วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า โดย หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย
ณ บัดนี้ถึงเวลาของการแสดงธรรมะปาฐกถา อันเป็นหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้ว
ขอให้ทุกคนอยู่ในอาการสงบ ตั้งอกตั้งใจฟังให้ดี เพื่อให้ได้ประโยชน์อันเกิดจากการฟังตามสมควรแก่เวลา
ขณะนี้อากาศเริ่มร้อน ญาติโยมคงจะรู้สึกร้อน ร้อนผิวกายเพราะอากาศมันทำให้ร้อนก็ได้เย็นก็ได้
หน้าหนาวก็ทำให้รู้สึกหนาว หน้าร้อนก็รู้สึกว่ามันร้อน อันนี้มันเป็นเรื่องของดินฟ้าอากาศ
ซึ่งเป็นไปตามจักราศี หมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ ในปีหนี่งเราก็พบฤดูร้อน ฤดูฝน ไปเจอกันฤดูหนาวกับภาคกลาง
แต่ว่าทางภาคใต้นั้นมีแต่ร้อนกับฝนเท่านั้น เวลาหนาวคนก็บ่นว่าหนาว เวลาร้อนก็บ่นว่าร้อน
ตอนไหนที่จะดีนั้นดูเหมือนว่าจะหายากสำหรับมนุษย์เราทั้งหลาย เคี่ยวเข็ญในเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
ร้อนไป ก็ไม่ดี หนาวไปก็ไม่ดี ฝนตกมากก็ไม่ดี เลยก็เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนทางใจ
เพราะไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยเฉพาะในเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่ว่าความร้อนความหนาวที่เกิดขึ้นนั้น
สมัยนี้โลกมันเจริญด้วยวิทยาศาสตร์ ก็มีการปรับปรุงได้ เช่นร้อนไปก็เปิดพัดลมได้ แต่เปลืองไฟนิดหน่อย
หนาวไปก็มีเครื่องทำให้อุ่นได้สำหรับเมืองหนาว
แต่ถ้าหนาวหนักเกินไปก็ทำไม่ไหวเหมือนกัน ร้อนหนักไปก็ทำไม่ไหว
ความร้อนในเมืองไทยเรานี้ความจริงก็ไม่รุนแรง
สู้ความร้อนในประเทศอินเดีย หรือในประเทศตะวันออกเขาไม่ได้ มันร้อน มันร้อนที่สุด
อากาศร้อนนี้ร้อนเหลือทน ร้อนจนปวดหัว ถ้าใครคิดจะฆ่าตัวตายนี่ไม่ลำบากในประเทศนั้น
เวลาแดดเปรี้ยงๆ ออกจากบ้านเดินฝ่าแดดไป ไม่ถึงสามกิโลก็เรียบร้อย อีแร้งได้กินเท่านั้นเอง
เพราะความร้อนทำให้เป็นลมชักดิ้นชักงอไป
ในหน้าหนาวถึงจะไปเดินตากหนาวมันก็ไม่ตาย คนในอินเดียเขาไม่ตายหน้าหนาว ตายน้อย
แต่พอถึงฤดูร้อนแมลงวันก็ชุม ยุงก็ชุม โรคระบาดก็ชุมคนก็ตายกันมาก เพราะอาศัยความร้อนที่เกิดขึ้นทางร่างกาย
แต่ว่าความร้อนทางร่างกายนี้ก็ไม่รุนแรงอะไร สู้ความร้อนทางจิตใจไม่ได้
ความร้อนทางใจนั้น ทำให้กายร้อนมากขึ้น แต่ถ้าใจไม่ร้อนสิ่งทั้งหลายก็เรียบร้อย
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องช่วยทำใจให้ สบายไว้ อย่ามันร้อนมากเกินไป
ใจจะร้อนก็เพราะอะไร ก็เพราะมีไฟเกิดขึ้นในใจ เรียกว่าไฟกิเลส
เพราะฉะนั้นที่เราสวดมนต์ว่า พระพุทธเจ้าท่านดับไฟเพลิงกิเลสทุกข์ได้สิ้นเชิง ดับเพลิงกิเลสได้แล้วก็ดับเพลิงได้
ถ้าดับเพลิงกิเลสไม่ได้เพราะฉะนั้นเรื่องความร้อนใจนี่ จึงหนักกว่าความร้อนทางกาย แม้ว่ากายจะร้อน
ถ้าใจเย็นแล้วมันก็เหมือนกับไม่ร้อน แต่ถ้าใจร้อนแม้กายเย็นก็เหมือนกับร้อน เช่น เราร้อนอกร้อนใจ
นั่งอยู่ในห้องปรับอากาศ ก็ยังร้อนใจอยู่นั่นเอง ร้อนใจนี่จึงสำคัญกว่าร้อนกาย
เป็นเรื่องที่เราจะต้องแก้ไขความร้อนทางจิตใจ ความร้อนทางจิตใจเกิดจากไฟคือกิเลส ที่มาแผดเผาใจให้เร่าร้อน