ผู้เขียน หัวข้อ: ลอยกระทงดำ จุดเทียนใต้แสง “ซูเปอร์ฟูลมูน” แสดงความอาลัย “ราชาแห่งสายน้ำ”  (อ่าน 961 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



ลอยกระทงดำ จุดเทียนใต้แสง “ซูเปอร์ฟูลมูน” แสดงความอาลัย “ราชาแห่งสายน้ำ”

      เทศกาลงานลอยกระทงเพื่อบูชาแม่น้ำขอขมาแม่พระคงคาที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี โดยในปี 2559 นี้ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน แม้จะมีการจัดงานอย่างปกติ แต่ทุกที่ล้วนงดจัดงานรื่นเริงทั้งการแสดง การจุดพลุไฟ การแสดงคอนเสิร์ต เพราะปวงชนชาวไทยทุกคนยังโศกเศร้าเสียใจเต็มไปด้ววยคราบน้ำตาต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ปีนี้หลายคนจึงทำ “กระทงดำ” เป็นสัญลักษณ์ไว้ทุกข์เพื่อแสดงความอาลัยต่อพ่อหลวง “ราชาแห่งสายน้ำ”
       
       ทว่า วันลอยกระทงปี 2559 นี้ ยังตรงกับ “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้มีพระราชดำริโครงการฝนหลวง เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 นับตั้งแต่นั้น พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายในการคิดค้น วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการทำฝนหลวงจนประสบความสำเร็จ และช่วยให้ประเทศชาติรอดพ้นวิกฤตภัยแล้งมาได้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อแสดงความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ โดยกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง
       
       ทรงลอยพระประทีป...ภาพแห่งความทรงจำ
       
       แม้ในปีนี้จะไม่มีภาพพระประทีปของพ่อหลวงแล้ว แต่ทางผู้จัดการ Live จะขอย้อนภาพแห่งความทรงจำซาบซึ้งในพระบารมีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งที่พระองค์ท่าน เสด็จฯ ลอยพระประทีป ในห้วงเวลาช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา ปีที่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นภาพตราตรึงใจชาวไทยตราบนานเท่านาน



     2 พ.ย.2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เสด็จฯ ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช มายังท่าน้ำภายในโรงพยาบาล เพื่อทรงลอยพระประทีป เป็นการส่วนพระองค์ และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ โดยมีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในการนี้ด้วย



      21 พ.ย. 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนิน ลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังท่าน้ำศิริราช เพื่อทรงลอยพระประทีปเนื่องวันลอยกระทงตามราชประเพณีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงฉลองพระองค์สูทสีชมพูเข้มทับฉลองพระองค์เชิ้ตชมพูอ่อนสนับเพลาสีดำ
       
       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงลอยพระประทีป 2 องค์ ซึ่งประดิษฐ์จากกาบพลับพลึงเป็นรูปดอกบัว ตกแต่งด้วยดอกไม้สด เช่น ดอกบานไม่รู้โรย ดอกรัก ดอกเดซี่สีม่วง และดอกมัมสีเหลือง เครื่องทองน้อยด้านบนตกแต่งด้วยพุ่มที่ทำจากดอกบานไม่รู้โรยสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระชนมวาร ถ้วยของพุ่มทำจากเทียนปั้นและเกลาเป็นรูปทรงถ้วย แล้วเขียนสีตามโบราณราชประเพณี และพระประทีปขนมปังรูปดอกบัวสีเหลือง พื้นกระทงใช้ขนมปังประดับเป็นรูปดอกกุหลาบตกแต่ง พุ่มของเครื่องทองน้อยประดิษฐ์จากขนมปัง ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้พระประทีปสามารถย่อยสลายเป็นอาหารแก่สัตว์น้ำได้ต่อไป
       
       จากนั้นได้ทอดพระเนตรขบวนเรือประดับไฟที่ล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มตั้งแต่สะพานกรุงเทพ จนถึงสะพานกรุงธน ที่นำมาจัดแสดงในเทศกาลลอยกระทง เมื่อเรือแต่ละลำผ่านหน้าพระที่นั่ง ในหลวง ร.๙ จะทรงยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาทรงฉายภาพไว้ตลอดเวลา และระหว่างเสด็จฯ กลับ ทรงแย้มพระสรวล และทรงโบกพระหัตถ์ซ้ายให้แก่พสกนิกร ในขณะที่พระหัตถ์ขวาก็ทรงกดชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพ ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องทรงพระเจริญตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน



      28 พ.ย.2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดเครื่องทองน้อยที่ประทีปขนมปัง เพื่อทรงลอยพระประทีป เนื่องในวันลอยกระทง ที่ ลานพลับพลาประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์



      7 พ.ย. 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ ลง ณ ท่าลัดดา วังไกลกังวล อ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ ทรงประกอบพิธีลอยพระประทีปส่วนพระองค์ ซึ่งทำด้วยขนมปังสีเหลือง และพระประทีป สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทำด้วยขนมปังสีฟ้า เนื่องในโอกาสเทศกาลวันลอยกระทง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ฉลองพระองค์เสื้อเชิ้ตสีขาว และพระสนับเพลาสีดำ ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ที่ทรงสามารถบังคับเองได้ ซึ่งพสกนิกรต่างปลื้มปีติและดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็น พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง และพระพักต์แจ่มใส



