ผู้เขียน หัวข้อ: วังบรูพา Street art  (อ่าน 945 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ होशདངພວན2017

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 625
  • พลังกัลยาณมิตร 291
    • ดูรายละเอียด
วังบรูพา Street art
« เมื่อ: เมษายน 28, 2018, 02:35:34 pm »




สงกรานต์ยังไม่จบ
อย่าเพิ่งนับศพคน
ตาย !

:09: :09: :09:


พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ครั้งนั้นแลพระพุทธองค์ได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลาย พอสรุปเป็นใจความได้เรื่องเคยมีมาแล้ว ที่พระนครสาวัตถีนี่แหละ มีแม่บ้านคนหนึ่งชื่อ เวเทหิกา กิตติศัพท์อันงามของนางได้เล่าลือไปไกล ว่านางเป็นคนสงบเสงี่ยม อ่อนโยนเรียบร้อย นางได้มีคนรับใช้หญิงคนหนึ่งชื่อ กาลี เป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานบ้านการเรือนเรียบร้อยดีมาก เป็นที่รักใคร่ของนางเวเทหิกามาก วันหนึ่ง กาลีมีความคิดว่า การที่นายหญิงของเรามีกิตติศัพท์ชื่อเสียงว่า เป็นผู้สงบเสงี่ยม อ่อนโยน เรียบร้อยดุจผ้าพับไว้นั้น เป็นเพราะมีธรรมะในใจหรือเป็นเพราะว่า มีคนรับใช้ในงานได้เรียบร้อย และถูกใจทุกอย่างกันแน่ ? จะต้องลองสอบธรรมะนายหญิง ดูสักครั้ง เมื่อคิดอุบายได้แล้ว เช้าวันหนึ่งจึงแกล้งนอนตื่นสายไม่ได้ทำางานบ้าน นายหญิงจึงตวาดเอาว่า เฮ้ย ! อีกาลี มึงเป็นอะไรวะ จึงนอนตื่นสาย ? ไม่เป็นไรดอก เจ้าค่ะนายอีคนชั่ว เมื่อมึงไม่เป็นอะไร ทำไมจึงนอนตื่นสายล่ะ?นางเวเทหิกา โกรธขัดใจ หน้างอ แล้วเหตุการณ์ก็ผ่านไป วันต่อมา กาลีก็สอบธรรมะนายหญิงด้วยการนอนตื่นสายอีก คราวนี้ถูกด่าอย่างรุนแรงและหยาบ

คายมาก เรื่องก็ผ่านไปอีก วันต่อมา กาลีก็สอบธรรมะนายสาวอีก คราวนี้นอกจากถูกด่าอย่างรุนแรงแล้ว ยัง ถูกปาด้วยลิ่มประตูจนหัวแตกเลือดไหล กาลีได้เที่ยวร้องประกาศให้ชาวบ้านได้รู้ทั่วกันว่า ท่านทั้งหลายเจ้าข้า ! เชิญดูคนสงบเสงี่ยมของท่านทั้งหลายเถิด หัวของดิฉันได้แตก เพราะคนอ่อนโยนและเรียบร้อยของท่านทั้งหลายแล้ว" ครั้งนั้น กิตติศัพท์อันงามของนางเวเทหิกา ได้สลายลงแล้ว ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุบางรูปก็ฉันนั้น เธอเป็นคนสงบเสงี่ยมจัด อ่อนโยนจัด เป็นคนเรียบร้อยจัด เธอทำาได้ก็เพียงแต่ไม่ได้กระทบถ้วยคำอันไม่เป็นที่พอใจเท่านั้น จึงยังดูเป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยนได้ ภิกษุทั้งหลาย! ก็เมื่อใดเธอกระทบคำพูดอันไม่เป็นที่พอใจเข้าแล้วเธอยังสงบเสงี่ยม อ่อนโยน เรียบร้อยอยู่ได้ เมื่อนั้นแหละเธอควรนะจะน่านับถือจริง ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่เรียกภิกษุว่าง่าย เพราะเหตุที่ได้ปัจจัย ๔ แล้วจึงเป็นผู้ว่าง่าย เธอไม่ได้ปัจจัย ๔ เธอเธอก็จะเป็นผู้ว่ายากต่อไป ภิกษุทั้งหลาย! อนึ่งภิกษุรูปใดเคารพ และ นอบน้อมต่อพระธรรมอยู่ เราเรียกภิกษุรูปนั้นว่า เป็นผู้ว่าง่ายแลพระสูตรนี้ นับว่าเป็นบทเรียนที่ดีถึง ๒ ประการ คือ เป็นแว่นสองดูผู้อื่น และเป็นกระ

