ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อตอบปัญหา (พระราชพรหมยาน) 5  (อ่าน 1966 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ mmm

  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • ***
  • กระทู้: 206
  • พลังกัลยาณมิตร 109
  • <( O-O )>
    • ดูรายละเอียด




การทำบุญใส่บาตร
 
ผู้ถาม  “การที่เราทำบุญใส่บาตรตามหน้าบ้านกับพระที่เรารู้จักตามวัด  กับไปทำที่วัด  อันไหนจะมีอานิสงส์มากกว่ากันเจ้าคะ”
หลวงพ่อ  “คือว่าการใส่บาตรตามหน้าบ้านไม่เฉพาะเจาะจง   พระอะไรมาก็ใส่  อย่างนี้ก็เป็นสังฆทาน  ทีนี้ไปใส่บาตรตามพระที่ชอบใช่ไหม”
ผู้ถาม  “ไม่ใช่ชอบค่ะ  คือว่าศรัทธาค่ะ”
หลวงพ่อ  “ชอบกับศรัทธาก็ครือกันละ  ถ้าศรัทธาฉันตั้งแต่  4  องค์ขึ้นไป  เป็นสังฆทานมีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้าหากท่านฉันตั้งแต่ 1 องค์ถึง 3 องค์ อย่างนี้เป็น “ปาฏิปุคคลิกทาน”
ผู้ถาม  “มีอานิสงส์มากไหมคะ”
หลวงพ่อ  “มีโยม  ถ้าเป็นปาฏิปุคคลิกทาน  ถ้าวัดกันตามลำดับแย่นะ  ไล่เบี้ยตั้งแต่ให้ทานกับคนไม่มีศีล  จนถึงพระอรหันต์มีอานิสงส์ไม่เท่ากัน  แต่จะพูดสรุปโดยย่อว่า
                     ถวายทานกับพระอรหันต์ 100 ครั้ง   มีผลไม่เท่ากับถวายทานกับพระพุทธเจ้า 1 ครั้ง
                     ถวายทานกับพระพุทธเจ้า 100  ครั้ง  มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน 1 ครั้ง
                     และถ้าถวายสังฆทาน 100 ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน 1 ครั้ง คือสร้างวิหาร มีการก่อสร้าง เช่น สร้างส้วม ศาลาการเปรียญ กุฏิ โบสถ์ วิหาร เป็นต้น
                     การถวายสังฆทาน 1 ครั้งในชีวิต  และถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์มีศรัทธาแท้  พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า  ผลของสังฆทานนี้จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวายเกิดไปทุกชาติ  ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไม่มี  ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากขัดสน  คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่เกิดในที่นั้น  ผลที่ให้ไปไกลมาก  ท่านกล่าวว่า  แม้แต่พระพุทธญาณเองก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวายสังฆทาน
                     คำว่า “ไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน”  หมายความว่า  แม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน  บำเพ็ญบารมีแล้ว  แล้วเกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม  จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน  อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด  นี่เป็นอำนาจของการถวายสังฆทาน
                     ฉะนั้น  การถวายทานเป็นส่วนบุคคล  กับถวายเป็นสังฆทาน  อานิสงส์มันต่างกันหลายแสนเท่า  แล้วก็ยังมีอีกเวลาหนึ่ง  ถ้าพระออกจากสมาบัติ นี่คูณหนักเข้าไปอีกไม่รู้เท่าไร
