แสงธรรมนำใจ > วัชรยาน
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแบบทิเบตแห่งแรกของประเทศไทย
(1/1)
ฐิตา:
ในวันที่รุ้งกินน้ำหลังอบรมวิถีฑากินี มิถุนายน 2552
สถานปฏิบัติธรรมแห่งป่าสีเสียด
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแบบทิเบตแห่งแรกของประเทศไทย
มูลนิธิพันดาราสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมแบบทิเบตแห่งแรกของประเทศไทยบนเนื้อที่ 68 ไร่ที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ภูเขาสูง และทะเลสาบธรรมชาติ ณ ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้มีชื่อว่า “ภัทรกัลป์ตาราขทิรวัน” หรือเรียสั้นๆว่า “ขทิรวัน” หมายถึงป่าขทิระหรือป่าสีเสียด
ขทิรวันเป็นชื่อสวรรค์ของพระแม่ตารา พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา ตามตำนานและในบทสวดมนตร์กล่าวว่าพระองค์กำเนิดจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวรหรือ ที่คนไทยรู้จักในนามของ “เจ้าแม่กวนอิม”เมื่อคราวกรรแสงที่เห็นสัตว์นรกมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
จุดเด่นของศูนย์ปฏิบัติธรรมนี้คือเป็นที่ประดิษฐาน พระศานติตารามหาสถูป ซึ่งจะก่อสร้างตามแบบพุทธศิลป์ทิเบตโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่กราบสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนกาย วาจา ใจของพระพุทธเจ้า
จุดเด่นอีกประการของศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้คือการเป็นสถานที่ฝึกจิตตามแนวการปฏิบัติซกเช็นและเป็นสถานที่จำศีลปลีกวิเวกเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
การบริหารงานของขทิรวันจะเป็นไปตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ป่าขทิระแห่งนี้เป็นป่ารื่นรมย์ทางจิตวิญญาณ และเน้นการทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน
นอกจากนี้ ขทิรวันจะเป็นที่ตั้งของห้องสมุด เพื่อให้ผู้สนใจเรื่องราวของทิเบตและหิมาลัยรวมทั้งเรื่องการแพทย์แบบทิเบตได้มีแหล่งเรียนรู้
การตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมนี้เป็นทางเลือกหนึ่งให้คนไทยได้แสวงหาความหมายของการดำรงชีวิตโดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้เกิดความรักใคร่ปรองดองในสังคม และเพื่อน้อมนำให้เกิดความสุขและสันติภาพบนโลก
ภาพข้างบนแสดงขทิรวันในวันแรกๆที่เราเข้าไปพัฒนา (สิงหาคม 2550)
ภาพต่อไปนี้แสดงขทิรวันในปัจจุบัน
ในวันที่เรือนปฏิบัติธรรมบ้านดินสร้างเสร็จ กุมภาพันธ์ 2553
ในวันเสวนาบทบาทของสตรีในพระพุทธศาสนา มีนาคม 2553
ฐิตา:
วิธีการเดินทาง
1 การเดินทางโดยรถประจำทาง หรือรถทัวร์ สามารถขึ้นรถทัวร์ได้ที่สายใต้ใหม่ ขึ้นรถ กทม-หัวหิน-ปราณ ลงรถที่อ.หัวหิน จากท่ารถต้องเดินมาขึ้นรถสองแถว ที่คิวรถสองแถวหัวหิน-หนอง พลับ ประมาณ 200 เมตร (หน้ามูลนิธิหัวหิน) สอบถามจากวินมอเตอร์ไซด์ หรือคนแถวนั้น ตอนลงจากรถทัวร์ว่าคิวรถอยู่ตรงไหน
2 รถตู้จากอนุเสาวรีย์ชัยฯ กทม-หัวหิน หรือ มาลงที่อ.หัวหิน เดินมาขึ้นรถสองแถวที่คิวรถหัวหิน-หนองพลับ 100 เมตร แจ้งรถสองแถวว่าต้องการลงที่ศูนย์ทิเบตบริเวณหมู่บ้านมะค่าสี่ซอง เลยอบต หนองพลับ ประมาณ 7 กิโล
: http://krisadawan.wordpress.com/2010/05/25/how-to-get-to-khadiravana/
:13: : http://www.sookjai.com/index.php?topic=3246.0
ดอกโศก:
ถ้าพี่แป๋มแวะไป ฝากกราบครูกฤษ ด้วยนะคะ
แสนจะคิดถึงครูค่ะ
:13:
ฐิตา:
รอสะดวก เราค่อยไปด้วยกันค่ะน้องบัว...
