายร้อยองค์ ที่ประภาสร่วมจัดสร้างกับเจ้าอาวาสวัดป่าขาด ใน อ.สทิงพระซึ่งเขามักนำมาแจกจ่ายชาวบ้านอยู่เป็นประจำ ได้อันตรธานหายไปไม่หลงเหลือเลยสักองค์!
รองยาว รีบไปหาเจ้าอาวาสวัดป่าขาดทันที ก่อนได้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาส ให้พระเครื่องหมอประภาส ไปเกือบสี่ร้อยองค์ผมขอเช่าพระเครื่องรุ่นนี้ได้ไหมครับตามสบายเลยโยม เจ้าอาวาสตอบรับหลังเช่าพระเครื่องมารองยาว นำทีมลูกน้องเดินสายแจกพระเครื่องให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตามอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ตั้งแต่สิงหนคร สทิงพระ ระโนด หัวเขาแดงรวมทั้งแจกจ่ายให้กับ ผกก. และรอง ผกก. ในที่ประชุมตำรวจภูธรภาค 9 หวังจะได้เบาะแสคนร้ายบ้างและแล้วความหวังก็เป็นจริง
เมื่อ พ.ต.ท.เกียรติ ขันหาญศึก สวป.สภ.อ.เมือง จ.ยะลา แจ้งมาว่ามีวัยรุ่น 2 คน เอาพระเครื่องรุ่นดังกล่าวไปให้ผู้ใหญ่เม่น หรือ ณัฐพล นพวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านที่ อ.ธารโต จ.ยะลาทันทีที่ทราบเบาะแสครั้งสำคัญ รองยาวนำทีมสืบสวนบึ่งรถเก๋งไปที่ อ.ธารโต บ้านผู้ใหญ่เม่นผู้ใหญ่ไม่อยู่ครับไปกรุงเทพฯ หลานชายผู้ใหญ่เม่นบอกเอ็งเคยเห็นพระเครื่องรุ่นนี้หรือเปล่า
รองยาวถาม พร้อมกับหยิบพระเครื่องให้ดูเคยเห็นครับน้องผู้ใหญ่เพิ่งเอามาให้ใครว่ะน้องผู้ใหญ่ศักดิ์ครับ ชื่อจริง
เรืองศักดิ์ ทองกุล บางคนก็เรียกเขาว่า ศักดิ์ ปากรอ
เขามาหาผู้ใหญ่ที่บ้าน มากับเพื่อนคนนึง แต่ไม่เจอ ก็เลยให้พระเครื่องรุ่นนี้ไว้ยี่สิบกว่าองค์การหาเบาะแสไอ้ศักดิ์ เริ่มสืบจนรู้ว่าไปกบดานอยู่กับน้าสาวใน จ.สงขลา รองยาวพาลูกน้องตรงดิ่งไปหาน้าสาวของไอ้ศักดิ์ทันทีโอ้ย!! มันเพิ่งออกไปเมื่อเช้านี้เอง น้าสาวบอกเขาไปไหนครับ?มันบอกว่าจะไปหาน้าอีกคนที่เมืองกาญจน์โน่นแน่ะรองยาวนึกในใจกว่าจะเดินทางจากสงขลาไปถึงกาญจนบุรี ต้องใช้เวลาครึ่งวัน ถ้าไปเองคงตามไม่ทัน
ก่อนตัดสินใจต่อสายตรงถึง พ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบก.ป.ทันทีพี่ครับไอ้ศักดิ์ มันหนีไปที่เมืองกาญจน์ครับเออ!! เดี๋ยวกูตามมันเองหลังวางสาย พ.ต.อ.อัศวินนำทัพตำรวจกองปราบปรามเข้าล้อมบ้านของน้าไอ้ศักดิ์ที่เมืองกาญจน์ พร้อมส่งสายสืบกระจายกำลังในพื้นที่หาเบาะแสกระทั่งวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 มีคนเห็นไอ้ศักดิ์อยู่ที่ตลาดใกล้บ้านกำลังซื้อหนังสือพิมพ์อ่านข่าวอยู่กำลังตำรวจจู่โจมเข้าล็อคตัวไอ้ศักดิ์ได้ที่หน้าแผงหนังสือ
