อัศจรรย์วินาทีบรรลุธรรม! พระอริยะ ร่างหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นแสงรุ้ง แสดงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ หลังจากการฝึกจิตขั้นสูง!!
ซกเช็นเป็นคำสอนชั้นสูงในพระพุทธศาสนาวัชรยาน เน้นการทำความเข้าใจสภาวธรรมเพื่อการเข้าถึงริกปะ หรือการตระหนักรู้อย่างสมบูรณ์
ในวัชระญาณนั้น จะฝึก “ซกเช็น” กัน คือ ฝึกกายใสรัศมีสีรุ้งเจ็ดสี อันเป็นกายทิพย์และฉัพพรรณรังสีของ เป็นการฝึกสะสมพลังปราณไว้มากในร่างกาย ปกติจะเป็นพลังสายร้อน เพื่อ "ระเบิดพลัง" หรือที่มหายานเรียกว่า การใช้กิเลสเป็นเครื่องเผาผลาญให้เป็นปัญญา นั่นเอง
โดยทางเพจคลังพุทธศาสนาได้นำเสนอเรื่องราว ปรากฏการณ์ร่างสังขารของท่านลามะทุบเชอร์ แห่งนิกายญิงมะ ณ วัดการ์ตก มณฑลเสฉวน ประเทศจีน กลายเป็น "ร่างรุ้ง" อันเป็นภาวะที่ร่างกายของผู้ปฏิบัติซกเชนจะหดเล็กลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหายไปกลายเป็นแสงรุ้ง ในภาวะดังกล่าวมักมีเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น เช่นกรณีนี้มีหิมะตกเป็นเกล็ดรูปร่างสวยงามโปรยปรายใน บริเวณกุฏิของท่าน และยังมีแสงเรืองรองในจุดเฉพาะอีกด้วย
จะเห็นว่าสังขารของท่านหดเล็กลงเรื่อยๆ
และสุดท้ายสังขารของท่านได้กระจายเป็นแสงรุ้ง
มีหิมะตกเป็นเกล็ดรูปร่างสวยงามโปรยปรายในบริเวรกุฎิของท่าน
การฝึกแบบชกเซนเรียกอีกอย่างว่าอธิโยคะ(ในภาษาสันสฤต)การปฏิบัติอธิโยคะในหมู่ผู้มีปัญญาอันเลอเลิศและได้ปฏิบัติด้วยความวิริยะอุตสาหะ สามารถเข้าถึงพุทธภาวะในเวลาอย่างช้าสามปี ในหมู่ผู้มีปัญญาสูงสามารถบรรลุผลในเวลาหกปี ในหมู่ผู้มีปัญญาระดับทั่วไปก็สามารถบรรลุผลได้ในเวลาสิบสองปี
โดยฝึกแล้วได้บารมี ไปไหนมาไหนผู้คนยอมรับ, ชมชอบ, เปิดรับ, ยอมให้เข้าได้หมด, ปรับตัวกับคนได้ง่าย เหมือนเพชรที่เปล่งประกายใครๆ ก็นิยมนั่นเอง แต่เสียตรงที่ เขาจะเห็นและพึงใจในซกเช็น คือ กายทิพย์ และรัศมีสีรุ้งนั้น ทำให้เกิด “รูปราคะ”
คำสอนอธิโยคะได้จัดระดับคำสอนไว้3ระดับ คือ เซมเด ลองเดและเมกาเด ท่านคุรุศรีสิงหะยังได้แบ่งเมกาเดออกเป็นอีก4ระดับคือระดับภายนอก ระดับภายใน ระดับลับ และระดับลับสุดยอด ได้แยกการปฏิบัติออกเป็นสองลักษณะ คือเตกโชและโทกัล เตกโชคือการฟันฝ่าทะลุทะลวงดิ่งตรงเข้าสู่พุทธภาวะและผสานจิตตนเข้ากับ สภาวะธรรมชาติแห่งจักรวาลอย่างฉับพลันทันใด เป็นการสำเร็จพุทธในชาติปัจจุบันนี้ เมื่อถึงกาลสิ้นชีพกายจะเกิดประกายแสงหลากหลายพวยพุ่งออกมาและร่างกายจะสลายเข้ากับ แสงนั้นและหายไปเหลือเพียงผม เล็บมือเล็บเท้าปรากฏการณ์นี้เรียกว่าการเกิดกายรุ้ง ซึ่งเกิดในช่วงของการแตกสลายของธาตุทั้ง 4 เพื่อเข้าสู่แสงแห่งปัญญาของสัมโภคกาย ส่วนโทกัลคือการเดินดิ่งเข้าสู่พุทธภาวะ ผู้บรรลุเมื่อสิ้นชีพก็เกิดกายรุ้งเช่นกันแต่ กายรุ้งนั้นจะเห็นได้เฉพาะผู้บรรลุแล้วเท่านั้น
อ้างอิง : บทความมหาธรรม เรื่อง ข้อแตกต่างของนิกายลับและการปฏิบัติวัชระญาณ โดย physigmund_foid / yantip.com / mahayana.in.th
ขอบคุณภาพจาก : คลังพระพุทธศาสนา
จาก
http://www.tnews.co.th/contents/353081