อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี > หลวงพ่อชา สุภทฺโท
ต้องรู้อยู่ตลอด
ตถตา:
ต้องรู้อยู่ตลอด โดย หลวงพ่อชา สุภัทโท
ถ้าหากว่า เราเผลอไปนาทีหนึ่ง ก็เป็นบ้านาทีหนึ่ง
เราไม่มีสติสองนาที เราก็เป็นบ้าสองนาที
ถ้าไม่มีสติครึ่งวัน เราก็เป็นบ้าอยู่ครึ่งว้น เป็นอย่างนี้
สตินี้คือความระลึกได้ เมื่อเราจะพูดอะไร ทำอะไร
ต้องรู้ตัวเราทำอยู่ เราก็รู้ตัวอยู่ ระลึกได้อยู่
อย่างนี้คล้ายๆ กับเราขายของอยู่ในบ้านเรา
เราก็ดูของของเราอยู่คนจะเข้ามาซื้อของ หรือขโมยของของเรา
ถ้าเรา สะกดรอยมันอยู่เสมอเราก็รู้เรื่องว่าคนๆ นี้ มันมาทำไม
เราจับอาวุธ ของเราไว้ อยู่อย่างนี้
คือ เรามองเห็นพอขโมยมันเห็นเรา มันก็ไม่กล้าจะทำเรา
อารมณ์ก็เหมือนกัน ถ้ามีสติรู้อยู่ มันจะทำอะไรเราไม่ได้
อารมณ์มันจะทำให้เรา ดีใจอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้
มันไม่แน่นอนหรอก เดี๋ยวมันก็หายไป
จะไป ยึดมั่นถือมั่นทำไม อันนี้ฉันไม่ชอบ อันนี้ก็ไม่แน่นอนหรอก...
ถ้าอย่างนี้ อารมณ์นั้นก็เป็นโมฆะเท่านั้น
เราสอนตัวของเราอยู่ เรามีสติอย่างนี้เราก็รักษาอย่างนี้เรื่อยๆ ไป
ตอนกลางวัน ตอนกลางคืน ตอนไหนๆ ก็ตาม
http://fws.cc/leavesofeden/index.php?topic=1573.new#new
แปดคิว:
กรรมฐาน ปราบกิเลส
อารมณ์กรรมฐานนี้
สามารถที่จักทำจิตให้บริสุทธิ์ได้
ฉะนั้นท่านจึงให้หาอารมณ์กรรมฐาน ว่า
อารมณ์อันใดถูกใจ ถูกจริตของเรา
ท่านให้พิจาณา เช่น
เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ
ท่านให้พิจารณากลับไปกลับมา
ถ้าอันโดถูกจริตของเราแล้ว
อันนั้นก็เป็นอารมณ์กรรมฐานของเรา
สำหรับที่จะให้เราได้ใช้เป็นอาวุธ
ในการปราบกิเลสทั้งหลายให้เบาบางลงไป
narissaya
ดอกโศก:
อนุโมทนาค่ะ คุณแฮมฯ
โหลดพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อชา สุภัทโท
ใว้ในMp3 เหมือนกันค่ะ ว่างก็ฟังบ่อยๆ
สงบเย็นดีค่ะ ^_^
:13:
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:13: อนุโมทนาครับ พี่แฮม พี่แทน พี่บัว << ^^ช่างคล้องจ้องทำนองธรรมดีนะครับ
lek:
รู้แจ้งโลก
คนทั้งหลาย เกิดแล้วไม่อยากให้แก่
ไม่อยากให้เฒ่า ไม่อยากให้เจ็บ
ตลอดจนกระทั่งไม่อยากให้ตายทีเดียว
ท่านจึงสอนให้พิจารณาโลก
ให้มีปัญญารู้เท่าทันตามความเป็นจริงของโลก
โลกเป็นอย่างใด ก็ให้รู้เท่าตามเป็นจริง
ถ้าเรารู้จักปัญหาของโลกแล้ว
ก็เหมือนกับเรารู้จักธรรมะ
ก็เหมือนกับเราได้บรรลุธรรมะ
เมื่อรุ้จักธรรมะแล้ว มันก็ “รู้แจ้งโลก”
เมื่อเรารู้แจ้งโลกแล้ว
เราก็ไม่ติดในโลก เป็นโลกวิทู รุ้แจ้งโลก
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version