คลังธรรมปัญญา > ระบาย พรรณาด้วย ฉันทลักษณ์ กาพย์กลอน (อิสระ)
คิดอัดหัดเขียน
lek:
--------------------------------------------------------------------------------
เที่ยวค้นหา เท่าไหร่ ไม่เคยพบ
ไม่รู้จบ กว้างใหญ่ และไพศาล
สุดท้ายแค่ เหลือไว้ เพียงตำนาน
ไว้กล่าวขาน วนกลับ ความทรงจำ
ค้นภายนอก มากมาย ไม่มีหมด
มีไม่ลด หลายหลาก สุดถลำ
หากไม่หยุด ค้นหา เหมือนถูกอำ
จิตลอยลำ ไม่เห็น ใจข้างใน
ค้นตนเอง ให้เจอ ให้เพียรพบ
ได้รู้จบ พอใจ ไม่หลงไหล
ทุกสิ่งนั้น มายา ลวงหลอกใจ
หลงตามไป ถูกหลอก ไม่รู้จริง
ความเป็นจริง เกิดดับ อยู่เป็นนิจ
เพียงยึดติด เหตุผล ใจถูกสิง
หลงในอยาก ไม่ปล่อย เพื่อแอบอิง
เพื่อพักพิง ที่ตน เพียงพอใจ
:19: :19:
ปล่อยความคิดไหลไปดั่งสายน้ำ
แล้วเผลอทำดังคิดจิตสับสน
ทำให้มีเพราะอยากมีตัวตน
หากอดทนรู้ทันมันไม่มี
แต่ก็ยังอดใจไว้ไม่ไหว
ก็เพราะใจถูกอำสิงด้วยผี
หลงชอบชังทุกข์สุขวนย่ำยี
เป็นอย่างนี้รู้ไว้ฝึกรู้ตน
lek:
เพราะมีเธอ ทำให้ฉัน ได้เข้าใจ
ชีวิตใช้ ให้เป็นไป ตามที่เห็น
ทำอย่างไร ย่อมได้อย่าง ตามบำเพ็ญ
ทำให้เป็น เย็นสงบ พบความจริง
อันความทุกข์ วุ่นวายเยอะ น่าปวดหัว
หลงเมามัว แบกเอาไว้ โดนหลอกสิง
วางไม่เป็น ปล่อยไม่ได้ ไม่ยอมทิ้ง
ใจจมดิ่ง สู่ห้วงติด บ่วงผูกพันธ์
อันความสุข มาเพียงครู่ จากไปไว
ความอยากได้ เมื่อไม่ได้ ทุกข์ผวนผัน
เพียงเข้าใจ รู้จักตรึก เพื่อรู้ทัน
ทุกสิ่งอัน อย่าไปยึด เพื่อหลอกตน
อันความมี เกิดขึ้นแล้ว พิจารณา
ด้วยปัญญา มีสติ มีเหตุผล
มองให้ลึก มองให้เป็น จริงหรือกล
รู้อดทน เพื่อข้ามพ้น รู้ตามจริง
:39: :39:
เป็นเพราะเรา ยอมให้ ทุกข์เข้ามา
ยังอุตส่าห์ คิดให้ ทุกข์ตามหลอน
คอยยึดติด แบกทุกข์ ใจอาวรณ์
ห่วงอาทรธ์ ร้อนใจ เผาแผดทรวง
ที่ทุกข์มี เพราะเรา ทำให้ทุกข์
เปิดกรงคุก ขังใจ ทุกข์ตามหวง
หลงแบกไว้ ให้หนัก หลงติดลวง
พันผูกบ่วง ไม่ปล่อย ทุกข์ผูกพันธ์
ทุกข์หนักอึ้ง เพราะใจ ชั่งตวงวัด
ไม่ยอมตัด ทุกข์ไป รู้จัดสรร
เห็นทุกข์แล้ว ยังหลงแบก ไม่รู้ทัน
ทุกข์ก็พัน เกาะใจ มีตัวตน
lek:
ยังคิดถึง ถึงคิด คิดได้ถึง
ยังตราตรึง ถึงกัน มีให้หวล
ยังซาบซึ้ง นึกถึง รู้ไคร่ครวญ
ยังสมควร สำนึก ในบุญคุณ
ควรขอบคุณ ไมตรี มิตรภาพ
ควรก้มกราบ นอบน้อม ใจหยุดหมุน
ควรตั้งจิต ให้นิ่ง ใจการุณ
ควรสร้างบุญ เพิ่มทุน ไม่วุ่นวาย
เพียงผ่านมา เพื่อพบ และจบจาก
ไม่นานพราก ห่างกัน สิ้นสลาย
พบกันแล้ว ลากัน ใจผ่อนคลาย
เกิดอยู่ตาย รู้ทัน ปัจจุบัน
ความเป็นจริง นั้นมี ให้เห็นอยู่
ให้ทันรู้ แค่ดู รู้แปรผัน
อิสระ ผ่องใส แค่รู้ทัน
ทุกสิ่งอัน แค่นั้น แค่นั้นเอง
:13: :13:
เพราะยังมี ลมหายใจ จึงได้คิด
เป็นมิ่งมิตร ติดตราตรึง ถึงความหลัง
บุญคุณนั้น รำลึกได้ ซาบซึ้งจัง
เป็นพลัง กำลังใจ ให้สู้ไป
อันอดีต เป็นประโยชน์ มุ่งสร้างสรรค์
ใจรู้ทัน ไม่เป็นโทษ จิตผ่องใส
ไม่คาดหวัง อนาคต รู้พอใจ
ไม่เป็นไร ปัจจุบัน เท่านี้พอ
:44: :44:
สิบขวบนั้น ยังเด็ก เร่งศึกษา
ยี่สิบมา ต้องการ คนช่วยไข
สามสิบแล้ว สงสัย ยึดรู้ไป
สี่สิบไว เร่งรีบ ทำแต่งาน
ห้าสิบปี เริ่มปลง ในชีวิต
มัวแต่คิด หกสิบ หยิบสงสาร
เจ็ดสิบมา ผมหงอก ผิวหย่อนยาน
แปดสิบผ่าน ป่วยไข้ รุมเร้าใจ
เก้าสิบเยือน เหมือนเตือน ปลงสังขาร
ทรมาน วังวน เร่งแก้ไข
ร้อยปีนั้น กลับเด็ก ทารกไง
คืนกลับไป เกิดตาย หรือดับพลัน
lek:
อันภายนอก นำใจ ให้ลุ่มหลง
ห่วงกังวล เป็นทุกข์ คร่ำครวญหา
เราต้องรู้ มีสติ พร้อมปัญญา
จะรู้ว่า อะไร ยึดติดมัน
เพราะความมี คอยหลอก ให้เป็นทุกข์
อาจเป็นสุข ชั่วคราว แล้วแปรผัน
สุดท้ายแล้ว ต้องปล่อย ทุกสิ่งอัน
ทุกสิ่งนั้น ถ้ายึด ห่วงผูกใจ
:11: :11:
เป็นอย่างไร อยากรู้ อยากจะคิด
อยากจะติด เชื่อมไป ใจห่วงหา
ที่เป็นนั้น เป็นไป ธรรมดา
เป็นมายา ควบคู่ รู้ให้เป็น
เมื่อเกิดขึ้น ย่อมดับ เพราะไม่ต่อ
หากไม่พอ ตั้งอยู่ รู้ทุกข์เข็น
เป็นประจำ เป็นไป ทุกข์เช้าเย็น
เป็นจนเห็น สิ่งเป็น รู้ปล่อยวาง
หากไม่วาง ก็ยึด ที่เป็นอยู่
หากไม่รู้ ก็หลง ต้องคอยถาง
หากไม่ได้ ไม่เป็นไร ฝึกตามทาง
หากไม่ห่าง จากธรรม รู้ได้เอง
lek:
อันความเจ็บ ที่กาย พิจารณา
รู้พึ่งพา เยียวยา แค่ทุกข์ขันธ์
ใจรู้จัก รักษา รู้ให้ทัน
เจ็บหายพลัน ที่ใจ เช่นนั้นเอง
เจ็บที่เกิด ยาวนาน เพราะใจปลุก
เจ็บเป็นทุกข์ ให้ทน มิโหวงเหวง
เจ็บตั้งอยู่ ให้รู้ เรานั่นเอง
เจ็บข่มเหง วังเวง ทุกข์วนเวียน
เจ็บแค่ไหน หายได้ เป็นบางช่วง
เจ็บเป็นห้วง เวลา ไม่เสถียร
เจ็บคอยเตือน ให้ใจ รู้พากเพียร
เจ็บจึงเปลี่ยน ได้เรียน ฝึกอดทน
เจ็บรู้สึก ที่ใจ ให้สร้างทุกข์
เจ็บจนจุก เพราะใจ นำเหตุผล
เจ็บใจกาย เกิดแล้ว เพราะตัวตน
เจ็บหลุดพ้น แยกได้ รู้วังเวียน
:19: :19:
หากมองดู ภายนอก ควรพินิจ
รู้จักคิด ไตร่ตรอง กรองเหตุผล
คุณหรือโทษ แยกแยะ ได้ด้วยตน
แล้วผ่านพ้น รู้คัด ตัดวางคลาย
หากมองดู ภายใน มองให้ลึก
ความรู้สึก สิ่งเดียว ใช่มีหลาย
มากระทบ ก็ดับ ก็มลาย
ที่ไม่หาย เพราะตน ยึดเอามา
หากมองดู เป็นกลาง ก็จะเห็น
ทุกสิ่งเป็น เช่นนั้น ทุกข์คอยหา
ใจไม่ทุกข์ รู้ทัน รู้กายา
รู้รักษา ตนรอด ปลอดวังวน
คิดพูดทำ นำไป ให้มีทาง
รู้สว่าง ย่อมดี มีเหตุผล
รู้แจ้งได้ ย่อมได้ ที่ใจตน
รู้อดทน พอดี พบสายกลาง
ทฤษฎี นั้นรู้ อยู่เต็มอก
แต่กลับพก แค่รู้ ทำไม่สาง
ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่รู้วาง
ฝึกตรงทาง ทำได้ พอที่ใจ
ที่เป็นอยู่ บ่งบอก ความรู้นั้น
ทุกสิ่งอัน เกิดเหตุ ผลก็ไหล
ทำอะไร พิจารณา ความเป็นไป
ตัวตนไร้ เหตุดับ ผลไม่มี
:19: :19:
เหตุภายนอก จะถูกผิด ขึ้นกับใจ
ให้เป็นไป ตามความคิด ซ้ายและขวา
อยู่ที่ใคร ตีความหมาย ให้ราคา
ประเมินมา ประเมินไป ตามสมควร
หากพอใจ ก็สบาย จิตผ่องใส
ชื่นฉ่ำใจ ยังอยากมี อยากให้หวล
ไม่พอใจ ก็แบกหนัก คิดคร่ำครวญ
ทุกข์แปรปรวน เพราะตนเอง ให้เกิดมี
หากวางเฉย สิ่งนั้นนี้ ไม่มีผล
รู้อดทน ไม่สร้างเหตุ หมดวิถี
โทษไม่มา ประโยชน์หมด ยังปราณี
เมตตานี้ ยังเหลือเหตุ และปัจจัย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version