ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อธรรมคำสอนของพระธรรมสิงหบุราจารย์ 1  (อ่าน 3222 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=ebwdz2fct00[/youtube]

ญาติโยมเอ๋ยโปรดได้ทราบไว้เถอะ บุญกรรมมีจริง บาปมีจริง ยมบาลจดไม่มี จิตนี้เป็นผู้จด จดทุกวัน คือ อารมณ์เรื่องจริงแน่ จดทุกกระเบียดนิ้ว บาปบุญคุณโทษบันทึกเข้าไว้ พอวิญาณออกจากร่างไป มันก็ขยายออกมาใช้กรรมไป ถ้าเราทำดีก็ไปบังเกิดในสวรรค์ ทำชั่วก็ลงนรกไปแบบนี้อาตมามาคิดดูนะว่าสวรรค์อยู่บนฟ้า นรกอยู่ใต้ดินก็คงไม่ใช่ ดูตัวอย่างที่เคยเล่าให้ญาติโยมฟัง
ตาเล่งฮ่วย ผูกคอตาย วิญญาณไปเข้ายายเภา ยายเภาเป็นคนไทยแท้ ๆ เกิดพูดภาษาจีนได้ ตอนนั้นอาตมาเป็นหมอไล่ผีแต่ไม่มีคาถาถ้าเป็นหมอผีไม่ต้องใช้คาถา ทำปากขมุบขมิบ เทน้ำมนต์ราดส่งไป ผีจริงก็ร้อง ผีปลอมก็ร้อง พวกนี้โดนน้ำไม่ได้หรอก ร้องหมด อาตมาจับผีได้หมดแล้วคนที่
เป็นลมเพลมพัดไม่ต้องเสกคาถาหรอกเอาน้ำพ่นไปยังร้องเลย ร้องหวีดหวาด ๆ คนสติไม่ดี ไม่ใช่อะไรหรอก คนไม่ดีสติเขาสวดภาณยักษ์กัน คนไม่มีสติดิ้นกันจะตาย คนมีสติเขาเฉย นี่จำไว้ มีสตินี่มีประโยชน์ คนไม่มีสติผ้เจ้าเข้าสิงมีคนมาตามอาตมาไป พอไปถึงนายเภาพูดเป็นภาษาจีน เลยต้องให้เรือไปตามตาแป๊ะเลี่ยงเกี๊ยกไว้ผมเปีย เป็นลุงเขยอาตมาให้มาเป็นล่าม เขาบอกไม่ต้องไล่เขา เขาอยู่กับฮ่วยเซียเถ้า อยู่ตรงใกล้วัดพรหมบุรีนี่เอง อาตมาถามว่า{ฮ่วยเซียเถ้า} คือใคร ทำไมถึงไปอยุ่กับฮ่วยเซียเถ้า เขาบอกชื่อ หลวงตามด เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางพรหมนคร อยู่เหนือปากบางนี่เองอยู่ด้วยกัน ๒ คน ขุดดินถมถนนทุกวัน ถ้าไม่ขุดดินเขาเฆี่ยนตี และฮ่วยเซียเถ้าก็ขุดดินด้วยอาตมาได้ถามคนเฒ่าคนแก่ชื่อ บัวเฮง อยู่ตลาดปากบาง บอกว่า ฮ่วยเซียเถ้ามีจริง ชื่อสมภารมด อยู่วัดกลาง เป็นสมภารวัดจะสร้างถาวรวัตถุของวัด แต่เงินทองถูกมัคนายกโกงไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไร เสียใจเลยผูกคอตาย

อั๊วมาบอกให้ลื้อไปบอกหลานสาวอั๊วนะว่าทำบุญไปให้อั๊วไม่ได้นะ อย่าทำเลยแล้วกินที่ไหนล่ะ

