ผีซ่าส์กับฮานาดะ…วิญญาณที่ไม่ยอมปล่อยวางเมื่อเดือนก่อนเคยเขียนถึงการ์ตูนที่ว่าด้วยชีวิตหลังความตายที่ค่อนข้างจะจริงจังอย่าง คุโรซากิ บริษัทรับส่งศพ (ไม่) จำกัด ชีวิตหลังความตายที่ยังไม่สงบสุขเนื่องด้วยยังมีเหตุให้กังวลจนวิญญาณไม่ยอมไปผุดไปเกิด (ตามคติความเชื่อของเราชาวพุทธที่เชื่อว่าคนเราเมื่อตายไปแล้วก็จะไปเกิดใหม่ เป็นอะไรก็แล้วแต่บุญกรรมที่สร้างไว้ หากไม่เกิดใหม่นั่นก็คือการเข้าสู่นิพพาน อันเป็นเป้าหมายของชาวพุทธทั้งมวล) ไอ้ประเด็นที่ว่านี้ก็นับเป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดความเห็น จินตนาการ ผ่านทางศิลปแขนงต่างๆ ในที่นี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของการ์ตูน
มีการ์ตูนหลายเรื่องที่เล่าถึงชีวิตหลังความตาย ทั้งในแบบที่จริงจังและในแบบที่ชวนหัว มีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ “ผีซ่าส์กับฮานาดะ” ดูเผินๆ อาจจะเป็นการ์ตูนสนุกๆ ฮาแตกเรื่องหนึ่ง แต่คนเขียนก็ช่างกระไร เขาค่อยๆ ใส่ความเป็นดรามาลงไปทีละน้อยๆ จนเข้าสู่เล่มจบมันก็กลายเป็นการ์ตูนแนวดรามาโดยสมูรณ์ และเรียกน้ำตาผู้อ่านได้อย่างดีนัก
ผีซ่าส์กับฮานาดะ (จริงๆ น่าจะสลับกันมากกว่านะ) เป็นผลงานของ อิชิกิ มาโคโตะ เคยมีผลงานตีพิมพ์ในบ้านเราอีกเรื่องหนึ่งคือ เปียโนป่า (Piano no Mori) งานของอาจารย์มาโคโตะเป็นลายเส้นง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด ตัวละครไม่ได้เน้นความสมจริงแต่แสดงสีหน้าอย่างได้อารมณ์ ฉากหลังสวยงาม ยิ่งถ้าได้ชมเวอร์ชั่นอนิเมชั่นภาพทำออกมาได้สวยงามมากสีสันสดใส เจ้าฮานาดะตัวเอกนั้นบางทีก็ดูน่ารักน่าชังและในบางโอกาสก็น่าเตะไปพร้อมๆ กัน
เริ่มเรื่องเราจะได้รู้จักกับความแสบของเจ้า ฮานาดะ อิจิโร่ เด็กชายตัวแสบประจำหมู่บ้านที่เที่ยวเกะกะระรานไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ขี้โวยวาย กินเก่ง ขี้เกียจ เอาแต่ใจ ชอบแกล้งคน รังแกสัตว์ ฯลฯ แต่ดันกลัวผีขนาดหนัก ถึงจะแก่นแก้วยังไงก็ยังใสซื่อประสาเด็กบ้านนอกนั่นแหละ แต่แล้วเจ้าอิจิโร่ก็เจอดีจนได้ หลังจากก่อวีรเวรทำทีวีเครื่องเดียวของบ้านพังจนโดนแม่ไล่กระทืบ โชคร้ายที่อิจิโร่ทะเล่อทะล่าจนโดนรถบรรทุกชนเข้าให้ จากนั้นชีวิตของไอ้เด็กเวรนี่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้อิจิโร่มีสัมผัสพิเศษสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ แล้วไอ้เด็กที่เสือกกลัวผีจนขึ้นสมองดันต้องมาเจอผี เหมือนกรรมตามสนองเมื่ออิจิโร่ต้องคอยทำความคำขอร้องของผีต่างๆ ที่มาขอร้องให้เขาช่วยสะสางสิ่งที่ยังค้างคาใจก่อนจะไปสู่สุขคติ ความฮาปนความเศร้าก็เริ่มจากตรงนี้แหละเมื่ออิจิโร่พาผู้อ่านไปพบกับชีวิตที่หลากหลาย ทั้งขำทั้งฮาและรันทดไปพร้อมๆ กัน
ถึงจะต้องจำยอมปฏิบัติภาระกิจด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่ด้วยจิตใจลึกๆ ที่เป็นคนมีน้ำใจ อิจิโร่ช่วยเหลือให้วิญญาณอย่างเต็มกำลัง (คือมันกะทำให้เสร็จๆ ไป จะได้ไม่เจอผีอีก) วิญญาณทั้งหลายต่างก็มีปมคาใจที่ต่างๆ กันไป อย่างวิญญาณเด็กชายที่เป็นห่วงคุณแม่ที่สติแตกหลังจากเขาตายไป วิญญาณคุณพ่อของโชตะเพื่อนรักของอิจิโร่ วิญญาณของโอริตะเด็กเรียนที่ตายไปทั้งๆ ที่ยังเวอร์จิ้น วิญญาณของ “โป๊กเผียะ” คุณปู่จอมเฮี้ยบที่ยังคาใจกับความหลังครั้งวัยหนุ่ม (ตอนนี้ฮามาก แต่จบอย่างซึ้ง) จนกระทั่งวิญญาณเด็กหญิงรินโกะ ที่เศร้าได้ใจมาก หลายคนเสียน้ำตาไปกับตอนนี้ และอีกหลากหลายวิญญาณที่มาขอร้องให้อิจิโร่ช่วย …จนสุดท้าย เรื่องราวก็มาขมวดปมที่วาระสุดท้ายของอิจิโร่!