      25 พ.ย.2558 ปีสุดท้ายที่เราชาวไทยได้เห็นพระประทีปของพระองค์ล่องลอยในแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตคนไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพระประทีปลงลอย ณ กลาง แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำศิริราช เนื่องในวันลอยกระทง
       
      แห่ทำ “กระทงดำ” ไว้ทุกข์ “พ่อ”
       
       กลุ่มชาวบ้านลานดอกไม้ตก อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ที่ได้รับการยอมรับมีชื่อเสียงมากในเรื่องงานเทศกาลลอยกระทงจากกระทงเปลือกข้าวโพด ทุกปีจะผลิตขายกันแทบไม่ทัน เพราะมีรูปแบบที่งดงาม แปลกตา หลากหลายสี



       แต่ปีนี้ยอดสั่งกระทงลดลงกว่า 20% เนื่องจากประชาชนยังอาลัยเศร้าโศกต่อพ่อหลวง ทว่า ชาวบ้านลานดอกไม้ก็ปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ จึงจัดทำ “กระทงไว้ทุกข์สีดำ” แสดงความอาลัยต่อในหลวง ร.๙





      นอกจากนี้ ยังมีอีกประชาชนได้ทำกระทงสีขาวติดริบบิ้นดำ เพื่อแสดงความอาลัยต่อพ่อหลวงเช่น นายวัชรานันท์ สุขถาวร จาก จ.สุราษฎร์ธานี ได้จัดทำกระทงสีขาวโดยทำจากกรวยไอศครีม และติดริบบิ้นสีดำ เตรียมออกจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ออเดอร์ทางเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก เพื่อนำมาลอยในงานลอยกระทงปีนี้ สำหรับสาเหตุที่เขาเลือกใช้กรวยไอศครีมเพราะย่อยสลายได้ง่ายไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม



      เช่นเดียวกับ นักเรียนของโรงเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากสหรัฐอเมริกา และเยอรมัน จำนวน 3 คน ได้ร่วมกันออกแบบสร้างสรรค์ กระทงขาว-ดำ แสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ด้วยเช่นกัน
       
       ส่วน จ.ตาก ได้มีการจัดงานลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ที่บริเวณริมสายธารลานกระทงสาย สืบสานประเพณีวัฒธรรมให้คงอยู่สืบไป แต่จะงดการแข่งขันลอยกระทงสาย งดงานรื่นเริงร้องรำทำเพลงทั้งหมด งดจุดพลุ การแสดง แสง สี เสียง แต่จัดให้มีการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง และพิธีกรรมทางศาสนา หรือการขอขมาต่อแม่คงคา และเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลเดช
       
       รอชม! “ซูเปอร์ฟูลมูน” เต็มตาดวงจันทร์ใกล้โลกในรอบ 68 ปี



       อย่างไรก็ตาม ในคืนวันลอยกระทงปีนี้ (2559) ยังมีปรากฏการณ์สำคัญที่ชาวโลกต่างตั้งตารอชมดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก
       
       สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า วันที่ 14 พ.ย. 2559 ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบ 68 ปี ที่ตรงวันลอยกระทงพอดี จัดสังเกตการณ์ 3 จุดหลัก เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา พร้อมเครือข่ายดาราศาสตร์กว่า 160 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. โดยจะตั้งกล้องโทรทรรศน์ส่องจันทร์โตเต็มดวงคืนวันลอยกระทงให้ชมแบบเต็มตา



      ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในคืนวันนี้ (14 พ.ย. 2559) ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปีนี้ ที่ระยะห่างประมาณ 356,511 กิโลเมตร และยังเป็นการโคจรเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบ 68 ปี นับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2491 ที่ระยะห่างประมาณ 356,462 กิโลเมตร เราจะสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าขณะอยู่ไกลโลกมากที่สุดประมาณ 14% และมีความสว่างมากกว่าประมาณ 30% หรือเรียกว่า “ซูปเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon)



      ชาวไทยจะสามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ตก ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ วันที่ 14 พ.ย.ยังตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นวันลอยกระทงของไทยอีกด้วย ผู้สนใจสามารถเฝ้ารอชมและเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบ 68 ปี ในคืนวันลอยกระทงกันได้ทั่วประเทศ
       
       ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วดวงจันทร์มีลักษณะวงโคจรรอบโลกเป็นรูปวงรี โดย 1 รอบใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นในแต่ละเดือนจะมีตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดเรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ย 356,400 กิโลเมตร และตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุดเรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร การที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงที่โตกว่าปกติเล็กน้อยในคืนที่ดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้โลก นับเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ และแม้ว่าดวงจันทร์จะมีตำแหน่งโคจรเข้าใกล้โลกทุกเดือน แต่ดวงจันทร์ไม่ได้ปรากฏเต็มดวงทุกครั้ง ดวงจันทร์เต็มดวงจะอยู่ตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดประมาณทุกๆ 13 เดือน สำหรับปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุด และหากใครพลาดโอกาสในครั้งนี้ ก็ต้องรออีก 2 ปี จึงเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุดในรอบปีอีกครั้ง โดยตรงกับวันที่ 2 มกราคม 2561 ที่ระยะห่างประมาณ 356,565 กิโลเมตร



      อนึ่ง ในเวลา 19.09 น. ได้ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยจุดเทียนแสดงความอาลัยใต้แสงจันทร์ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้





จาก http://astv.mobi/A1beXO6
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...