ผู้เขียน หัวข้อ: ลักษณะแห่งพระโพธิสัตว์! "คุณแม่จันดี" น้องสาวหลวงตาบัว พบ "พัดลมน้อย"ในจิต  (อ่าน 1621 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


ลักษณะแห่งพระโพธิสัตว์! "คุณแม่จันดี" น้องสาวหลวงตาบัว พบ "พัดลมน้อย"ในจิต คาดเป็น "สวัสดิกะ" สัญลักษณ์แห่งผู้มุ่งสู่สัมมาสัมโพธิญาณ..สาธุ

   สวัสดิกะเป็นเครื่องหมายมงคลและศักดิ์สิทธิ์ เปรียบได้กับการประกาศความเป็นพระโพธิสัตว์ผู้มุ่งสู่สัมมาสัมโพธิญาณอย่างเที่ยงแท้ไม่แปรผัน ตัวอย่างเช่น บนพระอุราของพระเจ้าอมิตตาพุทธ

             รูปสวัสดิกะหรือจักรที่จะมีอยู่บนสรีระร่างกายของบุคคลผู้ใดได้นั้น เป็นเครื่องแสดงให้เห็นครับว่าผู้นั้นได้อบรมบุญวาสนาในทางพระโพธิญาณมาหลายภพชาติ จนเกิดเครื่องหมายของมหาบุรุษบางประการขึ้นเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้นี้จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน

           ในคติความเชื่อของพม่า - มอญ เรื่องเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีอย่าง ตำนานเจ้าสัจจะยามินก็จะปรากฏสัญลักษณ์สวัสดิกะอยู่บนฝ่ามือ เรื่องนี้สืบตำนานมาว่า พระโพธิสัตว์ลงมาเกิดสร้างบารมีเมื่อเกิดมาก็มีรอยสวัสดิกะปรากฏในฝ่ามือ ทั้งเทวดาก็ลงมาเอาโอสถทิพย์วางไว้ในฝ่ามือของพระโพธิสัตว์อีกด้วย



 เป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว ที่คุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้เป็นน้องสาวแท้ๆของหลวงตามหาบัว เล่าให้ฟังว่ารู้สึกเหมือนมีกังหันเล็กๆ อยู่ที่หน้าอก และกังหันนี้คอยชี้ทางสว่างให้แก่คุณแม่เสมอ ... (อ้างจากหนังสือ : ขอกราบเทิดทูน)



คุณแม่จันดีเล่าว่า..ตอนเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นประถม จะมีความรู้แปลกๆ อยู่กลางอก ก่อนจะบ่งบอกอะไร ตรงกลางอกจะมีเหมือนพัดลมน้อย (หมุนติ้ว ๆ) แล้วส่งความรู้ออกมา เช่นมีอยู่ครั้งหนึ่ง สมัยนั้นเดือนมกราคม ครูจะพาอ่าน “มก-กะ-รา-คม” ขณะครูกำลังอ่าน พัดลมน้อยก็หมุนขึ้นในจิต แล้วมีเสียงดังขึ้นบอกว่า “จะอ่านให้ถูกต้อง ! ต้องอ่านว่า มะ-กะ-รา-คม” เป็นอะไรที่แปลกสำหรับเด็ก เคยคิดว่าคนอื่นคงเป็นเหมือนกัน จึงค่อยเรียบเคียงถามมารดาว่า “เป็นเหมือนกันไหม” มารดาตอบ “ไม่เคยเป็น” แล้วถามต่อว่า “เป็นหมุนอยู่ตรงไหน” จึงชี้ที่กลางอก



           วันหนึ่งแม่ค้าหาบตะกร้าเครื่องประดับมีกำไล สีสันสดใส มาขาย พวกพี่สาวรวมทั้งท่านอยากได้ร้องขอให้มารดาช่วยซื้อให้ ในหาบมีเครื่องประดับของเด็ก ผู้ใหญ่ อยู่เต็ม เสียงลูกหญิงร้องอ้อนวอน มารดาตกลงให้ซื้อได้คนละ ๑ ชิ้น พวกพี่ๆ หยิบไปหมดทุกคน ถึงคิวท่านเดินไปจะหยิบ พัดลมน้อยกลางอกหมุนติ้วๆ อีก บอกขึ้นว่า “ของประดับโลก ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์” พอเสียงดังจบลง ท่านเดินหนีทันที เสียงมารดาร้องตาม “อ้าว… มึงอยากได้ทำไม ไม่เอา”

 

           ท่านบอก ถ้ามีอะไรบ่งบอกขึ้นในจิตท่านเคยคิดจะฝืน แต่ฝืนไม่ได้ มีอำนาจมาก(สะเทือนในจิต) ฝืนไม่ได้สักครั้งเดียว เป็นเด็กตั้งใจเรียน ช่างจำ เรียนเก่ง จนครูให้ช่วยสอนเพื่อน ๆ ในห้องเป็นบางครั้ง หลายครั้ง ในห้องเรียนท่านขออนุญาตครูกลับบ้านก่อนเวลา ครูถาม “เธอมีธุระอะไรที่บ้าน” ตอบครูว่า “ดิฉันเข้าใจ-จำได้หมดแล้วไม่อยากเรียนบทเรียนเก่าอีก ครูเข้าใจ และอธิบายให้ฟัง “ไม่ได้เธอจะกลับบ้านตอนนี้ไม่ได้ ถึงเธอเข้าใจ แต่เพื่อนๆ ยังไม่เข้าใจ เธอต้องเห็นใจเขา เอายังงี้ครูจะให้เธอช่วยสอนเพื่อน ๆ เพราะครูสมัยนั้นน้อย ครู ๑ คนต้องสอนหลายๆ ชั้น หลายๆ วิชาในแต่ละวัน พอจบชั้นประถม ๔ ครูมาขอให้เรียนต่อ จะส่งเรียน พ่อ-แม่-พี่ชาย ดีใจสนับสนุนให้เรียน ท่านตอบปฏิเสธทุกๆ คนว่าไม่เรียน เพราะกลางอกหมุนและบอก “เรียนไปก็ไม่จบ เรื่องของโลก! เรียนเท่าไหร่ไม่มีวันจบ” ท่านจะฝืนได้ยังไง เป็นอะไรที่ฝืนไม่ได้จริงๆ (ท่านบอกฝืนไม่ได้)

              รูปสวัสดิกะหรือจักรที่จะมีอยู่บนสรีระร่างกายของบุคคลผู้ใดได้นั้น เป็นเครื่องแสดงให้เห็นครับว่าผู้นั้นได้อบรมบุญวาสนาในทางพระโพธิญาณมาหลายภพชาติ จนเกิดเครื่องหมายของมหาบุรุษบางประการขึ้นเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้นี้จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน

             รูปสวัสดิกะนี้จึงมีความหมายมีพลังแฝงเร้นอย่างยิ่งผู้ที่ศึกษาและเข้าใจจึงยกเอาเครื่องหมายนี้เป็นเครื่องมงคลชั้นสูงที่สามารถนำพาชัยชนะ ความสำเร็จ สมบูรณ์มาสู่ผู้บูชาได้

จาก http://www.tnews.co.th/contents/302354
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...