ในตอนที่พบกับวิญญาณของรินโกะคือตอนที่บีบหัวใจผู้อ่านมากที่สุด นี่อาจเป็นครั้งแรกที่อิจิโร่พยายามทำเพื่อคนอื่นด้วยความรู้สึกที่แท้จริงและเต็มใจมากที่สุด รินโกะเมื่อยังมีชีวิตอยู่ถูกขายให้กับแม่เล้าด้วยวัยเพียงสิบขวบ แน่ล่ะ แม้การ์ตูนจะไม่ได้บอกอย่างตรงๆ แต่ผู้อ่านก็พอจะรู้ได้ว่าชะตากรรมของรินโกะจะเป็นอย่างไร เด็กหญิงหนีกลับบ้านก่อนจะถูกไล่ตามและพลัดตกลงไปในหุบเขา พระรูปหนึ่งได้สร้างรูปปั้นเล็กๆ ไว้ที่นั่นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ จนกระทั่งมีชาวบ้านมาพบแม่ของเด็กหญิงมากอดรูปปั้นร้องไห้อาลัยถึงบุตรสาว และเธอก็สิ้นใจอยู่ที่นั่น
แม้ขาเจ็บจนเดินแทบไม่ไหว แต่เธอก็ออกตามหาลูกชายตัวแสบอย่างไม่ท้อ … แล้วดูไอ้เด็กเวรนี่สิ มันเรียกแม่ว่าศัตรู เป็นอารมณ์ขันน่ารัก ๆของอาจารย์มาโคโตะ
อิจิโร่พยายามนำรูปปั้นกลับขึ้นวางที่เดิมจนเกินขีดจำกัดของร่างกาย ฉากนี้เราได้เห็นความรักอย่างที่สุดของคนที่เป็นแม่ … แม่ของอิจิโร่ที่เขาเกลียดมาตลอด ทั้งอ้วนตุ๊ต๊ะ ชอบตีเขา ชอบดุด่าเขา ทำโทษเขาด้วยการขังไว้ในห้องเก็บของ ไม่ยอมซื้อทีวีสีให้ซักที แต่แม่คนนี้แหละที่ออกตามหาอิจิโร่อย่างทุลักทุเลแม้ขาจะเจ็บจนเดินแทบไม่ได้
ผู้เขียนเขาพยายามบอกเราว่า เมื่อคุณมีชีวิตอยู่ อยากให้เราใช้มันอย่างคุ้มค่า ความดีน่ะทำไปเถอะ เรื่องชั่วๆ อย่าได้ไปทำ เพราะมันจะตามมาหลอกหลอนคุณทีหลังต่อให้คุณตายไปแล้วก็เถอะ ชีวิตมันเป็นสิ่งมีค่าอย่าใช้มันอย่างสิ้นเปลือง แม้บางอย่างที่เราทำอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าตั้งใจทำอย่างเต็มที่ อย่างน้อยมันก็คงไม่มีอะไรค้างคาใจ แต่ในทางกลับกันผู้เขียนก็สะท้อนถึงความเป็นปุถุชนอย่างเราๆ ท่านๆ ที่ไม่ว่าจะยังอยู่หรือตายไปแล้วก็ยังไม่ยอม “ปล่อยวาง” ถ้าอยากไปอย่างสบายไม่มีทุกข์ก็จงปล่อยวางมันซะ ชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งในโลกปัจจุบันและโลกหลังความตาย
วิญญาณแต่ละดวงที่มาให้อิจิโร่ช่วยต่างก็ยังไม่ปล่อยวาง พวกเขายังคงมีห่วงทั้งที่พวกเขาควรจะไปยังที่ที่เขาควรไปได้แล้ว อย่างที่เขาว่า คนที่ยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่สามารถหวนคืนมาได้ สิ่งที่ทำได้คือมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติและยอมรับความเป็นจริง
ท้ายที่สุดอิจิโร่ก็มองชีวิตในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม รู้จักความหมายของชีวิต รู้จักที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของแต่ละชีวิตสังคม เชื่อว่าหากท้ายสุดแล้วเขาจะยังมีสัมผัสพิเศษนั้นอยู่ อิจิโร่คงจะเติบโตเป็นคนที่เข้าใจชีวิตที่สุดในโลกกระมัง
ผีซ่าส์กับฮานาดะ เป็นลิขสิทธิ์ของมหาอำนาจการ์ตูนไทย วิบูลย์กิจ คอมมิคส์ ตีพิมพ์ออกมาครั้งแรกราวปี ๒๕๓๘ พิมพ์ออกมาอีกครั้งเมื่อซักปีก่อน ตอนนี้หายากแล้ว ตามร้านเช่าอาจจะพอมีบ้าง มีออกเป็น CD แล้วด้วยถ้าสนใจลองไปตามหามาดู รับรองว่าซึ้งถูกใจแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าช่อง ๙ เคยเอามาฉายด้วย และที่ญี่ปุ่นก็เอามาทำเป็นภาพยนตร์แล้วด้วย
จาก
https://janghuman.wordpress.com/https://www.youtube.com/v//sRVpvAGLcXk https://youtu.be/sRVpvAGLcXk?si=-jPsHmU4a2ebWzUw