ผู้เขียน หัวข้อ: How to ทิ้ง อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ( ซะซะกิ ฟุมิโอะ )  (อ่าน 70 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

ผู้เขียนเคยมีชีวิตวุ่นวาย วันๆ รู้สึกว่ามีเวลาไม่เพียงพอ แถมที่พักก็สกปรกรกรุงรัง จนได้รู้จักกับแนวคิด Minimalist ซึ่งเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และความเชื่อ ทำให้เขามีเวลามากขึ้น ได้พักผ่อนมากขึ้น มีของใช้เท่าที่จำเป็นโดยไม่รู้สึกขาดอะไร เป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง ดูแลเวลาในชีวิตประจำวัน และดูแลที่พักอาศัยของคนในเมืองใหญ่ด้วยการเปลี่ยนแนวความคิดไปสู่ความ Minimal หรือการมีสิ่งของเท่าที่จำเป็น คล้ายหนังสือ "ชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการจัดบ้านเพียงครั้งเดียว" แต่เป็นแนวคิดของการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ ทั้งตารางเวลาในชีวิตแต่ละวัน การจัดการกับงาน จัดบ้าน สังสรรค์ ล้วนใช้หลักการ minimalist ได้ทั้งนั้น 3.ผู้เขียนมีการยกตัวอย่างเรื่องของตนเองเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น และเรื่องที่ยกตัวอย่างนั้นเป็นชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองอันวุ่นวายทั่วโลก


สารบัญ : อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

มินิมัลลิสม์มาจากไหน

ทุกคนเป็นมินิมัลลิสต์กันมาตั้งแต่แรก

1 วันก่อนที่ผมจะเป็นมินิมัลลิสต์

1 วันในการเป็นมินิมัลลิสต์ของผม

ของที่ถูกทิ้ง

ทำไมผมถึงมาเป็นมินิมัลลิสต์

ชาวญี่ปุ่นคนไหนก็เป็นมินิมัลลิสต์

เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่การเป็นมินิมัลลิสต์


เนื้อหาปกหลัง : อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

ความสุขจากการมีข้าวของน้อยชิ้นผลักดันชีวิตของเราให้ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มีเวลามากขึ้น สนุกกับชีวิต สัมผัสตัวตนของตัวเอง ไม่ต้องคอยเปรียบเทียบกับใคร ไม่ต้องกลัวสายตาคนรอบข้าง รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิมากขึ้น รู้จักผลักดันตัวเอง ประหยัด เป็นมิตรกับธรรมชาติ สุขภาพแข็งแรง สบายใจ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป น้ำหนักลดลง ง่ายๆ แค่ทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นไปซะ

รีวิวโดยผู้เขียน : อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

หลังจากที่ผมลดจำนวนข้าวของให้น้อยลง ทุกๆ วันก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น และก็เริ่มเข้าใจทีละนิดว่า สิ่งที่เรียกว่าความสุขนั้นคืออะไร สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนน่าสมเพชเหมือนกับผม หรือเป็นคนที่เอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่ตลอด หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีความสุขเลย ผมแนะนำให้ลองนำตัวเองออกห่างจากข้าวของที่มีอยู่สักครั้งหนึ่ง ในโลกของเราอาจจะมีคนที่ไม่ได้รู้สึกหลงใหลในสิ่งของตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หรืออาจจะมีคนที่มีพรสวรรค์ในการมองหาสิ่งล้ำค่าในบรรดาข้าวของพวกนั้นอยู่ แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงความสุขได้ ใครๆ ก็หวังจะมีความสุข แต่ทว่าข้าวของที่เรามีอยู่ให้ความสุขแก่พวกเราเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น จริงๆ แล้วพวกเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความสุข การลดจำนวนข้าวของที่มากจนเกินจำเป็นคือการได้ทบทวนถึงความสุขอีกครั้ง เรื่องนี้ก็อาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อยแต่ผมคิดเช่นนั้นจริงๆ

epigraph



รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

ใครๆ ต่างก็เฝ้าฝันถึง "ความสุข" ในชีวิตกันทั้งนั้น หลายคนเลือกทำงานหนักเพื่อเก็บเงินซื้อข้าวของราคาแพงเพราะคิดว่าจะมีความสุขแต่เมื่อถึงวันที่ได้ของชิ้นนั้นมาครอบครองแล้ว ความสุขนั้นกลับไม่มากเท่าที่คิดฝันไว้ เพราะอะไรกันนะ บางคนเติมเต็มชีวิตประจำวันที่แสนเหนื่อยหน่ายด้วยการหาข้าวของมาปรนเปรอตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ต้องเสียทั้งเวลาและเงินทองไปกับการดูแลรักษาข้าวของเหล่านั้นมากกว่าที่คาด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ บางคนพยายามยกระดับตัวเองด้วยข้าวของราคาแพง เพราะคิดว่าเมื่อมีสิ่งเหล่านั้นแล้วจะทำให้ทุกคนยอมรับ แต่ตัวเองกลับไม่มีความสุขจริงๆ สักทีต้องแก้ไขอย่างไรกันดี เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างความรู้สึกของผู้คนที่ตามหาความสุขโดยที่ไม่รู้เลยว่า "ความสุข" นั้นหาได้ง่าย แค่เพียง "ทิ้งข้าวของที่ไม่สำคัญ" ไปซะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ลองลงมือทิ้งข้าวของรอบๆ ตัวดูสิ แล้วจะรู้ว่าคุณทำใจได้ยากและใช้เวลาอาลัยอาวรณ์มันมากแค่ไหน หนังสือเล่มนี้บอกเล่าประสบการณ์ตรงของหนุ่ม "มินิมัลลิสต์" ผู้ซึ่งเคยวิ่งไล่ความสุขไม่ต่างจากพวกเรา เขาเคยวุ่นวายเพราะจำนวนข้าวของรอบตัว เฝ้าฝันถึงข้าวของจนหาความสงบสุขในชีวิตไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพียงแค่เขาทิ้งข้าวของที่ไม่สำคัญเพื่อให้ตัวเองได้พบกับสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับตัวเองจริงๆ นอกจากเรื่องเล่าที่ไม่ธรรมดาและคล้ายคลึงกับชีวิตประจำวันของพวกเราที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมายจนน่าตกใจแล้ว เขายังบอกเล่าเคล็ดลับต่างๆ ที่ช่วยให้เรากลายเป็น "มินิมัลลิสต์" ซึ่งหมายถึง บุคคลผู้เรียบง่าย มีข้าวของเท่าที่จำเป็น และมีความสุขในชีวิต แค่ฟังก็รู้สึกสบายและได้กลิ่นอายของความสุขแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นลองค่อยๆ อ่านและทำตามแนวทางของเขา เริ่มต้นจากอะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป

จาก https://www.naiin.com/product/detail/211204


<a href="https://www.youtube.com/v//Xq44s5fD1A8" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//Xq44s5fD1A8</a>

https://youtu.be/Xq44s5fD1A8?si=KQ0a0sHvb4_1_k2t


<a href="https://www.youtube.com/v//KDyLGIrDP4I" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//KDyLGIrDP4I</a>

https://youtu.be/KDyLGIrDP4I?si=VS82G0r0ZTf0M1u3

<a href="https://www.youtube.com/v//jG8GYFDaVrA" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//jG8GYFDaVrA</a>

https://youtu.be/jG8GYFDaVrA?si=-Xvh2QsvmPrUaNrJ

มีอีกจนจบเล่ม https://youtube.com/playlist?list=PLV8Tyvuuh60H5mdUYwmj2UOJBadTYNe-m&si=aO8GMrhtrVCFwQfT
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...