ผู้เขียน หัวข้อ: ปลายฝนต้นหนาวภาคพิเศษ  (อ่าน 2285 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
ปลายฝนต้นหนาวภาคพิเศษ
« เมื่อ: กันยายน 23, 2018, 11:50:26 pm »






ฝนตกช่วงปลายฤดูฝนจะเข้าฤดูหนาว 2560 สะพายกล้องท่องเที่ยวถ่ายภาพและวีดีโอโดย.....時々कभीकभी一རພຊຍ๛


เดือนนี้ พวกเราจะบรรยายบุคคลหนึ่งนามอี้หลุงที่โดยการคัดลอกไดโมขุหรือชื่อของสัทธรรมปุณฑริกสูตรสามารถช่วยเหลือพ่อของเขาจากความทุกข์ของนรก นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ถูกบรรยายไว้อย่างละเอียดในบทธรรมนิพนธ์ของพระนิชิเร็น ไดโชนิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จดหมายถึงโฮเร็น เช่นกัน ถูกอ้างอิงเป็นบทธรรมนิพนธ์ หวู่หลุงและอี้หลุง(WU-LUNG I-LUNG)นานมาแล้ว ในประเทศจีนมีผู้เชี่ยวชาญการเขียนอักษรที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งนามหวู่หลุงหวู่หลุงเป็นผู้นับถือลัทธิเต๋าอย่างแรงกล้าที่ให้ความเคารพเล่าจื๊อ1(LAO TZU)อย่างมาก เนื่องจากหวู่หลุงเกลียดชังศาสนาพุทธ พระสูตรในศาสนาพุทธเป็นเอกสารประเภทเดียวเท่านั้นที่เขาจะไม่คัดลอก

หวู่หลุงมีลูกชายคนหนึ่งนามอี้หลุงที่เป็นเลิศในการเขียนอักษรเช่นเดียวกับพ่อของเขา ความสามารถของเขาในการคัดอักษรจีนที่สวยงามด้วยพู่กันทำให้ผู้คนอัศจรรย์ใจ ณ เวลาที่หวู่หลุงใกล้จะตายเขาเรียกอี้หลุงลูกชายของเขาให้มาที่ข้างกายของเขาและพูด มันเป็นความตั้งใจของพ่อหลังจากพ่อตายไปแล้วเจ้าจงเจริญรอยตามพ่อด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญการเขียนอักษร ครอบครัวของพวกเรานับถือคำสอนลัทธิเต๋ามาแล้วหลายชั่วคนดังนั้น ในบรรดางานเขียนอักษรซึ่งเจ้าคัด เจ้าต้องไม่คัดคำสอนใด ๆ ในศาสนาพุทธครั้งหนึ่งพระศากยมุนีกล่าวคำ ยุยงะ โทกุซัน ที่แปลว่าพระองค์เป็นบุคคลเดียวเท่านั้นในโลกนี้ที่ควรแก่การเคารพ อย่างไรก็ตาม พ่อของเจ้าเชื่อว่าเล่าจื๊อเป็นบุคคลที่ควรแก่การเคารพดังนั้นเจ้าต้องไม่คัดลอกงานใดๆในศาสนาพุทธ ถ้าเจ้าละเมิดคำสั่งนี้ พ่อจะกลับมาในฐานะผีเพื่อฆ่าเจ้า  เจ้าต้องรักษาสัญญานี้ไว้ เมื่อหวู่หลุงพูดเช่นนี้ ลิ้นของเขาแตกเป็น 8 เสี่ยงและศีรษะของเขาแตกเป็น 7 เสี่ยงเขา