ทีมสืบชุดใหญ่จากกองปราบฯ และสอบสวนกลาง ถูกระดมเข้าซักมันละเอียดยิบแต่มันปิดปากเงียบ ทำเฉยเมย ไม่สะทกสะท้านรองยาวรวบรวมความอดทน นั่งคุยอยู่กับมันเป็นวันๆ แต่พูดยังไงไอ้ศักดิ์ ก็ปฏิเสธยืนกระต่ายขาเดียวกระทั่งรองยาวหันมาใช้หลักจิตวิทยาดูบ้างแหม มือฆ่ามันเก่งจริงๆ ใจถึง ใจกล้ามาก กูยอมรับเลยเข้าล็อคไอ้ศักดิ์เปิดปากพวกคุณอยากรู้เหรอว่าใครทำ?แล้วมันก็เล่าต่อเหมือนเป็นความภูมิใจยิ่งว่าผมเนี่ยล่ะเป็นคนทำ กับน้องคนนึง เป็นนักเรียนอยู่ ม.5
แล้วเอ็งทำอย่างงัยว่ะก่อนคำพูดจะพรั่งพรูมาจากไอ้ศักดิ์ผมวางแผนทำมาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่สำเร็จเพราะเด็กที่ไปด้วยใจไม่ถึงอ้าวแล้วเด็กนักเรียนมาจากไหนผมเช่าห้องอยู่ตามหอพักใกล้โรงเรียน จะมีเด็กนักเรียนมาพักอยู่จำนวนมาก แล้วจะถามพวกมันว่าอยากได้เงินใช้ไหม ถ้าอยากได้ให้ไปด้วยกัน แต่ไม่ได้บอกพวกมันหรอกว่าไปทำอะไร
ครั้งนี้ผมพา
ไอ้จ้อง หรือ สงกรานต์ แก้วอุบล อายุ 18 ปี
ไปด้วยบ่ายสามโมงเศษ ตอนแรกลูกชาย 3 คน กลับมาถึงบ้านก่อน เลยจับมัดมือมัดเท้า ต่อมาภรรยาประภาสกลับมาถึง ก็จับมัดมือมัดเท้าไว้ที่เตียงนอนในห้อง ตอนนั้นยังไม่ได้ลงมือฆ่าใครแล้วทำไงต่อ?รอหมอประภาสกลับมา ก็ล็อคตัวเข้าไปในบ้านมึงทำเขาเพื่ออะไรว่ะ?จะไปเอาเงินล้านนึงเงินอะไรว่ะตั้งล้านนึงเขาเพิ่งขายวัวชนไปล้านนึงกูถามเพื่อนสนิทหมอ เขาบอกว่ายังไม่ได้ขายโว้ย แค่จะขายเท่านั้น มึงฟังข่าวมาผิดแล้วแล้วมึงทำยังไงกับพวกเขาไหนเล่าต่อไปซิทุบเมียหมอ เอาหัวโขกกับเตียงเหล็ก บังคับให้ หมอประภาสบอกที่ซ่อนเงิน จนเมียมันตาย
ตอนนั้นหมอกับลูกๆ ก็นั่งดูอยู่หมอไม่ตกใจเหรอ?ตกใจสิ ทำท่าเหมือนจะบ้า ตะโกนให้ฆ่ามันแทนแล้วไอ้สงกรานต์ที่ไปกับมึงล่ะ?มันก็ตกใจ ยืนรออยู่ข้างล่าง ตะโกนให้หยุด แต่ผมไม่หยุด ผมบอกกับ ประภาสว่า ถ้าไม่บอกที่ซ่อนเงินจะแขวนคอลูกชายทีละคน แต่เขายังยืนยันว่าไม่มีเงินจริงๆ เลยใช้เชือกผูกคอแล้วถีบลูกมันตกจากบันไดทีละคน เริ่มจากลูกชายคนเล็กก่อน ระหว่างนั้น ประภาส ก็ตะโกนร้องขอให้ฆ่าเขาก่อน เพราะไม่อยากเห็นลูกตายต่อหน้าต่อตา แต่พอมันไม่ยอมบอกที่ซ่อนเงิน ผมก็ถีบลูกมันแขวนคอกับบันไดตายจนครบทั้ง 3 คน ตอนนั้นหมอเป็นลมไปเลย พอฟื้นขึ้นมา ก็เลยจับหมอมาแขวนคอเป็นรายสุดท้ายตอนที่แขวนคอเขาแล้วถีบลงจากบันไดตายทีละคน ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ?ไม่นี่ ไม่เห็นเป็นไร คนจะตายมันก็ต้องตาย ไอ้ศักดิ์ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านคำให้การของไอ้ศักดิ์ทำเอาทีมสืบขนลุกไปตามๆ กัน!