จกส่องงดูตนเอง เป็นแว่นสองดูผู้อื่น คือ เมื่อเราติดต่อ เคารพ คบหากับผู้ใหญ่ เราก็จะได้ศึกษาว่า สิ่งที่น่าแสดงกับเรานั้น เป็นสัจจะหรือมายา เป็นของแท้หรือของเทียม เมื่อมีสิ่งที่เป็นอนิฏฐารมณ์ เกิดขึ้น ก็จะเป็นมาตรวัดได้อย่างดี เป็นกระจกส่องดูตนเอง คือ เมื่อเรากระทบกับสิ่งที่ไม่น่ายินดี ไม่น่าปรารถนา เราจะเกิดปฏิฆะ ขึ้นในจิตหรือจนถึงแสดงออกมาทางวาจาและกายหรือไม่? แต่ถ้าเรามีความรู้สึกขัดใจ แต่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ ก็จะเป็นมาตร ที่วัดคุณธรรมในจิตใจของเราได้อย่างดี คนอกตัญญู ย่อมไม่พบความเจริญพระพุทธเจ้า ได้ตรัสถึงบ้าน ที่ภิกษุไม่ควรไป หรือเมื่อเข้าไปแล้ว ก็ไม่ควรนั่ง มี ๗ ประการ คือ

๑. ต้อนรับด้วยไม่เต็มใจ
๒. ไหว้ด้วยไม่เต็มใจ
๓. ให้ที่นั่งด้วยไม่เต็มใจ
๔. ซ่อนของที่มีอยู่
๕. เมื่อมีของมากให้น้อย
๖. เมื่อมีของดีแต่ให้ของเลว
๗. ให้โดยไม่เคารพ

บ้านที่ประกอบด้วยลักษณะ ๗ ประการนี้ ภิกษุที่ยังไม่เคยไป มีควรไป หรือไปแล้วก็ไม่ควรนั่ง ถ้าตรงข้ามจาก ๗ ข้อนี้ ภิกษุที่ไม่เคยไปก็ควรไป หรือไปแล้วก็ควรนั่งพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชื่อว่าเป็น เนื้อนาบุญ ของชาวพุทธ การได้เห็นพระที่ดี จึงจัดว่าเป็นมงคลแก่ตา และถ้าได้ทำบุญแก่ท่าน ก็ถือว่าเป็นการฝังขุมทรัพย์ที่ดี ด้วยเหตุนี้ การที่พระมาบ้านจึงถือว่าเป็นมงคลแก่บ้าน ควรที่จะต้องต้อนรับท่านตามฐานะหรือกำลังจึงจะถือว่าเป็นมรรยาทที่ดีของชาวพุทธ แต่ถ้าเรารู้ว่าท่านเป็นพระไม่ดี เป็นพระอลัชชี นอกธรรมนอกวินัย การไม่ต้อนรับ การนิมนต์ให้ท่านไปที่อื่น ดูจะถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ชอบธรรม เพราะอะไร? เพราะถ้าเราให้การ

ต้อนรับกราบไหว้หรืออุปถัมภ์บำารุง ก็จะเป็นเหตุให้ท่านกำเริบใจ กล้าทำผิด ทำชั่วยิ่งขึ้น เพราะถือว่ามีผู้สนับสนุนมีเสบียง ก็เลยกลายเป็นว่าเราได้เลี้ยงโจรไว้ปล้นศาสนาไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทุกวันนี้ ชาวพุทธที่เสื่อมศาสนา เพราะพระเป็นเหตุก็มีอยู่มากแล้ว ในฐานะชาวพุทธ เราก็ไม่ อาจจะหลีกเลี่ยงรัตนะองค์ที่ ๓ เสียได้ แต่เราควรจะมีส่วนร่วมกัน นั่นคือ เมื่อพบพระที่ไม่ดี ก็ควรที่จะช่วยกันกำจัด ตามทางที่ถูกที่ควร อย่าคิดว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ เลย ในฐานะชาวพุทธ เราไม่อาจจะ ขว้างงูให้พ้นคอ ได้หรอก เมื่อพบพระที่ดี ก็ควรที่จะให้ความเคารพ กราบไหว้ และอุปถัมภ์บำรุงตามฐานะ พระศาสนาจึงจะตั้งอยู่ได้นานแสนนาน การเอาแต่ร้องแรกแหกกระเชอ จะไม่ทำาให้ศาสนาหรือศีลธรรมดีขึ้นเลย......
THE END

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2022, 07:43:08 pm โดย होशདངພວན2017 »
ตั้งมั่น แน่วแน่ แก้ไขทุกสิ่ง