กว่าประเทศไทยจะมีความสวยงามอย่างในวันนี้ ต้องเผชิญปัญหามากมายตั้งแต่สมัยอดีต แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งเคยเป็นสมรภูมิของทหารกล้า ที่ช่วยปกป้องแผ่นดินจากผู้รุกราน แต่คนรุ่นหลังอาจไม่เคยรู้ถึงวีรกรรมของผู้กล้าเหล่านั้น เพราะไม่ได้มีโอกาสได้ศึกษาและค้นคว้าหาข้อมูล
วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์พาผู้อ่านไปรู้จัก อนุสรณ์สถานแห่งชาติ สถานที่เชิดชูเกียรติ์วีรชนผู้เสียสละเพื่อชาติและบอกเล่าเรื่องราวความกล้าสมัยสงครามในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ เพราะเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องเดินทางผ่านสถานที่แห่งนี้ทุกวัน แต่คงมีน้อยคนที่เคยแวะเวียนเข้ามาชมความงามของพิพิธภัณฑ์ด้านใน
ก้าวแรกที่เข้ามาทุกคนจะเห็นลานกว้างด้านหน้าอาคารประกอบพิธี เรียกว่า ลานประกอบพิธี ประดับด้วยธงกองบัญชาการกองทัพไทย และธงของกองทหารต่างๆ
ถัดเข้ามาใน อาคารประกอบพิธี จะรวมไว้ซึ่งสิ่งน่าสนใจทั้ง ดวงโคมนิรันดร์ประภา ประติมากรรมรัตนชาติที่ทำด้วยแก้วผลึกที่มีในประเทศไทย ใกล้กันยังมีภาชนะที่บรรจุดินสมรภูมิ 10 แห่งบอกเล่าเรื่องราวความกล้าของเหล่าวีรบุรุษ
การเดินชมความงามมาเรื่อยๆ ทุกคนคงต้องสะดุดตากับ พระบรมรูปมหาราช 9 พระองค์ หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์รมดำ อีกทั้งยังมีภาพเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ภาพมงคลแปด บทโคลงพระราชนิพนธ์ และภาพการก่อตั้งราชธานี
ออกจากอาคารประกอบพิธีเข้ามาด้านในก็จะพบ อาคารประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร ที่ภายในรวบรวมเรื่องราวและวีรกรรมในสงครามแต่ละสมัย แบ่งส่วนการแสดงเป็น 4 ชั้น ด้านหน้าประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 แกะสลักด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี
ชั้นที่ 1 เป็นโซนจัดแสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สงครามที่กองทัพไทยได้ปฎิบัติการรบ 5 เหตุการณ์ ทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส สงครามมหาเอเชียบรูพา สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม
เดินขึ้นมายังชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติจอมทัพไทย จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร ด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา และพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ทหาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และที่เป็นไฮไลท์ต้องยกให้ ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารทั้งสามเหล่าทัพ เครื่องแบบฝึก และสิ่งของส่วนพระองค์หลายอย่างที่จัดมาแสดงโชว์
ถัดขึ้นมาที่ชั้น 3 จะพบกับห้องจัดแสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย 14 เหตุการณ์ เช่น วีรกรรมสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วีรกรรมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฯลฯ เมื่อกดปุ่มด้านหน้าของแต่ละตู้ ก็จะมีเสียงบรรยาย บอกเล่าความเป็นมาของเหตุการณ์นั้น
ชั้นที่ 4 จัดแสดงวิวัฒนาการเครื่องแบบ เครื่องหมายยศ ของทหารในแต่ละสมัยตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนสุดท้าย อาคารปริทัศน์ น่าจะเป็นจุดที่ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนต้องทึ่ง เพราะภายในอาคารทรงแปดเหลี่ยมนี้ จะมีจิตกรรมฝาผนังแสนสวยงามรอบอาคารที่ถูกสรรค์สร้างโดยฝีมือจิตกรมือฉมัง แสดงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ การก่อตั้งบ้านเมือง การเสียกรุงศรีอยุธยา สงครามเก้าทัพ การก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นต้น
ใครที่สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และอยากเป็นหนึ่งคนที่ร่วมเชิดชูเกียรติเหล่าวีรชนผู้เสียสละเพื่อบ้านเมือง ลองเดินเข้ามาชมและร่วมรำลึกถึงวีรกรรมเหล่านั้นได้ เพราะความรู้ที่จะได้รับกลับไปจากอนุสรณ์สถานแห่งนี้ มีมากกว่าที่จะค้นหาเจอในหนังสือหรือแม้แต่ในโลกออนไลน์เสียอีก…
อนุสรณ์สถานเปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น.ไม่เสียค่าบริการเข้าชม สอบถามรายละเอียดโทร 0 2532 1021.
ที่มา
http://www.dailynews.co.th