ผู้เขียน หัวข้อ: ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ปรารถนาพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อความเป็นพุทธะ จาก หลวงตามหาบัว  (อ่าน 1014 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
<a href="https://www.youtube.com/v/Xsf1FVxXJo8" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/Xsf1FVxXJo8</a>


"ในหลวงทรงถาม...หลวงตามหาบัวตอบ" ... เปิดบันทึกบทสนทนาธรรมครั้งประวัติศาสตร์ ณ วัดป่าบ้านตาด!!!

หลวงตามหาบัวกล่าวย้ำถึงความปรารถนาของ พระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่๙ ถึงการเข้าถึงพุทธภูมิเป็นพุทธะ

พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรมระหว่าง "ในหลวง" กับ "หลวงตามหาบัว"

เมื่อวันที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี เพื่อนิมนต์เชิญหลวงตามหาบัวไปงานพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง

ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปุจฉาวิสัชนาธรรมกับหลวงตามหาบัว ซึ่งพระอาจารย์ภูสิต ขันติธโร (พระอุปัฏฐากของหลวงตามหาบัว) เป็นผู้บันทึกจากความทรงจำ ดังนี้





ในหลวง :  หลวงปู่ครับ "สาวกภูมิ" กับ "พุทธภูมิ" ต่างกันอย่างไร?

หลวงตามหาบัว :  พุทธภูมิก็เหมือนดั่งเรานั่งรถไฟ นั่งรถไฟไปเชียงใหม่ หรือนั่งรถไฟไปอุดรฯ นั่นแหละ...พุทธภูมิ  แต่ถ้าเรานั่งจักรยานมา หรือนั่งมอเตอร์ไซค์ ขี่มอเตอร์ไซค์ไป นั่นแหละ...สาวกภูมิ  เพราะฉะนั้น  การเป็นพุทธภูมิก็คือการนำคนไปได้เยอะๆ  ส่วนสาวกภูมินั้นนำไปได้น้อยๆ ไม่ได้มากนัก อย่างเก่งก็ ๑ คน หรือ ๓-๔ คน ก็ว่ากันไป นั่นคือสาวกภูมิ  เข้าใจไหมล่ะ...พ่อหลวง

ในหลวง : เข้าใจแล้วหลวงปู่...  แล้ว "นิพพาน" เป็นอย่างไรนะ...หลวงปู่?

หลวงตามหาบัว :  อ้อ...พ่อหลวง  เหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ  รู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน  อยู่บนกุฏินี่เหรอ  วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะ  แต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ  แต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งหมด  แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด  นี่แหละ...พระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน



ในหลวง :  ขอบารมีหลวงปู่ช่วยต่ออายุให้แม่หลวง (*ในช่วงเวลานั้นสมเด็จย่าทรงประชวรอยู่*)

หลวงตามหาบัว :  พ่อหลวงนั่นแหละก็จัดการเองได้ ขอเองได้ จัดการเอง ... อาตมาต่อให้ไม่ได้หรอก

ในหลวง :  เอาล่ะ... ได้เวลาแล้ว จะกลับแล้ว  หลวงปู่มีอะไรจะบอกไหม?

หลวงตามหาบัว : การเป็นพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อความเป็นพุทธะ พอจบพุทธภูมิได้ก็เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว  พระพุทธเจ้าก็มีพุทธกิจ ๕ คือ  ตอนเช้าบิณฑบาต  ตอนบ่ายสอนคหบดีมนุษย์ทั่วไป  ตกเย็นสอนนักบวช สมณชีพราหมณ์  ตอนกลางคืนแก้ปัญหาเทวดา  พอมาตอนเช้ามืดเล็งญาณดูสัตว์โลก สัตว์โลกตัวไหนมีกิเลสเบาบางพอที่จะบรรลุธรรมได้ ท่านก็จะเล็งญาณดู รีบไปโปรดก่อน  พระพุทธเจ้าสร้างบารมีพุทธภูมิจนได้เป็นพระพุทธเจ้า  เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็มีพระพุทธกิจ ๕ อย่างนี้  แต่...ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของประเทศไทยปรารถนาอะไร ทำงานกันจนไม่มีเวลาจะพักผ่อน ... เอาล่ะๆ อาตมาจะให้พร



ที่มา : บันทึกบทพระราชปุจฉาเนื่องในพระราชวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน ณ วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ (นิตยสาร "น่านฟ้า" ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)

จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=1002549

http://panyayan.tnews.co.th/contents/213199/





" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...