ผู้เขียน หัวข้อ: พระเยซู และ พระพุทธเจ้า เป็นพี่น้องกัน (บางส่วน)  (อ่าน 1866 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


"...ในวันคริสต์มาสอีฟ เราพูดกันเรื่องศรัทธา เรื่องพลังแห่งชีวิต เรื่องพระจิต สำหรับฉันแล้วพระจิตคือศรัทธา พระจิตคือสติ และคือความรัก พระจิตนั้นดำรงอยู่ภายในเราอยู่แล้ว หากเราสามารถที่จะสัมผัสพระจิตภายในตัวเราเอง และช่วยให้พระจิตปรากฏชัดขึ้นในเรา เราก็จะสามารถเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งพระจิตในแนวทางที่เราเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งสติได้...

...พระจิตเป็นสิ่งที่ต้องเพาะปลูก และเมล็ดพันธุ์แห่งพระจิตนั้นก็อยู่ภายในตัวเธออยู่แล้ว การได้รับศีลล้างบาป ก็คือการมีโอกาสที่จะตระหนักรู้ว่า พระจิตนี้และพลังแห่งชีวิตนั้นดำรงอยู่แล้วภายในเธอ การได้รับศีลล้างบาป ก็คือการตระหนักรู้ในพระจิตและคือการสัมผัสพระจิตในเธอ...

...ในขณะแห่งการรับศีลล้างบาป ศีรษะของคนนั้นจะจุ่มลงไปในน้ำ หนึ่ง สอง และสามครั้ง คนผู้ถูกให้ศีลล้างบาปแล้วจะเกิดจากน้ำนั้น และจากพระจิต ในธรรมเนียมของนิกายออร์ธอด็อกซ์ ผู้คนนิยมที่จะให้ทั้งศีรษะจุ่มลงไปในน้ำแห่งศีลล้างบาปนั้น ทว่า ในธรรมเนียมคาทอลิก ผู้คนอาจนิยมเพียงการรินน้ำเสกลงบนศีรษะของคนผู้ที่ถูกให้ศีลล้างบาป พิธีกรรมเช่นนี้หมายที่จะช่วยให้ผู้คนสัมผัสเมล็ดพันธุ์แห่งพระจิตที่ดำรงอยู่แล้วในเขาและเธอ พิธีกรรมนี้คือสัญญาในการช่วยเหลือให้คนคนหนึ่งได้เกิดใหม่ในชีวิตทางจิตวิญญาณของเขาและเธอ พระกุมารบังเกิด พระเยซูบังเกิดทุกครั้งที่พระจิตภายในเธอนั้นได้ถูกสัมผัส

สิ่งเดียวกันนี้ก็จริงแท้สำหรับคนผู้ปฏิบัติธรรมด้วย ทุกๆครั้งที่เธอสัมผัสเมล็ดพันธุ์แห่งสติ และสตินั้นปรากฏชัดขึ้นในเธอ การมีชีวิตก็เป็นไปได้อีกครั้ง ในภาวะของจิตใจอันว้าวุ่น กายและใจนั้นไม่ประสานกัน หากว่าเธอหลงอยู่ในอนาคตหรือในอดีต เธอก็ไม่มีชีวิต แต่ถ้าเมื่อใดที่เมล็ดพันธุ์แห่งสติภายในเธอได้ถูกสัมผัส ทันใดนั้นเองเธอก็จะมีชีวิต กายและจิตวิญญาณสัมพันธ์กัน เธอได้เกิดอีกครั้ง พระเยซูได้บังเกิดอีกครั้ง พระพุทธเจ้าได้บังเกิดอีกครั้ง

เมื่อเธอได้ยินเสียงระฆังสมาธิ เธอหยุดการคิดของเธอ เธอหยุดสิ่งที่เธอกำลังพูด และระฆังช่วยเธอ อีกทั้งนำเธอกลับมาสู่บ้านที่แท้จริงของเธอ ที่ซึ่งพระจิตและสติดำรงอยู่ ที่ซึ่งเธอได้เกิดอีกครั้ง เธอได้เกิดหลายๆครั้งในหนึ่งวัน ซึ่งต้องขอบคุณสังฆะที่แวดล้อมเธอ นี่คือการปฏิบัติการกลับฟื้นคืนชีวิต เราตายลงหลายๆครั้งในหนึ่งวัน เราหลงสติไปหลายต่อหลายครั้งในหนึ่งวัน และต้องขอบคุณสังฆะและการปฏิบัติ ที่เรายังกลับมามีชีวิตได้หลายๆครั้งในหนึ่งวันด้วย แต่ถ้าเธอไม่ปฏิบัติ เมื่อนั้น ครั้งใดก็ตามที่เธอสูญเสียชีวิตไปในทุกๆวัน เธอก็ไม่มีโอการที่จะเกิดใหม่อีกครั้ง การไถ่บาปและการกลับฟื้นคืนชีวิตไม่ใช่ทั้งถ้อยคำหรือเรื่องของความเชื่อ แต่มันคือการปฏิบัติในทุกๆวันของเรา และเราปฏิบัติในมรรคาที่พระพุทธเจ้าบังเกิดในทุกขณะแห่งชีวิตประจำวันของเรา มรรคาที่พระเยซูบังเกิดในทุกขณะแห่งชีวิตประจำวันของเรา ไม่ใช่แค่ในวันคริสต์มาสเท่านั้น เพราะทุกๆวันคือวันคริสต์มาส ทุกๆนาทีคือนาทีคริสต์มาส ทารกน้อยภายในตัวเรากำลังรอคอยเราทุกนาทีที่จะได้เกิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า..."



/พระภิกษุ ญอท หั่ญ (ทึก ญอท หั่ญ*) (พ.ศ.๒๔๖๙-)แห่งพุทธศาสนานิกายเที่ยน(เซ็น)ในเวียดนาม
(*เขียนแบบเวียดนามคือ Thích Nhất Hạnh อ่านว่า ทึก ญอท หั่ญ แต่ในสากลและไทยมักอ่านตามอักษรโรมันว่า ติช นัท ฮันห์)
คัดแปลบางส่วนจาก Going Home: Jesus and Buddha as Brothers (Riverhead Trade, 2000)
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...