บล็อก > บทความ (Blog)

ไดอารี่...จิตดวงหนึ่ง

<< < (5/106) > >>

lek:
ความฝันบางอย่าง...ก็ให้ข้อคิดเตือนสติเราได้เหมือนกันนะ
บางครั้งอยากจดความฝันไว้...แต่ต้องจดทันทีทันใดนะ
ไม่งั้นลืมความฝันไปอย่างง่ายๆเหมือนกัน...
ไม่เหมือนเวลาเราดูหนังดูละคร...มันกลับจำได้ดีกว่า
แถมถ้าเราเป็นตัวละครตัวแสดงเองแล้วล่ะก็...
ยิ่งจำได้ดีเลยทีเดียว...ว่าเจ็บช้ำเศร้าโศกดีใจยังไง
แต่บางที...ทั้งความฝันทั้งตอนตื่นที่เป็นเพียงมายานั้น
ก็ทำให้เราหลงไหลไปกับสิ่งที่เจออยู่เป็นประจำ...
หลงไปคิดปรุงแต่งเรื่องราวจากเรื่องแค่นี้...
เอามาแต่งเสริมเพิ่มสรรค์ให้มันเป็นเรื่องราวมากมาย
ได้เหมือนกันนะ...ที่เค้าว่า...เรื่องเล็กๆทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้
เพราะเราที่ไปสร้างเรื่องสร้างราวให้มันมีหลากหลายนั่นเอง :14:

lek:
ห่วงใครมากมาย...จนลืมห่วงตัวเอง
เขาทำอะไรไว้...เขาก็ย่อมได้อย่างที่เขาทำ
ความลำบาก...บางครั้งมันคือความสบายนั่นเอง
ความสบายจนประมาท..บางครั้งมันก็คือความลำบากในไม่ช้า
ความต้องการให้ใครเป็นไปอย่างที่เราต้องการ...นั้นยาก
เพราะแต่ละคนก็มีความคิดการสั่งสมของแต่ละคนไม่เท่ากัน
แม้แต่เราเอง...ต้องการให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ...
ยังยากเลย...เพราะฉะนั้นความต้องการ...หากไม่พอดี...
รู้ไม่ทันความต้องการของตัวเอง...สุดท้ายก็เป็นทุกข์นั่นเอง

lek:
ปัญหาเกิดขึ้น...เพราะความประมาทไม่ได้ไตร่ตรองรอบคอบ
ปัญหาจะหายไป...เพราะใช้สติปัญญาพิจารณาปรับปรุงแก้ไข
ให้ทุกอย่างบรรเทาให้ทุกอย่างเจริญพัฒนาขึ้นเพื่อคลี่คลาย...
แต่ก็มีบางปัญหาที่แก้ยังไงก็แก้ไม่ได้...เมื่อแก้ไม่ได้ในตอนนี้
บางทีก็จำต้องใจเย็นทำใจให้เป็นกลางเสียบ้าง...บางอย่างต้องใช้เวลา
บางอย่างต้องปล่อยวาง...ทุกอย่าง ไม่แน่นอน จะแน่นอนได้เพราะมีเรา

lek:
เรื่องเมื่อมันเกิดขึ้น....
มันมาจากจุดหนึ่งๆ...
เราเป็นตัวกลางเชื่อมโยง
เพื่อไปยังอีกจุดๆหนึ่ง...
หากเราจับมาผูกโยงด้วยกัน
เรื่องก็จะยืดยาวไปอีกเยอะแยะ
หากเราเป็นตัวกลางที่ไม่จับมาเกี่ยวข้อง
เรื่องทั้งสองฝั่งก็จะไม่พบเจอกัน...
จบไปทั้งสองฝั่ง...อาจจะเป็นเช่นนั้น
บางครั้งเรื่องราวทั้งสองฝั่ง...
ก็มิได้ใช้ตัวกลางเช่นเรา....
เพราะบางครั้งเรื่องราวทั้งสองฝั่งนั้น
เปรียบเหมือนคลื่นบ้าพายุโหมที่คลั่ง
กระหน่ำซัดเข้ามาหากันเองไปตามที่จะเป็น
เราได้เป็นเพียงผู้มองดูเรื่องที่บ้าคลั่งซัดเข้าหากัน
และแล้ว....คลื่นเรื่องราวทั้งสองฝั่ง...
ก็เงียบสงบกลับมาเป็นปกติธรรมดาเช่นนั้นเอง

lek:
ทุกคนเกิดมาก็มีปัญหามีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
แล้วแต่ว่าจะเจอทุกข์มากทุกข์น้อย...
ทุกข์นานเรื้อรังหรือทุกข์ผ่านมาผ่านไปแป๊บๆ
แต่ละคนมีช่วงเวลาที่จะหลงผิดไปโดยไม่รู้สึกตัว
บางคนไม่มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดของตัวเอง
บางคนได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดของผู้อื่น...
บางคนก็ได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดของตัวเอง...
สิ่งที่รับรู้เหล่านั้น...เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ซึ่งความผิดพลาดเหล่านั้น...กลับนำมาสอนใจ
ให้ระมัดระวังตนเอง หากเรารู้จักนำมาใช้ปฏิบัติกับเรา

เช่น พ่อของลูก ที่เจ้าชู้ ไปเที่ยวมีผู้หญิงมากมายไม่หยุดหย่อน
สุดท้ายเลือกผู้หญิงคนใหม่ที่ไม่ใช่แม่ของลูก...
ทิ้งทั้งแม่และลูกให้เผชิญชะตากรรมตามลำพัง...
จนวันหนึ่ง...ก็โดยผู้หญิงแต่ละคนทิ้งกลับมาเช่นกัน
ข้อคิดเตือนใจนี้ ทำให้ลูกเห็นว่า ความเจ้าชู้ เป็นบ่อเกิด
ทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนนึง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ของตน
ทำให้ลูกมีความคิดที่จะไม่ทำตามพ่อของตัวเอง...
เพราะการทำร้ายจิตใจผู้อื่น ก็เปรียบเหมือนทำร้ายตัวเอง

หรือไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างที่พ่อเป็นผีพนัน เล่นตั้งแต่หนุ่มจนแก่
ลูกก็ได้เห็นตัวอย่างความผิดพลาดของพ่อ ว่าการเล่นพนันเช่นนี้
ทั้งชีวิตให้อะไรกับครอบครัวและตัวของพ่อบ้าง... สุดท้าย...
การพนันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น มีแต่ล่มจม และละโมบอยากได้
จนเป็นหนี้เป็นสิน เพราะความโลภ มีอาการคันมือคันไม้เมื่อไม่ได้เล่น
หงุดหงิด อารมณ์เสีย ตะเกียกตะกายหาเงินเพื่อที่จะไปเล่นพนันให้ได้
สุดท้ายบั้นปลาย ก็ไม่ได้มีอะไร มีเพียงตัวอย่างของผีพนันคนหนึ่ง...
ที่ยังโหยหาอยากไปเล่น แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะไปเล่นได้...
สุดท้ายก็ต้องยอมจำนน และไม่ได้เล่นในที่สุด ...เมื่อไม่ได้เล่น...
ก็ทำใจ และยังบอกกล่าวชี้โทษของการเล่นพนันให้เห็นโทษได้อีกด้วย

ยังมีอีกหลายตัวอย่างของคนที่ทำสิ่งผิดพลาดมากมาย
แล้วให้ประโยชน์สำหรับผู้ที่รู้จักนำมาพิจารณาให้เกิดประโยชน์
ในความผิดพลาด ย่อมให้บทเรียนอันล้ำค่า หากรู้จักพิจารณา
ในความถูกต้อง ย่อมให้ความหลงระเริง หากไม่รู้จักพิจารณา

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version