อั๊วกับฮ่วยเซียเถ้าไปกินตามกองขยะที่เขาเอาเศษอาหารมาทิ้งกับหนอน

เอ้า ! ที่ดี ๆ ทำไมไม่กินล่ะ

ไม่มีใครให้กิน มีอีกพวกหนึ่งขุดถนนเหมือนกัน แต่เขามีข้าวกิน พวกอั๊วไม่มีข้าวกินต้องไปกินที่มันเหลือๆ จึงจะกินได้ ไปบอกหลานสาว อั๊วชื่อเจีย นะ บอกว่าไม่ต้องทำบุญไปอั๊วไม่ได้ ถ้าลื้ออยากทำบุญให้อั๊วนะ ฮ่วยเซียเถ้ามดบอกกับอั๊ว บอกให้ลูกหลานเจริญวิปัสนานะและวจะได้
อาตมาก็มาบอกเจ๊เจียว่า ตาเล่งฮ่วยให้เจริญกรรมฐานแต่กลับถูกว่า บ้าบอคอแตกเสียอีก
ตา เล่งเฮียฮ่วยบอกว่า ที่อั๊วผูกคอตายนี่ไม่ใช่อะไร อาเจียไม่ให้เงินอั๊วกินยาฝิ่น อั๊วกิรวันละ ๕ บาท ตักน้ำให้เขาทำขนมขาย ไม่ตักให้ เขาก็ไม่ให้
อั๊วกินยาฝิ่น อั๊วก้เสียใจผูกคอตาย ตายไปแล้วก็ไม่มีใครให้กิน ฮ่วยเซียเถ้าบอกให้ลูกหลานเจริญวิปัสสนาจึงได้
อาตมา ถามว่า{ฮ่วยเซียเถ้า}บวชเป็นสมภารเจ้าวัด ทำไมไม่{เจริญกรรมฐาน} มาผูกคอตายเขาบอกว่าไม่ได้ทำ ๆ อาตมาจดและจำไว้จนบัดนี้ อาตมาถามว่า ลื้ออยู่วัดไหนล่ะ อั๊วอยู่ตรงนี้เอง อั๊วเห็นลื้อทุกวัน ลื้อเดินไปอั๊วก็ทักว่าอีไปไหนนะ แต่ลื้อไม่พูดกับอั๊วอาตมาถามว่า ขุดถนนที่ไหน
ก็ชี้ที่ตรงนั้น แต่ไม่เห็นมีถนน ก็ได้ความว่าเราเดินไปตลาดบ้านเหนือบ้านใต้ เขาเห็นเราหมด เขาทักแต่เราไม่รู้เรื่อง อาตมาถามต่อไป
ลื้อ มีความเป็นอยู่อย่างไรเขาบอกว่า ถ้าถึงวันโกนวันพระเขาให้หยุดงาน ที่มานี่เป็นวันโกนหยุดงานแล้ว เดี๋ยวอั๊วต้องรีบกลับ เดี๋ยวเขาจับได้ เขาตีอั๊ว หนีมาบอกหน่อยเท่านั้นเองสรุปได้ความว่า การ ที่ฆ่าตัวตาย ผูกคอตาย ญาติพี่น้องทำบุญให้ไม่ได้ผลแน่ ต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐานแผ่ส่วนกุศล จึงจะได้รับผล เพราะผีมาบอกอย่างนี้ โยมจะเชื่อหรือไม่ ไม่เป็นไรนะ ก็นึกเสียว่าโยมทำวิปัสสนากรรมฐานไปก็จะได้รับผลว่า บุญบาปมีจริง นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่ประการใดวันนี้อาตมาก็ขออนุโมทนาสาธุการส่วนกุศลท่าน ทั้งหลายมาบำเพ็ญกุศล เจริญวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการเจริญสติปัฏฐานสี่ เจริญกาย เวทนา จิต ธรรม ตั้งพิจารณา โดยปัญญาตลอดกระทั้ง ยืน เดิน นั่ง นอน จะคู้เหยียดขา
ทุกประการก็สติครบรับรองได้เลยว่า ถ้าโยมทำถึงขึ้นปิดประตูอบายได้เลย นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน โยมจะไม่ไปภูมินั้นอย่างแน่นอน
เพราะเหตุใด เพราะอำนาจกิเลสทั้งหลาย โลภะ โทสะ โมหะเกิดขึ้นโยมก็กำหนด ขณะมีโลภะ ก็กำหนดโลภะก็หายไปจิตวิญาณตายขณะมีโลภะ
ตายไปเป็นเปรต กำลังมีโทสะตายไปขณะนั้นลงนรก มีโมหะรวบรวมอยู่ในจิตใจไว้มากต้องไปเกิดเป็นสัตว์เสรัจฉานอยางแน่นอนถ้ามีสติปัฏฐานสี่
มีสติสัมปชัญญะดี อบายภูมิก็ไม่ต้อง ไปปิดนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานทางอายตนะ ธาตุอินทรีย์ ดังที่กล่าวมาแล้วทุกประการขอกุศลที่
ญาติ โยมได้บำเพ็ญไปแล้ว ๒-๓ วาระที่ผ่านมา จงเป็นพลวะปัจจัยดลบันดาลย้อนกลับเป็นบุญกุศลให้แก่ญาติโยมทั้งหลาย ประสบความสุขสันตินิรันดรทุกท่าน และจงพยายามก้าวหน้าผ่านเกาะแก่งทุรกันดารผ่านอุปสรรคฝั่งฟาก คือ พระนิพพาน โดยทั่วหน้ากัน ณ.โอกาสบัดนี้เทอญ


พระธรรมสิงหบุราจารย์ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 06, 2010, 08:15:50 pm โดย กัลยา »
ชิเน กทริยํ ทาเนน


ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: ข้อธรรมคำสอนของพระธรรมสิงหบุราจารย์ 1
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 06, 2010, 08:28:39 pm »
 :13: อนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณครับพี่กัลยา
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ข้อธรรมคำสอนของพระธรรมสิงหบุราจารย์ 1
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 04:46:10 am »
 
 
 
                                                :19: :13: