หันมาดูจิตหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
"คําสอนทั้ง ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั่น เป็นเพียงอุบาย
ให้คนทั้งหลายหันมาดูจิตนั่นเอง
คําสอนของพระพุทธองค์มีมากมายก็เพราะกิเลสมีมากมาย แต่ทางที่ดับทุกข์ได้
มีทางเดียว พระนิพพาน
การที่เรามีโอกาสปฏิบัติธรรมที่ถูกทางเช่นนี้มีน้อยนัก หากปล่อยโอกาสให้ผ่านไป
เราจักหมดโอกาสพ้นทุกข์ได้ทันในชาตินี้ แล้วเราจะหลงอยู่ในความเห็นผิด
อีกนานแสนนาน เพื่อที่จะพบธรรมอันเดียวกันนี้
ดังนั้น เมื่อเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ว รีบปฏิบัติให้พ้นทุกข์เสีย
มิฉนั้นจะเสียโอกาสอันดีนี้ไป เพราะว่าเมื่อสัจจธรรมถูกลืม ความมืดมนย่อมครอบงํา
ปวงสัตว์ให้อยู่ในกองทุกข์สิ้นกาลนาน"

"ดีเหมือนกัน เมื่อไม่พูดก็ไม่มีโทษทางวาจา แต่ที่ว่าหยุดพูดได้นั้น
เป็นไปไม่ได้หรอก นอกจากพระอริยบุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติขั้นละเอียด
ดับสัญญาเวทนาเท่านั้นแหละที่ไม่พูดได้
นอกนั้นพูดทั้งวันทั้งคืน ยิ่งพวกที่ตั้งปฏิญาณว่าไม่พูดนั่นแหละ
ยิ่งพูดมากกว่าคนอื่น เพียงแต่ไม่ออกเสียงให้คนอื่นได้ยินเท่านั้นเอง"

"หลวงปู่ครับ ทำอย่างไรจึงจะตัดความโกรธให้ขาดได้"
"ไม่มีใครตัดให้ขาดได้หรอก มีแต่รู้ทัน เมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"

การศึกษาธรรมด้วยการอ่านการฟัง สิ่งที่ได้ก็คือ สัญญา (ความจำได้)
การศึกษาธรรมด้วยการลงมือปฏิบัติ สิ่งที่เป็นผลของการปฏิบัติคือ ภูมิธรรม
การปฏิบัติ ให้มุ่งปฏิบัติเพื่อสำรวม เพื่อความละ
เพื่อความคลายกำหนัดยินดี เพื่อความดับทุกข์ ไม่ใช่เพื่อเห็นสวรรค์วิมาน
หรือแม้พระนิพพานก็ไม่ต้องตั้งเป้าหมายเพื่อจะเห็นทั้งนั้น
ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ไม่ต้องอยากเห็นอะไร เพราะนิพพานมันเป็นของว่าง ไม่มีตัวตน
หาที่ตั้งไม่มี หาที่เปรียบไม่ได้ ปฏิบัติไปจึงจะรู้เอง

" สัมมาสัมโพธิ เป็นชื่อของการเห็นแจ้งชัดว่า ไม่มีธรรมใดเลยที่ไม่เป็นโมฆะ
ถ้าเราเข้าใจความจริงข้อนี้แล้ว ของหลอกลวงทั้งหลายจะมีประโยชน์อะไรแก่เรา "

"สิ่งอันประเสริฐที่มีอยู่เฉพาะหน้าแล้วไม่สนใจ กลับไปหวังไกล
ถึงสิ่งที่เป็นแต่เพียงการกล่าวถึง เป็นลักษณะของคนไม่เอาไหนเลย
ก็ในเมื่อมรรคผลนิพพานในศาสนาสมณโคดมในปัจจุบันนี้
ยังมีอยู่อย่างสมบูรณ์ กลับเหลวไหลไม่สนใจ
เมื่อถึงศาสนาพระศรีอาริย์ ก็ยิ่งเหลวไหลมากกว่านี้อีก"
-http://www.facebook.com/pages/ศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล/391431100876015?fref=ts
จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิต เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธหยุดเพื่อรู้
คิดเท่าไร ก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดได้... จึงรู้
แต่ต้อง อาศัยความคิด นั้นแหละ... จึงรู้
" รู้ " (อัญญา) เป็นปรกติจิตที่ "ว่าง สว่าง บริสุทธิ์
หยุดการปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา
หยุดกริยาของจิต ไม่มีอะไรเลย ไม่ยึดถืออะไรสักอย่าง."หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
หลวงปู่ฝากไว้- http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2022.0.html