ฤดูฝนเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ผ่านเข้ามาหาเราในหนึ่งปี ก็จะมีสัก 3 เดือน แต่ถ้าหากปะเหมาะเคราะห์ร้าย ก็อาจจะเจอเข้ากับพายุฝนก็จะตกนานหน่อย อาจจะสัก 4 เดือน ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบหน้าฝนเอาเสียเลย ถึงแม้หน้าฝนจะนำพาเอาอากาศที่เย็นสบาย จำนวนน้ำที่ต้องการ แต่ก็เป็นอุสรรคในการทำงานของบางท่าน ยิ่งคนที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร จะเข้าใจกันดี ฝนตก รถติด ปรกติก็ติดอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามาเจอเข้ากับฤดูฝนก็จะติดหนักยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
เขียนถึงเรื่องความชอบเกี่ยวกับหน้าฝนกันไปแล้ว ต่อไปก็จะมาเขียนถึงเรื่องบ้านที่เราอยู่อาศัยกัน แน่นอนฝนตกผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดกับตัวท่านเจ้าของบ้านเพียงอย่างเดียว ยังส่งผลกระทบไปถึงตัวบ้านของคุณด้วย
คุณต้องมาสำรวจดูว่าหลังจากที่ฤดูฝนผ่านไปแล้ว สภาพบ้านคุณยังเรียบร้อยอยู่ไหม มีส่วนใดเสียหายไปบ้าง สิ่งที่มาพร้อมกันกับฝนสิ่งแรกเลยก็คือน้ำฝน เมื่อมีน้ำมากๆ ความชื้นก็จะตามมา เมื่อน้ำฝนถูกกับไม้ที่เป็นโครงสร้างต่างๆ ของบ้าน เช่น คาน จันทัน พื้น และผนัง ที่เป็นไม้ ก็จะทำให้เกิดอาการไม้เปียกและแห้งไม่เสมอกัน ทำให้ยาไม้ที่อยู่ในเนื้อไม้เกิดอาการอ่อนตัว เป็นสาเหตุให้เชื้อเราในอากาศสามารถเข้าไปกัดกินเนื้อไม้และยางไม้ได ทำให้ไม้เกิดอาการผุแห้ง การป้องกันโดยวิธีทั่วไปคือ ใช้ไม้ที่ผ่านการผึ่งจนแห้งสนิทในการก่อสร้าง ควรทำการเคลือบผิวไม้เพื่อรักษาสภาพเนื้อไม้ให้คงทนและนานที่สุด ส่วนหน้าต่างหรือประตูที่เป็นโครงสร้างไม้ ก็มีโอกาสที่น้ำฝนจะซึมเข้าตัวบ้านได้เนื่องจากไม้มีการยืดและหดตัวตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
ปัญหาการรั่วซึม เมื่อปริมาณของน้ำฝนมาเป็นจำนวนมากๆ มันก็จะไหลไปตามรอยรั่วซึมของบ้านที่ยังไม่ได้ซ่อมแซม เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดการรั่วซึม ควรทำการก่ออิฐ ฉาบปูนปิดรอยแตก รอยแยกต่างๆ ทันทีหรือทำก่อนหน้าที่จะเข้าฤดูฝนที่ตัวบ้าน สีที่ใช้ทา ควรเป็นสีที่มีเนื้อเป็นฟิล์มและกันความชื้นได้ เพราะเนื้อสีจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปกปิดรอยร้าวต่างๆของตัวอาคารได้อีกทางหนึ่ง ราคาอาจจะสูงกว่าสีปรกติ แต่ก็ช่วยปกปิดรอยแตกรอยแยกได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้
ข้อสำคัญที่ต้องสำรวจอีกอย่างก็คือ บรรดาเหล่าคราบตะไคร้น้ำต่างๆ จับเกาะติดอยู่บริเวณต่างๆ ซึ่งเกิดผลกระทบจากสายฝน คราบเหล่านี้คุณต้องจัดการทำความสะอาดให้หมด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะทำความเสียหายต่อสีที่ทาอยู่ได้ ทำให้เกิดรอยด่างไม่สวยงาม และทำให้บ้านเก่าทรุดโทรม เกินกว่าเวลาอันควร