ประสบความตายที่เจ็บปวดอย่างมากเมื่อเลือดทะลักออกมาจากตาทั้งสอง หูทั้งสอง จมูกและปาก หวู่หลุงกล้ำกลืนฝืนทนต่อความตายที่ทุกข์ทรมานเช่นนี้เหมือนการลงโทษจากการมอบความไว้วางใจต่อคำสอนที่ไม่ถูกต้องและไม่เชื่อธรรมะที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ลูกชายของเขาไม่เข้าใจเหตุการณ์เช่นนี้และทำตามเจตนารมณ์ของพ่อทุกประการ ไม่คัดลอกแม้แต่เรื่องเดียวที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ หลายปีผ่านไปตั้งแต่การตายของพ่อ ถึงแม้ว่าวันหนึ่ง มีผู้นำพระราชโองการจากกษัตริย์แห่งแคว้นปิงโชมาให้เขา นามของกษัตริย์คือ ซือหม่า(SSU-MA) และพระองค์

เป็นผู้นับถือธรรมะในศาสนาพุทธ ผู้นำพระราชโองการมาหาอี้หลุงตามคำบัญชาของกษัตริย์เพื่อขอให้เขาในฐานะผู้เขียนอักษรที่มีฝีมือที่สุดของแคว้นคัดสำเนาสัทธรรมปุณฑริกสูตรเพื่อเป็นของบูชาในพิธีทางศาสนาพุทธรำลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อี้หลุงปฏิเสธพระราชโองการของกษัตริย์,โดยอ้างการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของเขา กษัตริย์ไม่ล้มเลิกความต้องการที่จะมีสำเนาพระสูตรฉบับคัดลอก พระองค์ขอให้ผู้เขียนอักษรอีกคนหนึ่งทำการคัดลอกแทนอย่างไรก็ตาม ผู้เขียนอักษรคนนี้ไม่สามารถคัดลอกได้เป็นที่พอพระราชหฤทัยของกษัตริย์ ณ จุดนี้กษัตริย์พยายามอีกครั้งหนึ่ง โน้มน้าวอี้หลุงให้เขียนส่วนหนึ่งของพระสูตรโดยการสั่งเขา ถ้าเจ้าต้องการคัดลอกเพียงแค่ชื่อของสัทธรรมปุณฑริกสูตร 8 ม้วน มันก็พอแล้ว

อี้หลุงตอบ ข้าพเจ้าเสียใจมาก โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วย เขาปฏิเสธคำขอของกษัตริย์อีกครั้งหนึ่ง

กษัตริย์ตอบ พ่อของเจ้าเป็นข้าราชบริพารของข้าคนหนึ่งใช่หรือไม่ ถ้าเจ้าไม่ทำตามคำพูดของข้า ดังนั้นข้าจะสั่งตัดศีรษะของเจ้าทันทีในสวนนี้

อี้หลุงเริ่มร้องไห้ขณะที่เขาคัดถ้อยคำ เมียวโฮ-เร็งเง-เคียว ได-อิชิ เมียวโฮ-เร็งเง-เคียว ได-นิ ต่อเนื่องจนกระทั่งเขาเขียนชื่อของสัทธรรมปุณฑริกสูตรแต่ละม้วนจนครบ 8 ม้วนด้วยการเขียนชื่อของพระสูตร ต่อมา อี้หลุงได้รับการยกโทษจากกษัตริย์

อี้หลุงกลับบ้านและน้ำตานองหน้าเมื่อเขาขอโทษต่อวิญญาณของพ่อที่ล่วงลับไปแล้วในเรื่องการละเมิดความตั้งใจของพ่อเขาร้องไห้จนเผลอหลับไปในที่สุด

ช่วงกลางคืน ขณะที่อี้หลุงหลับ เขามีความฝันที่ผิดปกติมากในความฝันนี้ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างถูกส่องสว่างทันที เขาเห็นเทพองค์เดียวที่ยืนอยู่ในสวนพร้อมกับผู้คนจำนวนมากมายเหนือขึ้นไปบนท้องฟ้ามีพระพุทธะ 64 องค์อี้หลุงประหลาดใจและถามเทพองค์เดียว ท่านเป็นใคร

