ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าประทับใจ..พระเศวตสุรคชาธารฯ ช้างเผือกคู่พระบารมี  (อ่าน 1032 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



เรื่องเล่าประทับใจ..พระเศวตสุรคชาธารฯ ช้างเผือกคู่พระบารมี

โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

พระเศวตสุรคชาธารฯ หรือคุณพระเศวตเล็ก ถูกพบโดยนายเจ๊ะเฮง หะระตี กำนันตำบลการอ จว.ยะลา โดยโขลงช้างเดินทางเข้ามาใกล้หมู่บ้านในเวลากลางคืน พอตอนเช้าก็พบเห็นลูกช้างพลัดฝูงอยู่ใต้ถุนบ้าน

สันนิษฐานว่า แม่ช้างจะรู้ว่าลูกช้างตัวนี้เป็นช้างสำคัญ และนำมาส่งที่หมู่บ้าน เพื่อเข้ามาสู่พระบารมี ตั้งแต่ยังไม่หย่านม

พระเศวตสุรคชาธาร เคยเป็นพระสหายในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อยังทรงพระเยาว์ และได้ตามเสด็จราชดำเนินแปรพระราชฐานไปยังวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่เสมอ



(พระเศวตสุรคชาธารฯ)

แต่วันนี้ขอนำเรื่องของ “คุณพระเศวตฯ เล็ก กับ นางเบี้ยว หมาของคุณพระ” ซึ่งเป็นเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งของท่าน คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดี ความกตัญญูรู้คุณ

เมื่อคุณพระเศวตฯ ยังเป็นลูกช้างเล็กๆ อยู่ที่บ้านกำนันในจังหวัดยะลาและยังไม่ได้ถวายตัวขึ้นระวางนั้น ปรากฏว่า นางเบี้ยว(สุนัข) เป็นโรคอย่างหนักขนาดชักกระตุกไปทั้งตัว แทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว

แต่ก็สู้อุตส่าห์กระเสือกกระสนคลานมาถึงที่คุณพระเศวตฯ อยู่ และเลียกินน้ำอาบของคุณพระเศวตฯเข้าไป อาการป่วยทั้งปวงก็หายเป็นปกติ เดินเหินได้ตามเดิม รอดชีวิตมาได้ เว้นแต่ปากที่ยังเบี้ยวอยู่

นางเบี้ยวก็กตัญญูรู้คุณติดตามคุณพระเศวตฯ เรื่อยมาไม่ยอมห่าง คุณพระก็เมตตาเอ็นดูนางเบี้ยว ถือว่านางเบี้ยวเป็นหมาของคุณพระ



(ภาพประกอบเรื่อง อาจจะไม่ใช่ “พระเศวตฯ เล็ก”)

เมื่อถึงคราวที่คุณพระเศวตฯ จะต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เพราะเป็นช้างต้นขึ้นระวางแล้ว ทั้งคุณพระเศวตฯ และนางเบี้ยวก็ทุรนทุรายเดือดร้อนมาก นางเบี้ยวร้องทั้งกลางวันและกลางคืน จะตามคุณพระมาด้วย

เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงมีพระราชกระแสว่า “ช้างทั้งตัวยังเอาไปได้ ทำไมหมาอีกตัวเดียวจะเอาไปไม่ได้ ให้เอาหมาไปด้วยเถิด สงสารมัน อย่าไปพรากมันเลย”



(ขอขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ๊ค ThaipsyopBN)

นางเบี้ยวติดตามเข้ามาอยู่กับคุณพระเศวตฯ เล็กในสวนจิตรลดาด้วย และเป็นที่รักชอบของคนในวัง เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วในวังก็เลื่อนฐานะขึ้นเป็นแม่เบี้ยว บางคนเรียกคุณเบี้ยวด้วยซ้ำไป และได้ออกลูกออกหลานไว้ที่โรงช้างนั้นเป็นจำนวนมากมาย ……. แม่เบี้ยวตายไปหลายปีแล้ว แต่คุณพระเศวตฯ ก็ยังเลี้ยงลูกหลานแม่เบี้ยวสืบมา

เวลาคุณพระเศวตฯ ออกเดินในสวนจิตรลดา หมาคุณพระทั้งปวงก็วิ่งตามเป็นฝูงและเชื่อฟังคุณพระทุกอย่าง

เมื่อครั้งพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งกรุงอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินที่พระตำหนักจิตรลดา คุณพระเศวตฯ ก็มายืนคอยรับเสด็จ หมาทั้งปวงของคุณพระก็มาวิ่งเล่นกันอยู่เต็มสนาม




ผมบังเอิญไปเห็นเข้า ก็เข้าไปกระซิบคุณพระ ว่า หมากระจัดกระจายเต็มทีแล้ว คุณพระได้ยินดังนั้น ก็ร้องเหมือนเสียงแตร หมาทั้งปวงก็วิ่งกลับมารวมกันอยู่บริเวณต้นไม้ใกล้ๆ คุณพระไม่ซุกซนต่อไป

มีอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งคุณพระออกจะรักมาก วิ่งเข้ามาอยู่ใต้ท้องคุณพระ อาศัยคุณพระเป็นเงาบังร่ม ควาญเล่าว่า เวลากลางคืน หมาหลายสิบตัวเหล่านี้จะนอนแวดล้อมคุณพระ ใครเดินเข้าไปในเวลากลางคืนก็จะเห่าขึ้นพร้อมกัน และถ้าใครขืนเดินตรงไปถึงตัวคุณพระก็คงโดนหมารุมกัดตาย

คุณพระเศวตฯ เล็ก มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างน่าอัศจรรย์ แลเห็นพระองค์ต้องยกงวงขึ้นจบถวายบังคมทุกครั้ง โดยไม่ต้องมีใครบอก และถ้าเสด็จพระราชดำเนินลงไปเยี่ยมที่โรงช้าง คุณพระก็จะเฝ้าฯไปและถวายบังคมไปเป็นระยะไม่มีขาด

จนพระกรุณาตรัสว่า ไม่ต้องถวายบังคมบ่อยถึงเพียงนั้น คุณพระจึงจะหยุดถวายบังคม

เรื่องโดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ประพันธ์ “ช้างในชีวิตของผม”

 ………………………….

ที่มา news.sanook , chanelnews.sayhibeauty



(พระเศวตสุรคชาธารฯ กับแม่เบี้ยว)

จาก http://www.chaoprayanews.com/2016/10/20/ เรื่องเล่าประทับใจ-พระเ/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...