กำจัดเศษไม้และเศษขยะต่างๆ ที่ติดค้างอยู่บนหลังคาและรางระบายน้ำ หากบ้านคุณปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เพื่อบังแดดให้กับบ้านแล้ว แน่นอนว่าเมื่อฝนตกหนักๆ และลมแรงๆ จะพัดเอาเศษไม้ใบหญ้าต่างๆ ให้หล่นลงมาบนหลังคา และไหลมารวมกันที่รางระบายน้ำ ทำให้น้ำไหลระบายไม่สะดวก เมื่อฝนหยุดคุณควรจะทำการขึ้นไปจัดการเสีย เพื่อที่น้ำจะได้ไหลระบายสะดวก ไม่อุดตัน แต่ไหนๆ ขึ้นไปสำรวจทั้งที ก็พยายามสำรวจดูว่ามีกิ่งไม้ กิ่งไหนที่ยื่นเข้ามาในบ้านคุณ หรือยื่นทาบมาที่หลังคา ก็จัดการตัดกิ่งไม้ที่ใหญ่เกินและดูท่าทางจะหนักเกินไปนั้นทิ้งเสีย เพราะกิ่งไม้ใหญ่นี่เอง หากเกินการหักโค่นลงมาที่หลังคา อาจทำให้คุณต้องซ่อมแซมหลังคาบ้านกันครั้งใหญ่เลยทีเดียว
เชื้อรา เป็นตัวอันตรายที่มักจะมาหลังจากฤดูฝนเป็นศัตรูอันดับ 1 ที่เราไม่สามารถมองเห็นมันได้ ยิ่งถ้าเชื้อราเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านและที่บ้านไม่มีการระบายอากาศที่ดีเพียงพอแล้ว จะช่วยส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมกระตุ้นให้เชื้อราเติบโตได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่บ้านจะเกิดอันตราย เชื้อรายังนำอันตรายมาสู่คนอีกด้วย เพราะฉะนั้นหลังจากฤดูฝนแล้ว การระบายอากาศก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ควรเปิดบ้านให้อากาศได้ถ่ายเทเสมอ หรือไม่ก็เปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันอย่างง่ายๆ
ในฤดูฝนนี้ อย่าลืมตรวจสอบบ้านของคุณด้วย ว่าบ้านยังอยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าบ้านเกิดการเสียหายจากฤดูฝนก็ทำการซ่อมเสีย เพื่อที่จะได้กลับมาเป็นบ้านแสนรักของคุณต่อไป แล้ววันนี้ได้ตรวจดูหรือเปล่าว่า
”บ้านคุณสบายดีหรือยัง”ข่าวดี!!! สำหรับผู้ที่ชอบตกแต่งห้อง ตกแต่งบ้าน ห้ามพลาด! โฮมโปรเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงฝีมือแล้ววันนี้ ในการแข่งขัน
HomePro Champion ปีที่3 แนวคิด แต่งห้องเก่าให้ใหม่ปิ๊ง แบบไม่ต้องทิ้งของเดิม ในสไตล์ “Multi Function” คัด 10 ทีมชิงชัยในงาน HomePro EXPO เดือนตุลาคม พร้อมจับมือรายการ In Trend ออกอากาศทางช่อง 5 ทุกวันอาทิตย์ 16.35-17.00 น.
*** งานนี้ฟรี! ไม่ต้องพกเงินมา ขอแค่เพียงคุณมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี รวมตัวกันเป็นทีม ๆ ละ 3 คน มีไอเดียเด็ดๆ เพื่อทำการการตกแต่งห้องขนาด 4x4.5 เมตร
ชิงรางวัลบัตรกำนัลโฮมโปร มูลค่า 100,000 บาท ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2552 เท่านั้น!!! สามารถรับใบสมัครและสมัครเข้าแข่งขัน ได้ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า โฮมโปร และโฮมโปร พลัส ทุกสาขา ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 กรกฎาคม 2552 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2832-1040, 0-2832-1042 หรือ
www.homepro.co.th ดาวน์โหลดใบสมัคร หรือสมัครออนไลน์ได้ที่
http://www.homepro.co.th/homepro_acitivities/homeprochampion3.asp ขอบคุณเคล็ดลับเรื่องบ้านดีๆ จาก โฮมโปร (www.homepro.co.th)