อิ่มกาย อิ่มใจ > ศาสตร์สุขภาพแห่งการบำบัด
เวลา เชื่อมโยงกับการหมุนเวียนของระบบร่างกายยังไง ???
(〃ˆ ∇ ˆ〃):
เวลากับสุขภาพแบบฉบับของจีน
ทั้งหมดนี้เป็นการหมุนเวียนของพลังงานในร่างกายใน 24 ชั่วโมง
เป็นทฤษฎีการดูแลสุขภาพของจีนที่มีอายุมากว่า 5000 ปี
เวลา 21.00-23.00 น. ร่างกายจะสะสมพลังงานรวม..
พลังงานของร่างกายจะสร้างช่วงนี้เท่านั้น..จึงควรพักผ่อนเข้านอน 3 ทุ่ม ถ้าหากไม่เข้านอนช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะมีพลังงานเพื่อช่วยเหลือกระบวนการให้ร่างกายทำการสะสมพลังงานได้ไม่เต็มที่ ผลคือจะทำให้ร่างกายมีพลังงานสะสมไม่เพียงพอในการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ให้สะอาดแข็งแรงสำหรับวันต่อไป
เวลา 23.00-01.00 น. พลังงานที่สร้างขึ้นจะเคลื่อนเข้าสู่ถุงน้ำดี..
ร่างกายจะนำไปล้างถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีแข็งแรง ในการย่อยไขมันที่จะไปเปลี่ยนรูปเป็นฮอร์โมนเปลี่ยนรูปเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ไขสมอง น้ำหล่อเลี้ยงในร่างกายทั้งหมด และจะย่อยไขมันช่วง ห้าทุ่ม ถึงตีหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราไม่พักผ่อนในช่วงนี้ ไขมันพวกนี้จะตกตะกอนอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายเราเช่น ถุงไขมันใต้ตา มีพุง สมองเลอะเลือนง่าย ปวดไหล่ และตรงลำไส้จะปวดท้องง่าย ท้องเสีย หรือท้องผูกง่าย
เวลา 01.00 - 03.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ตับ...
ตับจะเริ่มทำงานโดยใช้พลังงานที่สะสมไว้ หน้าที่ของตับ คือสะสมอาหารสำรองให้กับร่างกายและกำจัดของเสียให้กับร่างกาย ตลอดจนผลิตน้ำดี และส่งไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ถ้าช่วงนี้เรายังไม่หลับนอน ยังทำงานอยู่ร่างกายจะสูญเสียพลังงานส่วนที่สะสมไว้ไป ตับจะทำงานหนักและอ่อนแอ การสะสมพลังงานสำรองลดลง การผลิตน้ำดีลดลง และจะส่งผลกระทบการทำงานของตับอ่อน
ขณะเดียวกันก็ส่งผลการผลิตฮอร์โมนอินซูลีนลดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือโรคภัยไข้เจ็บ คนที่ไม่พักผ่อนในช่วงนี้ จะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตแปรปรวน โรคเก๊าท์ โรครูมาตอยส์ รูมาติซึ่ม อาการภูมิบกพร่องต่างๆ เบาหวาน หัวใจ กระดูกเสื่อม แต่ถ้าพักผ่อนระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวได้ จากตับพลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอดในช่วงเวลาจีสามถึงตีห้า
เวลา 03.00 - 05.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอด
ถ้าปอดแข็งแรงคุณจะหลับสนิทในช่วงนี้ แต่ถ้าคุณเป็นโรคปอดหรือสูบบุหรี่ จะรู้สึกไม่สบายตัว เราจะถูกปลุกให้ตื่นในช่วงนี้ จะไอและหายใจขัด เพราะพลังงานจะสะสมไว้ฟอกอากาศบริสุทธิ์ เมื่อปอดไม่ดีพลังงานจะสะสมไว้ไม่ได้ และจะส่งผลให้ร่างกายไม่มีอากาศบริสุทธ์ไว้ฟอกโลหิตต่อไป
เวลา 05.00 - 07.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่
เป็นช่วงที่เราต้องถ่ายอุจจาระ ร่างกายจะต้องเอาของเสียทิ้งให้หมดก่อน 07.00 น. ถ้าไม่ถ่ายในช่วงเวลานี้ ร่างกายจะเริ่มดูดซึมกากของเสียเข้าสู่ระบบเลือด จะดูดซึมของเก่าเข้าไปใช้งาน เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า และในช่วงนี้ควรออกกำลังกายและสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อไปทำให้ลำไส้ใหญ่ขยับตัวและเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนของเสีย จะได้ถ่ายเอาของเสียทิ้งให้หมดก่อนเจ็ดโมงเช้า และให้ลำไส้ใหญ่พร้อมที่จะรับอาหารใหม่เข้ามาในช่วงถัดไปและผลิตเม็ดเลือดส่งให้กับหัวใจเพื่อนำไปเป็นพลังงานไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายต่อไป
เวลา 07.00 - 09.00 น. กระเพาะอาหารจะทำงานได้สูงสุดในช่วงนี้เท่านั้น
