ผู้เขียน หัวข้อ: สมถกัมมัฏฐานแบบทิเบต( Development of a Symbol - Elephant symbolising Action)  (อ่าน 49 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด

Development of a Symbol -  Elephant symbolising Action

<a href="https://www.youtube.com/v//vHzoiOzbLbc" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//vHzoiOzbLbc</a>

https://youtu.be/vHzoiOzbLbc?si=gPS-t2axPbjuIGkO

สมถกัมมัฏฐานแบบทิเบต

สมถกัมมัฏฐานเป็นวิธีการฝึกอบรมจิตเพื่อให้เกิดความสงบเป็นสมาธิ ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น อานาปานสติ อสุภกัมมัฏฐาน และกสิ เป็นต้น

ภาพแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการฝึกปฏิบัติตั้งแต่ชั้นแรกจนบรรลุสำ เร็จถึงสมาธิชั้นสูงสุด

เริ่มด้วยการกล่าวถึงสุตพละคือกำลังแห่งการฟัง หมายถึงการได้รับฟังคำอธิบายจากผู้รู้ถึงสมถกัมมัฏฐานแล้วจึงฝึกปฏิบัติ

พระโยคาวจรคือผู้ฝึกปฏิบัติถือ
เชือกและปฏักหมายถึงสติและสัมปชัญญะคอยกำกับจิต

ช้างคือจิต สีดำ ของช้าง หมายถึงความง่วงเหงาซึมเซาของจิต

ลิงดำ หมายถึงกามคุณ ๕ ที่คอยชักพาจิตให้ ฟุ้งซ่าน

เปลวเพลิงกองใหญ่หมายถึงในระยะแรกของการฝึกปฏิบัตินั้นต้องใช้กำลัง แห่งสติสัมปชัญญะอย่างยิ่งจึงจะมีความก้าวหน้า

ภาพพระโยคาวจรที่ใช้เชือกคือสติผูกช้างได้แล้ว ลิงและช้างเริ่มตัวสีขาว มากขึ้นมีกระต่ายหันหน้าไปหาพระโยคาวจร หมายถึงจิตที่มีความฟุ้งซ่านและ ง่วงเหงาซึมเซาน้อยลง

และเมื่อจิตสงบยิ่งขึ้นความรู้สึกนึกคิดจากกามคุณ ๕ ได้แก่
รส สัมผัส เสียง กลิ่น และรูป จะค่อยๆ จางคลายและดับไปในที่สุด ภาพแสดง ด้วยผลไม้ ๓ ผล จีวร ฉิ่งหนึ่งคู่ หอยสังข์ และกระจกเงา ตามลำดับ

ภาพลิงขาวเกาะบนต้นไม้หมายถึงจิตที่มีกุศล ซึ่งกุศลกรรมทั้งหลายที่จิตไปคิดถึงยังถือว่าอาจทำ ให้ฟุ้งซ่านได้

ในขั้นนี้ต้องขจัดให้หมดไปโดยใช้กำลังแห่ง สติสัมปชัญญะหน่วงจิตให้กลับมา แสดงด้วยภาพพระโยคาวจรใช้เชือกและปฏัก จูงช้าง

ลิง และกระต่ายที่ขาวครึ่งตัว เมื่อจิตมีความสงบเพิ่มขึ้นความฟุ้งซ่านดับลง

ภาพกระต่ายหายไป กามคุณ ๕ ดับลงจนสิ้นภาพลิงหายไป และพระโยคาวจร สามารถควบคุมช้างขาวทั้งตัวให้หมอบอยู่ข้างๆ ได้ คือความง่วงซึมเซาหายไปสิ้น

เปรียบเหมือนจิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวคืออารมณ์แห่งกัมมัฏฐานนั้นๆ ปรากฏ รุ้งหลากสีทอดออกจากอกพระโยคาวจร

สุดท้ายพระโยคาวจรลอยลิ่วไปหมายถึงปีติแห่งกาย

และนั่งบนหลัง ช้างได้หมายถึงบรรลุถึงสมาธิอันแท้จริงมีปีติแห่งจิต

เปลวเพลิงสีขาวหมายถึง
สติสัมปชัญญะนั้นแนบแน่นสนิทกับดวงจิตแล้ว กำลังขอ สติสัมปชัญญะอัน คล่องแคล่วว่องไวของพระโยคาวจรจะช่วยให้จิตเข้าถึงกำลังแห่งวิปัสสนา เพื่อให้
ได้มาซึ่งความหมายอันสูงสุดแห่งสุญญตาอันเป็นปรมัตถสัจจะของปรากฏการณ์ ทั้งหลาย
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...