ก่อนที่ตำรวจอีกชุดจะตามจับไอ้จ้อง หรือ สงกรานต์ แก้วอุบล ได้ในจังหวัดสงขลา ไอ้จ้องรับสารภาพว่า ผมไปกับไอ้ศักดิ์ แต่ไม่รู้ว่ามันจะไปฆ่าคน มันแค่ถามว่าอยากได้เงินใช้หรือเปล่า ถ้าอยากได้ให้ไปกับมันทำให้ทุกคนตั้งคำถามว่าไอ้ศักดิ์ป่วยทางจิตหรือไม่?
ทีมสืบจึงไปสอบถามอาจารย์วัลลภ ปิยะมโนธรรม ได้ความว่า ลักษณะของไอ้ศักดิ์เป็นคนเก็บกด เป็นพวกอาฆาตสังคม มีแต่ความโกรธแค้นที่ถูกกระทำตั้งแต่เด็ก เพราะตอนอายุประมาณ 5 ขวบ พ่อแม่ไอ้ศักดิ์ออกไปทำนา ปล่อยมันอยู่บ้านคนเดียว ถูกโจรเข้าปล้นบ้านที่ อ.ปากรอ ตอนเช้าเอาของในบ้านไปหมด แล้วเอามุ้งมัดตัวมันไว้จนเย็น พ่อแม่กลับมาจึงมาแก้มัดให้พอเริ่มเป็นหนุ่มอายุ 16 ปี ไอ้ศักดิ์เกิดทะเลาะกับคนข้างบ้านเรื่องวัว ที่มากินผักที่ปลูกไว้ ไอ้ศักดิ์ใช้เชือกผูกคอวัวแล้วชักรอกวัวขึ้นไปแขวนคอบนต้นไม้จนตายนั่นเป็นประวัติครั้งอดีตของมาตกร!โดยศาลชั้นต้น และอุทธรณ์ พิพากษาประหารชีวิตไอ้ศักดิ์ ปากรอ คดีถึงชั้นศาลฎีกา เห็นว่าคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษให้คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เหมือนกับไอ้จ้องคู่หู
...............................................................................
คดีนี้...กุญแจอยู่ตรง รองยาว (คดีนี้..ขณะนั้น เป็นรอง ผกก2กองปราบปราม)
รองยาว รีบไปหาเจ้าอาวาสวัดป่าขาดทันที ก่อนได้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาส ให้พระเครื่องหมอประภาส ไปเกือบสี่ร้อยองค์ผมขอเช่าพระเครื่องรุ่นนี้ได้ไหมครับตามสบายเลยโยม เจ้าอาวาสตอบรับหลังเช่าพระเครื่องมารองยาว นำทีมลูกน้องเดินสายแจกพระเครื่องให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตามอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ตั้งแต่สิงหนคร สทิงพระ ระโนด หัวเขาแดงรวมทั้งแจกจ่ายให้กับ ผกก. และรอง ผกก. ในที่ประชุมตำรวจภูธรภาค 9 หวังจะได้เบาะแสคนร้ายบ้างและแล้วความหวังก็เป็นจริง
ที่มา
http://peemza.siam2web.com/?cid=853433&f_action=forum_viewtopic&forum_id=38925&topic_id=57830