                     ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระมีผลไม่เสมอกันอยู่อย่างหนึ่งคือ  หมายความว่าถวายทานแก่พระที่มีจิตกำลังฟุ้งซ่านไปด้วยอำนาจนิวรณ์  5  ประการ  อย่างนี้เราถวายกี่หมื่นกี่แสน  อานิสงส์มันก็ไม่มาก
                     ถ้าหากว่าถวายแก่ท่านผู้ปฏิบัติกรรมฐาน  ถ้าหากเข้าถึงจิตบริสุทธิ์  เรื่องบริสุทธิ์แค่ไหนก็ช่าง  อย่างน้อยที่สุดก็มีขณิกสมาธิ  อุปจารสมาธิ  บางท่านก็เข้าถึงฌานสมาบัติ  บางท่านที่เป็นพระอริยเจ้า ก็เข้าถึงผลสมาบัติ  ถ้าถวายทานกับท่านที่ออกจากนิโรธสมาบัติ  หมายความว่าให้คนเดียวนะ ก็ให้ผลปัจจุบันทันด่วน ได้ผลวันนั้นเลย”
ผู้ถาม  “แล้วอย่างการใส่บาตร โดยเราลงมือใส่เอง  กับให้ลูกจ้างคือเด็กของเราใส่แทน อย่างไหนจะได้บุญมากกว่าคะ”
หลวงพ่อ  “เราไปไม่ได้แต่ให้คนอื่นไป  ได้บุญเท่ากัน  แต่เราใส่เอง เราเกิดความปลื้มใจ อันนี้ได้กำไรอีกนิด  แต่ผลของทานมันเสมอกัน”
ผู้ถาม  “เวลาเราใส่บาตรไปแล้ว  ถ้าหากว่าพระไม่ได้ฉันอาหารของเรา  เราจะได้บุญไหมคะ”
หลวงพ่อ  “บุญมันเริ่มได้ตั้งแต่คิดว่าจะให้แล้วนะ  พระจะฉันหรือไม่ฉันไม่ใช่ของแปลก  คือการให้ทาน  ตัวให้นี่มันตัดความโลภ  และตัวให้นี่กันความจนในชาติหน้า  อันดับรองลงมา “ทานัง  สัคคโส ปานัง”  ทานเป็นบันไดให้เกิดในสวรรค์
                     ทีนี้พอเริ่มให้ปั๊บ  มันเริ่มได้ตั้งแต่เราตั้งใจ  การตั้งใจน่ะมันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วนะ  เช่น  คิดว่าพรุ่งนี้จะใส่บาตร  ข้าวขันนี้เราไม่กินแน่นอน  คิดว่าเราจะไม่กินเอง  ตั้งแต่วันนี้คิดว่าจะใส่บาตร นี่บุญมันเกิดตั้งแต่เวลานี้
                     แต่พอถึงพรุ่งนี้ต้องใส่จริง ๆ นะ  อย่านึกโกหกพระไม่ได้นะ  ไม่ใช่แกล้งนึกทุกวัน ๆ คิดว่านึกได้บุญ  เลยไม่ได้ใส่บาตรสักที  นี่ดีไม่ดีฉันพูดไปพูดมาเสียท่าเขานะ
                     แต่คิดว่าจะทำจริง ๆ นะ คือพรุ่งนี้จะใส่บาตรแน่ ๆ  แต่ว่าวันนี้เกิดตายก่อน นี่ได้รับ 100 เปอร์เซนต์เลย  ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าบอกนั่นแหละ
                     “เจตนาหัง  ภิกขเว  ปุญญัง  วทามิ”
                     “ดูก่อน  ภิกษุทั้งหลาย  เรากล่าวว่าตัวตั้งใจเป็นตัวบุญ”
                     พระพุทธเจ้าบอกว่า  มันมีผลตั้งแต่การตั้งใจเริ่มสละออก  พอคิดว่าเริ่มจะทำ  อารมณ์มันตัดตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว  ถือว่าไม่ได้เป็นของเราแล้ว  มันได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
ผู้ถาม  “หลวงพ่อคะ  การใส่บาตรวิระทะโย  มีอานิสงส์อย่างไรคะ”
หลวงพ่อ  “อานิสงส์เท่ากับถวายสังฆทานธรรมดาไม่ต่างกัน  อานิสงส์เหมือนกันหมด  แต่ว่าใช้วิระทะโย (คาถาภาวนากันจน)  มันมีผลปัจจุบัน  ชาตินี้ทำให้เงินไม่ขาดตัว  ถ้าใส่บาตรทุกวัน  สวดมนต์อยู่เสมอ  ถ้าจะหมดก็มีมาต่อจนได้  ถ้าแบ่งเวลาทำสมาธิละก็ขลังมาก  รวยมากหน่อย”