เราจะต้องรับประทานอาหารเช้า เพราะกระเพาะอาหารจะย่อยได้ดีที่สุด และสูงที่สุดในช่วงเวลานี้เท่านั้น ช่วงอื่นๆจะทำได้น้อยกว่า ช่วงนี้กระเพาะอาหารของเราต้องการอาหาร และกระเพาะอาหารจะหลั่งน้ำย่อยมากที่สุดในช่วงนี้ ฉะนั้นพวกที่ไม่กินอาหารเช้า หรือกินอาหารไม่เพียงพอกินแต่เพียงกาแฟ โรคกระเพาะจะถามหาเพราะมันจะย่อยตัวมันเอง ที่สำคัญจะทำให้เกิดโรคหัวใจด้วย เพราะมันไม่ได้สารอาหารสำหรับอวัยวะเพื่อกลับไปสร้างพลังงานรวม
เวลา 09.00 - 11.00 น. ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรอง
ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรอง เก็บสารอาหาร เก็บทุกอย่างที่กระเพาะย่อยเต็มที่แล้ว และถ้าเราไม่กินเราจะเลี้ยงพลังงานสำรองออกมาใช้ ในขณะที่ดึงพลังงานสำรองออกมาใช้ พลังงานรวมเราจะหายไปเราจะอ่อนเพลีย และเริ่มไม่มีเรี่ยวแรง
เวลา 11.00 - 13.00 น. พลังงานจะเคลื่อนที่ไปที่หัวใจ
หัวใจเราจะแย่ถ้าไม่มีสารอาหาร เพราะไม่พลังงานจะไปสูบฉีดโลหิตเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย หัวใจจะทำงานหนัก ฉะนั้นคนที่เป็นโรคหัวใจวายมักจะเกิดก่อนเที่ยง หรือหลังจากรับประทานอาหารเที่ยง คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะเป็นโรคหัวใจล้มเหลวได้ง่าย
เวลา 13.00 - 15.00 น. พลังงานจะเคลื่อนสู่ลำไส้เล็ก...
ถ้าสมมุติเราไม่ได้กินอาหารเช้า อาหารที่มารอย่อยในลำไส้เล็กก็จะไม่มี เราก็จะย่อยลำไส้เล็กของเราแทน ลำไส้เล็กจะเริ่มอ่อนแอ เพราะลำไส้เล็กมีหน้าที่เปลี่ยนรูปพลังงานจากสารอาหารต่างๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ ทุกอย่างตรงนั้นเพื่อให้เป็นพลังงานทั้งหมด ถ้าไม่มีสารอาหารแล้วหรือลำไส้เล็กอ่อนแอร่างกายจะเอาพลังงานที่ไหนมาสะสมหรือใช้ต่อไป
เวลา 15.00 - 17.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่กระเพาะปัสสาวะ
เมื่อลำไส้เล็กทำงานมากโดยการเปลี่ยนรูปพลังงานมากที่สุด เราจะเริ่มมีของเสีย กระเพาะปัสสาวะจะเริ่มทำงานหนักมากที่สุด ถ้าช่วงนี้ร่างกายขาดน้ำร่างกายก็จะดึงน้ำในส่วนต่างๆของร่างกายออกมาใช้เพื่อขับถ่ายของเสีย กระเพาะปัสสาวะจะทำงานมากที่สุดในช่วงเวลานี้
เวลา17.00 - 19.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่ไต
ช่วงเวลานี้เราไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะไตทำงานหนักอยู่แล้ว เพื่อกรองสารพิษหรือขับถ่ายของเสีย ถ้าเราออกกำลังกายอาจทำให้ไตวายได้ หรือเวียนหัวง่าย ตาพร้าง่าย ปวดศีรษะง่าย
เวลา 19.00 - 21.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่กล้ามเนื้อหัวใจ
หลังจากหนึ่งทุ่มเราต้องพักผ่อนเพราะกล้ามเนื้อหัวใจจะต้องทำหน้าที่ฟอกเลือดที่ร่างกายนำไปใช้วันนี้ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในวันต่อไป ถ้าเราไม่พักผ่อนเลือดเราจะข้น จะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนัก จะไม่ได้ซักล้างตัวเอง จะทำให้เป็นโรคหัวใจโตได้ หลังจากช่วงเวลานี้ร่างกายจะเตรียมพร้อมเพื่อสะสมพลังงานรวมใหม่อีกครั้งเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน จนกว่าร่างกายทั้งระบบจะไม่มีผู้ควบคุมอีกต่อไป คือ ดวงจิต หรือวิญญาณ ร่างกายก็จะตายและกลับคืนสู่สภาพของธรรมชาติที่มาจากธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:06: พี่มะลิเก่งจัง เหมือนเคยโพสบอร์ด SMF แบบเชี่ยวชาญ เก่งกว่าผมซะอีก 55+
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
(〃ˆ ∇ ˆ〃):
นึกว่ามั่วเก่งคนเดียวหรอ พี่ก็มั่วเป็นนะเฟ้ย 555+
Pure+:
เวลา.. เชื่อมโยงกับการหมุนเวียนของระบบร่างกายยังไง?... ไม่รู้(ทึบ)
รู้แต่ว่า เวลา... เชื่อมโยงกับการเดินทางของหัวใจฉันไว้ตลอดเส้นทาง..
:yoyo064: เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ และสองเราก็ยังหมุนรอบตัวเอง.. :12:
ฐิตา:
:17: พี่แป๋มสมัครไม่ได้ค่ะ ตามลิ้งค์คุณมดมา.. :19: รอสองหนุ่มก่อน ดีใจ!
คิดถึงทู๊กก.. คนเล้ยย...
ฐิตา
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version