รอสะดวก เราค่อยไปด้วยกันค่ะน้องบัว...
.._ _
Krisadawan Kalsang Dawa
26 มกราคม เวลา 23:28 น. ·
หลังประชุมและทำงานเอกสารกองโตอย่างเร่งด่วนสามวันที่ผ่านมานี้ วันนี้ครูก็ตัดสินใจหยุดทำงานชั่วคราวแล้วเดินทางกลับสู่ขทิรวันอันเป็นที่รัก
ค่ำนี้ได้กลับมาอยู่กับความสงบเงียบของบ้านป่าอีกครั้ง
คืนนี้ไม่มีแสงเดือนแต่มีแสงดาวระยิบระยับพร้อมกับเมฆทาบฟ้าดุจกลดรอบจันทร์หม่น ไม่ว่าจะยามใด ธรรมชาติก็ช่างงดงามและมีอานุภาพเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้า
ก่อนขึ้นมาที่พัก พนักงานของศูนย์ฯ บอกว่าได้ไถ่ชีวิตไก่โต้งที่กำลังจะถูกนำไปเชือด เขาขอเลี้ยงไก่ตัวนี้ ครูอนุญาตด้วยความยินดี
ช่างเป็นกุศลที่พนักงานของเราได้ไถ่ชีวิตสัตว์และสัตว์นั้นมีบ้านใหม่ ณ ขทิรวันแห่งนี้ นี่เป็นของขวัญก่อนที่ตรุษจีนและตรุษทิเบตจะมาเยือนซึ่งจะเป็นการอำลาปีระกาอย่างแท้จริง
อีกสิ่งดีๆ ที่ได้ทำในค่ำนี้คือการสวดมนตราแห่งความกรุณา “โอม มา ตรี มู เย ซา เล ดู” เพื่ออุทิศให้แก่ผู้จากไปรวมทั้งไก่ที่ถูกนำไปเชือดทั้งตัวที่ได้ตายไปนานแล้วและตัวที่เพิ่งตายจากไป
สัตว์ใด มนุษย์ใด ในวาระสุดท้ายของชีวิต หากไม่เคยได้เตรียมจิตหรือนึกถึงความตายเลย คงจะเจ็บปวดอย่างมากด้วยเวทนาทางกายและทุกข์ทางใจ
มนตราบทนี้มีพลานุภาพที่จะทำให้หัวใจแข็งกระด้างอ่อนโยน ที่จะทำให้ความรักท่วมท้นใจเราแล้วแผ่ไปสู่สัตว์เล็กสัตว์น้อย
: สู่ผู้จากไปทั้งในวัยทารก เด็ก หนุ่มสาว และแก่ชรา
: สู่ผู้มีทุกข์จากการถูกจองจำ ถูกทำโทษแสนสาหัส
: ผู้ขาดอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งของ และผู้มีแต่ความปรารถนาที่จะได้รับประโยชน์จากผู้อื่นอย่างไม่รู้จักจบสิ้นและพอเพียง
: ผู้ไม่เคยอนุโมทนาหรือยินดีต่อผู้ใดเพราะจิตเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
: ผู้ไม่เคยพบสันติภาพเพราะมุ่งเน้นแต่จะสู้รบกับผู้อื่น
: ผู้ไม่ได้วางแผนที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเมื่อความทุกข์มาเยือนอย่างฉับพลัน
: นักเดินทางที่ว้าเหว่ โดดเดี่ยว บนเส้นทางแห่งบาร์โดที่เต็มไปด้วยภาพลวงตาที่จิตสร้าง
ขอแสงแห่งมนตราที่ส่องสว่างกลางใจ แผ่ไปมา ขึ้นและลง สลายสังสารวัฏ ภพภูมิ และน้อมนำให้ทุกชีวิตได้เข้าถึงการหลุดพ้นด้วยเทอญ
กฤษดาวรรณ
26/01/60