.
.
.
สื่อต่างชาติบางสื่อ ให้ข้อมูลที่บิดเบือนเรื่องพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย
.
คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
.
#อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
#อย่าตกเป็นเหยื่อต่างชาติ
.
คนต่างชาติ ไม่ต้องเข้ามา ส สระ เกือก เรื่องภายในของประเทศไทย
.
คนต่างชาติ เข้ามาปล้น เงินทอง และ แผ่นดินไทยไป ยังไม่มากพอ !!!!!
.
.
.***********************************.
.
.
โพสโดย ฤๅ - Lue History
ที่มาของคลิป ฤๅ - Lue History
7 กันยายน 2022
.
https://www.facebook.com/Lue.History.Thai/videos/409397137965462.
แหล่งข้อมูลที่หลายคนมักจะเอามาอ้างแล้วกล่าวหาว่า พระมหากษัตริย์ของประเทศไทยคือกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก คือข้อมูลของ Forbes และ CEOWORLD ที่จัดอันดับให้พระมหากษัตริย์ไทยมีทรัพย์สินมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก เรียกได้ว่ารวยกว่าสุลต่านบรูไน หรือกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย เสียอีก
.
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่อง “โกหก” ไม่มีอ้างอิงที่ถูกต้อง และง่ายในการเผยแพร่รวมถึงกระจายไปในระบบออนไลน์
และถ้าใครอ่านแล้ว “เชื่อ” เลยโดยไม่คิด วิเคราะห์ แยกแยะ และหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะเข้าทางกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังที่คอยปล่อยข้อมูลบิดเบือนเหล่านี้ทันที เหมือนที่เรามักจะเห็นบางคนชอบไปโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเรื่องความร่ำรวยตามเพจต่างๆ แล้วหลับหูหลับตาโยนข้อมูลอันดับของ Forbes ขึ้นมา
.
เอาเป็นว่าลองไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ House Of Saud กันดีกว่า ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของ “ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย” ในเว็บไซต์เขาก็ระบุอยู่ว่า ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียมีรายได้จากการขายน้ำมันตลอดหลายปีที่ผ่านมา มูลค่ามากกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ แค่นี้ก็ชัดแล้วครับว่ากษัตริย์ของประเทศไหนร่ำรวยที่สุดในโลก
.
แบบนี้แล้วยังจะเชื่อ Forbes และ CEOWORLD กันอยู่อีกเหรอครับ ?
.
ยังมีข้อมูลบิดเบือนอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สินส่วนที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่มีคนพยายามบิดเบือนว่าเป็นเงินของแผ่นดิน หรือเรื่องที่มีคนพยายามโจมตีว่าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่ 10 เป็นการใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย
.
ในคลิปวิดีโอนี้มีข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง และตัวเลขจริงมาเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ เลยว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นการใช้เงินฟุ่มเฟือยจริงหรือเปล่า และทรัพย์สินที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นเงินของแผ่นดินจริงหรือไม่
.
ข้อมูลทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน และสามารถสืบค้นได้ทั่วไป ซึ่งเราอยากให้ทุกคนได้รับรู้และวิเคราะห์กันดู ที่เหลือก็ลองชั่งน้ำหนักกันเอาเองครับว่าจะยังคงเชื่อ Forbes และ CEOWORLD อยู่อีกหรือเปล่า
.
.
.