ถวายพระพุทธรูปเป็นสังฆทาน
 
ผู้ถาม  “หลวงพ่อขอรับ  ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์  เขาเขียนเกี่ยวกับเรื่องการถวายพระพุทธรูปเป็นสังฆทาน  เขาบอกว่า  ถ้าถวายพระพุทธรูปเป็นสังฆทานนั้น  ถ้าองค์ใหญ่ได้บุญมาก  ถ้าองค์เล็กได้บุญเล็ก  แต่ลูกไม่ค่อยมีสตางค์  ถวายองค์เล็กทุกครั้ง  แต่กำลังใจของลูกใหญ่โต  เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว  ลูกอยากจะทราบว่า  การกระทำของลูกถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกหลวงพ่อช่วยแก้ไขด้วยเถิดขอรับ”
หลวงพ่อ  “ให้ถูกตรงไหนล่ะ”
ผู้ถาม  “แหม...มีสตางค์น้อยก็อยากได้บุญเยอะ ๆ”
หลวงพ่อ  “ความจริงถ้าเขาเต็มใจนะ  ทำด้วยศรัทธาแท้ได้บุญใหญ่  พระพุทธรูปก็คือพระพุทธเจ้า  ใช่ไหมล่ะ...โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าเป็นบุญใหญ่อยู่แล้ว  การถวายพระพุทธรูปถ้าเป็นเทวดาเป็นนางฟ้าเป็นพรหม  จะสวยมาก  แสงสว่างมาก  องค์เล็กก็แสงสว่างมาก  องค์ใหญ่ก็แสงสว่างมาก”
ผู้ถาม  “อานิสงส์ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นะ  องค์เล็กองค์ใหญ่”
หลวงพ่อ  “ก็ใช่...องค์เล็กก็ถวายบ่อย ๆ ซิ”
ผู้ถาม  “ต่อไปก็สะสมใหญ่เอง”
หลวงพ่อ  “ใช่ ๆๆๆ  หลาย ๆ วาระใช่ไหม..แต่ว่ามีวิธีหนึ่งได้ง่าย ๆ  เห็นเขาแบกองค์ใหญ่มา  เราเต็มใจโมทนา”
ผู้ถาม  “อย่างนี้พลอยได้กับเขาด้วย”
หลวงพ่อ  “ใช่ ๆๆๆ  เอาหลาย ๆ หนไม่ต้องลงทุนได้เท่าเจ้าของ”
ผู้ถาม  “อย่างนี้ต่อไป เวลามาซอยสายลม ก็ไม่ต้องเตรียมสตางค์มาเลย”
หลวงพ่อ  “ไม่ต้อง ๆๆๆ  เอาแบงก์มาก็แล้วกัน”  (หัวเราะ)



ช่วยลำเลียงสังฆทาน
 
ผู้ถาม  “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง  คือพวกลูก ๆ นี่มาที่ซอยสายลมก็ชอบอยู่ด้านใน  ช่วยลำเลียงสังฆทานบ้าง  ขายของบ้าง  ลูกก็คิดว่าหลวงพ่อคงไม่เห็นหรอก  การทำบุญด้านหลังอย่างนี้  หลวงพ่อเจ้าขา จะมีอานิสงส์เหมือนกับอยู่ด้านหน้าหรือเปล่าเจ้าคะ”
หลวงพ่อ  “ก็ไม่แน่นะ  ด้านหลังอาจจะได้มากกว่าก็ได้  ได้แต่เก็บอย่างเดียวนี่  เท่ากันนั่นแหละสมบูรณ์ ๆ  ก็ดีด้วยนะ  อานิสงส์มากนะ  ถ้าอย่างเบา ๆ นะ ตายไปแล้วจะมีบริวาร 8 พันคน  อย่างเบานะ  นี่เราไม่พูดถึงนิพพานกัน”
(และมีอยู่วันหนึ่ง  หลวงพ่อได้เสริมเรื่องนี้โดยเฉพาะว่า)
          “เออนี่...พูดถึงเรื่องพวกช่วยขนของ เกี่ยวกับอธิษฐานบารมี  อย่างพระเจ้าจัณทปัจโชติใช่ไหม  พระเจ้าจันทปัชโชตินี่  ท่านช่วยเขาหยิบข้าวไปใส่บาตรพระเที่ยวเดียวนะ  วิ่งมาดูแล้วก็เอาไป  เพียงเท่านี้ท่านอธิษฐาน
          “ในฐานะที่ข้าพเจ้าวิ่งไปวิ่งมาด้วยความเร็ว  เกิดไปชาติหน้าขอให้มีพาหนะเร็วที่สุด”
          และต่อมาก็มีช้างเดินได้วันละ  120  โยชน์  มีม้าวิ่งได้วันละ  80  โยชน์  ไปเป็นเทวดาก่อนนะ  และแถมลงมาจากเทวดาเป็นพระราชาด้วยนะ  นั่นเที่ยวเดียวนะ  และไอ้พวกนี้กี่เที่ยวล่ะ  ไอ้บุญนี่สั่งสมทีละน้อย ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็ก  เรื่องใหญ่มาก”



ถวายสังฆทานให้ผู้ตาย
 
ผู้ถาม  “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง  เกี่ยวกับเรื่องถวายสังฆทานนี้  ผมได้รับคำแนะนำมาว่า  คนที่ตายไปใหม่ ๆ หากรีบถวายสังฆทานทันทีทันใด  ท่านสามารถรับได้ เพราะวิญญาณยังล่องลอยอยู่  ลูกก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นจริงหรือไม่  กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า  เป็นความจริงหรือเปล่าครับ  ที่คนตายใหม่ ๆ วิญญาณยังรอคอยคนที่จะช่วยเหลือได้ในภายหลัง”
หลวงพ่อ  “จะเอาแน่นอนหรือไม่แน่ล่ะ”
ผู้ถาม  “มีสองอย่างหรือครับ
หลวงพ่อ  “ใช่ ๆ”
ผู้ถาม  “เอาสองอย่างเลยครับ”
หลวงพ่อ  “เอาอย่างเดียวก่อน  เอาให้รู้แน่นอนนะ  ลองผูกคอตายดู  วิญญาณจะไปไหนหรือไม่ไป ...(หัวเราะ)   ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะ  ถ้าบาปหนักจริง ๆ  ลงนรกทันที  ไม่ผ่านสำนักพระยายม  ถ้าความชั่วก็มีความดีก็ปรากฎไม่รุนแรงนัก  ผ่านสำนักพระยายม  แต่ถ้าจิตนึกไปทางกุศล  ไปสวรรค์ทันทีเหมือนกัน
ผู้ถาม  “ไปเลยหรือครับ...ไม่ต้องมาล่องลอย”
หลวงพ่อ  “ใช่”
ผู้ถาม  “มีคนข้างบ้านแนะนำมาว่า คนที่ตายวันใด  ถวายสังฆทานชุดใหญ่ทันทีที่ซอยสายลม จะมีผลให้แก่ผู้ตายทันที  ก็คงจะมีผลตามคนข้างบ้านแนะนำมาใช่หรือไม่ขอรับ”
หลวงพ่อ  “ขอยืนยันว่า..ใช่”
ผู้ถาม  “ใช่อะไรครับ”
หลวงพ่อ  “ไม่รู้”  (หัวเราะ)
ผู้ถาม  “ไอ้ที่ถวายใช่ไหมครับ”
หลวงพ่อ  “ใช่”
ผู้ถาม  “จะได้หรือไม่ได้  ก็...”
หลวงพ่อ  “ใช่...จะได้ไม่ขัดคอกัน   แต่ความจริงถ้าใหม่ ๆ โอกาสมีนะ  และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง  คนที่ลูกหลานห่วงแบบนี้ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเป็นกุศล  ถ้าเป็นอกุศลเขาจะนึกไม่ออก ถ้าเป็นกุศลจะนึกออก”
ผู้ถาม  “เป็นอันว่าเจตนาดีนะ  ตั้งใจอุทิศเจาะจง..มีสิทธิ์ ๆ”
หลวงพ่อ  “คือว่าท่านที่ตายจะต้องเป็นคนมีบุญ  ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีการดลใจให้รีบทำ  ไอ้นี่เรื่องดลใจนะ  มิฉะนั้นก็เทวดาที่รักษาตัว  ท่านที่เป็นเพื่อนท่านดลใจให้รีบทำ  บุญอาจจะน้อยไปหน่อย”





ขอขอบคุณที่มา http://www.kaskaew.com/    :45: :45: :45:
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง
ผู้ก่อกรรมดี   ย่อมได้รับกรรมดี
ผู้ก่อกรรมชั่ว ย่อมใด้รับกรรมชั่ว
"ใช้ใจดู จะรู้จิต  ใช้จิตดู จะรู้ใจ"

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: หลวงพ่อตอบปัญหา (พระราชพรหมยาน) 5
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 07:22:30 pm »
 :45: อนุโมทนาสาธุครับ
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~