เทพตอบ ข้าเป็นพ่อของเจ้า หวู่หลุง เมื่อถูกลงโทษจากการพูดถึงธรรมะที่แท้จริงในศาสนาพุทธอย่างดูหมิ่น  พ่ออ่อนเพลีย ณ ห้วงเวลาแห่งความตายเมื่อเลือดไหลออกจากทั่วร่างกายของพ่อแม้แต่หลังจากพ่อตาย พ่อกล้ำกลืนฝืนทนต่อความเจ็บปวดรวดร้าวในนรกแห่งความทรมานไม่สิ้นสุด ความทรมานนั้นแสนสาหัส ความเจ็บปวดรวดร้าวซึ่งประสบน่ากลัวมากกว่าความทุกข์จากการถูกดาบกรีดนิ้วมือขาด ถูกเลื่อยตัดศีรษะ ถูกบังคับให้เดินบนถ่านที่ร้อนและถูกห่อด้วยพืชมีหนาม พ่อต้องการบอกเรื่องเหล่านี้แก่เจ้าและขอร้องให้เจ้าทำบุญทางศาสนาพุทธเพื่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว,แต่พ่อก็ไม่สามารถบอกเจ้าได้ พ่อเสียใจที่เคยบอกเจ้าว่ามันเป็นความตั้งใจของพ่อที่ว่าเจ้าจะไม่เขียนอักษรใด ๆ เกี่ยวกับคำสอนศาสนาพุทธ เมื่อวานนี้ตอนเช้า อักษรตัวแรก เมียว แห่งสัทธรรมปุณฑริกสูตรล่องลอยเหนือนรกแห่งความทรมานไม่สิ้นสุดและเปลี่ยนเป็นพระศากยมุนีที่มีพระวรกายสีทองทันทีทันใดและพระองค์กล่าว บุคคลใดที่ได้ฟังสัทธรรมปุณฑริกสูตรจะมีความสุข แม้แต่คนชั่วร้ายที่สุด จากอักษรเมียวต่อมาฝนเริ่มตกอย่างหนักจนดับไฟในนรกแห่งความทรมานไม่สิ้นสุด พญายมราชแสดงความเคารพอย่างสูงและปีศาจทั้งหมดที่อยู่รอบๆเตรียมพร้อมเพื่อขัดขวางต่อมา อักษรตัวต่อมา โฮ และ เร็ง ปรากฏ โดยที่อักษร 64 ตัวกลายเป็นพระพุทธะ 64 องค์ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวพวกเราสว่างไสวและความทุกข์หายไป ต่อมาพระพุทธะเหล่านี้กล่าวกายสีทองของพวกเราคืออักษร 64 ตัวของชื่อของสัทธรรมปุณฑริกสูตรจำนวน 8 ม้วนที่ท่าน หวู่หลุง เขียน(เนื่องจากอี้หลุงเป็นลูกของหวู่หลุง มันก็เหมือนกับหวู่หลุงตัวเขาเองเขียนอักษรเหล่านี้)เนื่องมาจากสิ่งที่เจ้าทำ ทุกคนที่อยู่ในนรกร่วมกับพ่อและตัวพ่อเองได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงมาขอบคุณเจ้า

อี้หลุงละเมิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของเขาและเสียใจต่อความจริงที่ว่าบางทีพ่อของเขาโกรธเขาและเศร้าโศกต่อสิ่งที่เขาทำ อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม เมื่อเขาพบว่าพ่อของเขาได้รับการช่วยเหลือให้พ้นจากนรกเขาจึงดีใจมาก ตั้งแต่นั้นมา เขาไม่คัดลอกเอกสารที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธอีกเลย เมื่อเขาเล่าเกี่ยวกับความฝันซึ่งเขาฝันแก่กษัตริย์ กษัตริย์ซือหม่าก็สุขใจมากเช่นกัน กล่าวกันว่าสัทธรรมปุณฑริกสูตรเผยแผ่ไปทั่วอาณาจักรและทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง

นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้เป็นนิทานที่อธิบายกุศลผลบุญของการคัดลอกสัทธรรมปุณฑริกสูตร ผู้ที่ใช้ปากของเขาสวดไดโมขุหรือใช้ร่างกายของเขาปฏิบัติสัทธรรมปุณฑริกสูตรจะได้รับกุศลผลบุญมากกว่าอย่างแน่นอน  ถ้าโดยความประสงค์ของพ่อแม่ของคน ๆ หนึ่ง เขาปฏิบัติศาสนาหรือปรัชญาที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นทั้งพ่อแม่และบุคคลนั้นจะทุกข์ ยกตัวอย่าง ถ้าพ่อแม่ของคนๆหนึ่งเป็นขโมย ดังนั้นทั้งพ่อแม่และลูกจะสะสมเหตุแห่งความทุกข์ในชีวิตของพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ การตอบแทนหนี้บุญคุณที่คนๆหนึ่งเป็นหนี้บุญคุณต่อพ่อแม่มี 3 วิธี โดยแบ่งออกเป็นวิธีที่ สูงส่งที่สุด ปานกลาง ต่ำที่สุด วิธีที่ 3 หรือ ต่ำที่สุดในการตอบแทนหนี้บุญคุณที่คนๆหนึ่งเป็นหนี้บุญคุณต่อพ่อแม่คือด้วยการมอบวัตถุสิ่งของ ยกตัวอย่าง วิธีนี้สามารถทำโดยการสร้างบ้านเพื่อพ่อแม่ มอบเสื้อผ้าสวยงามตระเตรียมหรือพาพ่อแม่ออกไปรับประทานอาหารอร่อย ท่ามกลางสิ่งอื่นๆ วิธีที่ 2 หรือ ปานกลางคือเชื่อฟังหรือดูแลพ่อแม่อย่างจริงใจ

วิธีนี้ทำได้ ยกตัวอย่าง โดยการฟังสิ่งที่พ่อแม่ของท่านบอกหรือแนะนำท่าน ด้วยความรู้สึกที่จริงใจในหัวใจของท่านว่าพ่อแม่ของท่านน่ารักมากจริง ๆ แสดงความเคารพพ่อแม่และโดยการเชื่อฟังสิ่งที่พวกเขาบอกท่าน วิธีแรกหรือ สูงส่งที่สุดคือทำให้สภาพชีวิตของพ่อแม่ของพวกเราเป็นสภาพชีวิตแห่งความสุขด้วยกุศลผลบุญของโกะฮนซนและพลังพุทธะ วิธีนี้สามารถทำได้ยกตัวอย่าง โดยประกอบพิธีรำลึกถึงพ่อแม่ของพวกเราหลังจากพวกเขาตายไปแล้วซึ่งรวมทั้งการถวายป้ายโทบะด้วย การอธิษฐานอย่างจริงใจเพื่อพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของพวกเราในระหว่างคำอธิษฐานวาระที่ 5 ในการสวดมนต์ทำวาระเช้าและเย็นและโดยการสวดไดโมขุเพื่อพวกเขา

วิธีแรกหรือสูงส่งที่สุดในการตอบแทนหนี้บุญคุณต่อพ่อแม่ของพวกเราเหนือกว่าวิธีการตอบแทน ปานกลางและ ต่ำที่สุด โดยการสวดไดโมขุเพื่อพ่อแม่ของพวกเราถึงแม้ว่าหลังจากพวกเขาจากโลกนี้ไปแล้ว พ่อแม่ของพวกเรา บรรพบุรุษของพวกเราและพวกเราเองทุกคนสามารถบรรลุพุทธภาวะด้วยกุศลผลบุญของโกะฮนซน ขอให้พวกเราทุกคนพยายามสวดไดโมขุอย่างจริงใจด้วยน้ำเสียงกังวานและชัดเจน และด้วยท่าทีที่ถูกต้องต่อโกะฮนซนร่วมกับครอบครัวของพวกเรา ไม่ว่าในบ้านของพวกเราเอง,เมื่อพวกเรามีโอกาสไปโทซังที่วัดใหญ่หรือเมื่อพวกเราเข้าร่วมการประชุมสวดไดโมขุ(โชได-ไก)ในวัดท้องถิ่นของพวกเรา ความพยายามที่จริงใจนี้ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเรา เป็นวิธีการตอบแทนหนี้บุญคุณต่อพ่อแม่ของพวกเราที่ยอดเยี่ยมที่สุด













https://red-jeeeun.blogspot.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 24, 2019, 10:21:32 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน