๒๗ ถาม ทาง นั้นเป็นอย่างไร และต้องเดินมันอย่างไร ?
ตอบ เธอจะสมมติให้ ทาง นั้นเป็นของคนชนิดไหนกันนะ! จนถึงกับเธออย่างจะเดิน ?
ถาม อาจารย์มีคำแนะนำอะไรบ้าง ที่จะให้แก่ศิษย์ในที่ทั่ว ๆ ไป เพื่อปฏิบัติธฺยานะและศึกษาธรรม ?
ตอบ ถ้อยคำต่าง ๆ ที่ใช้เป็นเครื่องดึงดูดความสนใจของพวกปัญญาทึบนั้น ใช้อาศัยอะไรไม่ได้หรอก
ถาม ถ้าคำสอนเหล่าโน้น มุ่งหมายสำหรับพวกปัญญาทึบแล้ว กระผมก็ยังต้องการจะฟังว่า ธรรมะอะไร ที่ใช้สอนพวกที่มีปัญญากว้างขวางจริง ๆ ?
ตอบ ถ้าเขาเหล่านั้นเป็นคนมีปัญญากว้างขวางจริง ๆ แล้ว เขาจะหาพบคนที่เขาควรเดินตาม ได้ที่ไหนเล่า ? ถ้าเขาแสวงหาจากภายในตัวเขา เขาจะพบว่าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว คิดดูเถิดว่าเขาจะพบธรรมะที่ควรแก่ความสนใจของเขา ในที่อื่น ๆ ภายนอกนั้นน้อยมากลงไปอีกเพียงไร ? อย่ามองมุ่งไปยังสิ่งซึ่งพวกนักเผยแผ่ทั้งหลายเรียกกันว่า ธรรมะ เลย เพราะ ธรรมะ ชนิดนั้นจะเป็นธรรมะอะไรที่ไหนได้ ?
ถาม ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เราไม่ควรแสวงหาสิ่งใด ๆ กันบ้างเลยเชียวหรือ ?
ตอบ ด้วยการทำอย่างนั้นแหละ พวกเธอจะประหยัดความเหน็ดเหนื่อยทางจิต ให้เธอเองได้มากที่สุด
ถาม แต่สิ่งทุก ๆ สิ่ง จะต้องถูกขจัดออกไปด้วยการปฏิบัติวิธีนี้แล้วจะว่าไม่อะไรเลย ได้อย่างไรกัน ?
ตอบ ใครเป็นคนเรียกสิ่ง ๆ สิ่งนั้นว่าไม่มีอะไร ? ใครเป็นคนเรียก ? มันมีแต่พวกเธอที่ต้องการจะแสวงหาอะไรสักอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
ถาม ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องแสวงหา ทำไมท่านอาจารย์จะต้องกล่าวว่าไม่ใช่ทุก ๆ สิ่งจะต้องถูกขจัดออกไป ดังนี้ด้วยเล่า ? (มันย่อมหมายความว่า มีสิ่งบางสิ่งเหลืออยู่ให้แสวงหามิใช่หรือ ?)
ตอบ การไม่แสวงหา คือการอยู่สงบ ใครได้บอกเธอ ว่าให้ขจัดมันเสียตะพึดเล่า ? ดูความว่างที่ตรงหน้าเธอนี่ซิ เธอจะสร้างมันขึ้นหรือขจัดมันออกไปได้อย่างไรกันหนอ ?
ถาม ถ้ากระผมสามารถเข้าถึง ธรรมะ นั้นได้เล่า มันจะเป็นเหมือนความว่างนี้ไหม ?
ตอบ อาตมาได้อธิบายให้แก่พวกเธอแล้ว ทั้งเช้าทั้งเย็น ว่า ความว่าง นั้นเป็นทั้ง หนึ่ง และเป็นทั้ง หลายซับหลายซ้อน อาตมากล่าวความข้อนี้ในฐานะที่มันเหมาะสมสำหรับระยะเริ่มแรก แต่พวกเธอก็กำลังสร้างรูปความคิดต่าง ๆ ขึ้นจากมันเรื่อยเปื่อยไป
ถาม ท่านอาจารย์หมายความว่า พวกเราไม่ควรมีการสร้างรูปความคิดต่าง ๆ เหมือนกับที่มนุษย์ธรรมดา เขาทำกันอยู่เป็นปกติดังนั้นหรือ ?
ตอบ อาตมาไม่ได้ห้ามพวกเธอดอก แต่รูปความคิดต่าง ๆ นั้นมันขึ้นอยู่กับอายตนะ เมื่อใดความรู้สึกทางอายตนะเกิดขึ้น ปัญญาก็ถูกปิดบังเสียทันที
ถาม ถ้าอย่างนั้นเราควรหลีกเลี่ยงจากความรู้สึกทุกชนิด แม้ที่เกี่ยวกับ ธรรมะ นั้น ดังนั้นหรือ ?
ตอบ ถ้าในที่ที่ไม่มีความรู้สึก เกิดขึ้นเล่า ใครคนไหน กล้ากล่าวว่า เธอพูดถูก ?
ถาม ทำไมท่านอาจารย์จึงกล่าวราวกับว่า ผมเป็นฝ่ายผิดไปเสียทั้งหมด ในทุกคำถาม ที่ผมได้ถามท่านอาจารย์ ?
ตอบ เธอเป็นบุคคลที่ไม่เข้าใจอะไร ๆ ที่เขาพูดให้ฟัง ไอ้ทั้งหมดที่เรียก ผิด-ผิด นั้น มันอะไรกันนะ ?
ขอบคุณที่มาบันทึกชึนเชา