:19:
.._ _
Krisadawan Kalsang Dawa
26 มกราคม เวลา 23:28 น. ·
หลังประชุมและทำงานเอกสารกองโตอย่างเร่งด่วนสามวันที่ผ่านมานี้ วันนี้ครูก็ตัดสินใจหยุดทำงานชั่วคราวแล้วเดินทางกลับสู่ขทิรวันอันเป็นที่รัก
ค่ำนี้ได้กลับมาอยู่กับความสงบเงียบของบ้านป่าอีกครั้ง
คืนนี้ไม่มีแสงเดือนแต่มีแสงดาวระยิบระยับพร้อมกับเมฆทาบฟ้าดุจกลดรอบจันทร์หม่น ไม่ว่าจะยามใด ธรรมชาติก็ช่างงดงามและมีอานุภาพเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้า
ก่อนขึ้นมาที่พัก พนักงานของศูนย์ฯ บอกว่าได้ไถ่ชีวิตไก่โต้งที่กำลังจะถูกนำไปเชือด เขาขอเลี้ยงไก่ตัวนี้ ครูอนุญาตด้วยความยินดี
ช่างเป็นกุศลที่พนักงานของเราได้ไถ่ชีวิตสัตว์และสัตว์นั้นมีบ้านใหม่ ณ ขทิรวันแห่งนี้ นี่เป็นของขวัญก่อนที่ตรุษจีนและตรุษทิเบตจะมาเยือนซึ่งจะเป็นการอำลาปีระกาอย่างแท้จริง
อีกสิ่งดีๆ ที่ได้ทำในค่ำนี้คือการสวดมนตราแห่งความกรุณา “โอม มา ตรี มู เย ซา เล ดู” เพื่ออุทิศให้แก่ผู้จากไปรวมทั้งไก่ที่ถูกนำไปเชือดทั้งตัวที่ได้ตายไปนานแล้วและตัวที่เพิ่งตายจากไป
สัตว์ใด มนุษย์ใด ในวาระสุดท้ายของชีวิต หากไม่เคยได้เตรียมจิตหรือนึกถึงความตายเลย คงจะเจ็บปวดอย่างมากด้วยเวทนาทางกายและทุกข์ทางใจ
มนตราบทนี้มีพลานุภาพที่จะทำให้หัวใจแข็งกระด้างอ่อนโยน ที่จะทำให้ความรักท่วมท้นใจเราแล้วแผ่ไปสู่สัตว์เล็กสัตว์น้อย
: สู่ผู้จากไปทั้งในวัยทารก เด็ก หนุ่มสาว และแก่ชรา
: สู่ผู้มีทุกข์จากการถูกจองจำ ถูกทำโทษแสนสาหัส
: ผู้ขาดอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งของ และผู้มีแต่ความปรารถนาที่จะได้รับประโยชน์จากผู้อื่นอย่างไม่รู้จักจบสิ้นและพอเพียง
: ผู้ไม่เคยอนุโมทนาหรือยินดีต่อผู้ใดเพราะจิตเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
: ผู้ไม่เคยพบสันติภาพเพราะมุ่งเน้นแต่จะสู้รบกับผู้อื่น
: ผู้ไม่ได้วางแผนที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเมื่อความทุกข์มาเยือนอย่างฉับพลัน
: นักเดินทางที่ว้าเหว่ โดดเดี่ยว บนเส้นทางแห่งบาร์โดที่เต็มไปด้วยภาพลวงตาที่จิตสร้าง
ขอแสงแห่งมนตราที่ส่องสว่างกลางใจ แผ่ไปมา ขึ้นและลง สลายสังสารวัฏ ภพภูมิ และน้อมนำให้ทุกชีวิตได้เข้าถึงการหลุดพ้นด้วยเทอญ
กฤษดาวรรณ
26/01/60
Siranya:
:46:สาธุ สาธุ สาธุ จ้ะ :45: :45: :45:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
Go to full version